ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ
มงคล วัชรางค์กุล
สัมผัสชีวิตคนกรุงระดับธรรมดา
บนรถเมล์สาย 8
รับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่
ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อ 22 พฤษภาคม 2565 ต้องบันทึกว่าคืนวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ฝนตกหนักในกรุงเทพฯ หลายเขตน้ำท่วมถนนหนทางจนการจราจรติดขัดขนาดหนักที่สุด สาเหตุเป็นเพราะ
ท่อตัน (ขยะเข้าไปอุด)
บางเขตเครื่องสูบน้ำเสีย
บางเขตไม่มีแบตเตอรี่สตาร์ตเครื่องสูบน้ำ
น่าสงสารชีวิตคนกรุงเทพฯ ที่ต้องเผชิญชะตากรรมจากความไม่พร้อมรับมือกับฝนตกหนักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เป็นปัญหาโลกแตกตั้งแต่สมัยผู้ว่าฯ กทม.ชื่อจำลอง ศรีเมือง ที่โทษว่าเป็นเพราะฝนพันปีตก (น้ำจึงท่วมถนนกรุงเทพฯ)
วันรุ่งขึ้น 18 พฤษภาคม 2565 ผมมีภารกิจต้องเดินทางจากบ้านพักซอยอารีย์สัมพันธ์ 3 ไปทำธุระที่ปากซอยลาดพร้าว 120 เดินทางไปและกลับด้วยรถเมล์สาย 8 ได้เห็นชีวิตคนธรรมดาชาวกรุงที่ต้องใช้ชีวิตวันละหลายชั่วโมงบนรถเมล์ (รวมทั้งตัวผมด้วย) นำมาเล่าสู่กัน
ดังนี้
ผมขึ้นรถเมล์สาย 8 จากป้ายปากซอยอารีย์ตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง เป็น “รถร้อน” คือรถไม่มีแอร์ ใช้เปิดหน้าต่างเอา ถือว่าเป็นการเดินทางที่ดีในช่วงโควิดระบาด การไม่ต้องอยู่ในห้องแอร์กับกลุ่มผู้คน ย่อมมีความเสี่ยงน้อยลง แต่ก็ต้องทนร้อนเอาในช่วงที่รถจอดติดนาน ไม่ขยับเขยื้อน ซึ่งเกิดขึ้นเกือบตลอดการเดินทาง เพราะถึงแม้ฝนจะไม่ตก แต่ถนนลาดพร้าวรถก็ติดสาหัส ด้วยกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้ากลางถนน
ผมเสียค่าโดยสาร 5 บาท จ่ายครึ่งราคาแสดงบัตรประชาชนในฐานะผู้อาวุโส คาดการณ์ไว้ว่าจะถึงที่หมายในเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่จริงๆ ต้องใช้เวลาถีง 1 ชั่วโมง 15 นาที นั่งนานจนคุ้ม
ขากลับ ท้องฟ้ามืดครึ้มฝนทำท่าจะตก ขึ้นรถเมล์สาย 8 ที่ป้ายปากซอยลาดพร้าว 120 ตอน 5 โมง 45 นาที เป็น “รถร้อน” เหมือนเดิม แต่คราวนี้คนนั่งเต็มมาแล้ว ทำท่าจะต้องยืน พอดีมีเด็กหนุ่มใจดีลุกให้นั่งเบาะแรกหลังคนขับ
รถติดมาก นานๆ จะได้ขยับเสียที คุณลุงโชเฟอร์จึงหาเรื่องชวนสนทนากับผม ส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาจากหลังพวงมาลัย เริ่มต้นว่า
สงครามยูเครนจะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามไหม?
จะมีการรบกันด้วยระเบิดนิวเคลียร์หรือเปล่า?
แล้วกรุงเทพฯ จะมีโอกาสโดนนิวเคลียร์ไหม?
เออหนอ นั่งอยู่หลังพวงมาลัยสาย 8 ก็ยังอดห่วงใยกรุงเทพฯ ไม่ได้
คุณลุงเล่าเหตุการณ์สำคัญว่า
เมื่อเช้าออกวินจากการเคหะคลองจั่นช่วง 6 โมงเช้า คนขึ้นเต็มตั้งแต่ต้นทาง รถติดสาหัสเพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก น้ำยังท่วมถนน บางแห่งท่วมขนาดแทบเข้ามาในรถ
น้ำท่วมถนนเพราะท่อตัน
คนในรถเบียดแน่นเอี้ยด มีผู้หญิงท้อง 2 คนขึ้นมา ไม่มีใครลุกให้นั่ง ต้องจัดให้มานั่งบนเบาะครอบฝากระโปรงเครื่องข้างคนขับ
เธอทั้ง 2 คนนั่งหลับคาฝากระโปรงครอบเครื่อง
ลองนึกภาพดู คนเบียดเสียดกันแน่นรถเมล์ที่แทบไม่ขยับ จะร้อนทรมานขนาดไหน
นี่คือชีวิตคนธรรมดาชาวกรุงที่ต้องอดทนลูกเดียว
คุณลุงเล่าว่า จาก 6 โมงเช้าที่คลองจั่นมาถึงปลายทางสะพานพุทธตอน 10 โมงเช้า รวม 4 ชั่วโมงเต็ม
เวลานานขนาดนี้ วิ่งจากกรุงเทพฯ ถึงขอนแก่นสบายๆ
ขากลับวิ่งจากสะพานพุทธถีงคลองจั่นตอนเที่ยง เพิ่งได้หนึ่งเที่ยว
ตอนที่ผมขึ้นรถมานั้นเป็นการวิ่งเที่ยวที่ 3 ของวัน
คุณป้าทำหน้าที่กระเป๋าเสริมว่า ฝนตก รถติด พวกหนูก็เดือดร้อน วิ่งได้น้อยเที่ยวลง ขาดรายได้ไปเยอะเลย แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ปกติรถสาย 8 จะวิ่งได้วันละ 4 เที่ยว ลุงโชเฟอร์คาดว่าจะวิ่งถึงสะพานพุทธตอนหนึ่งทุ่ม แต่คืนนั้นมาจอดส่งผมที่ปากซอยอารีย์ก็ปาไปหนึ่งทุ่ม 10 นาทีแล้ว กว่าจะถึงสะพานพุทธไม่น่าจะก่อน 2 ทุ่ม
กลับมาถึงคลองจั่นคงปาไปสี่-ห้าทุ่ม หมดเวลาสำหรับคืนนี้ ทำรอบได้เพียง 3 เที่ยว
รถเมล์ร้อนสาย 8 คือรถเมล์ให้เช่า ประเภทผัวขับ เมียเป็นกระปี๋เก็บตังค์ค่าตั๋ว
เป็นหนทางทำมาหากินของ “คนธรรมดา” พวกหนึ่ง
ลุงโชเฟอร์เล่าว่า เสียค่าเช่ารถวันละ 2,500 บาท ถ้าได้วิ่งครบ 4 เที่ยวก็พอมีรายได้มากินใช้บ้าง แต่ถ้าวิ่งแค่ 3 เที่ยวอย่างวันนี้ก็ลำบากหน่อย
ลุงโชเฟอร์ยังเล่าเสริมว่า อีกไม่กี่เดือนก็จะยกเลิกรถร้อนสาย 8 แล้ว จะเอารถแอร์ไฟฟ้ามาวิ่งแทน
ถึงตอนนั้น ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรกิน
แต่ก็ยังดีกว่าสาย 44, สาย 122 ที่ตอนนี้ยกเลิกหยุดวิ่งไปเลย
ท้ายที่สุด ลุงโชเฟอร์ที่ผมสังเกตว่าขับรถดีมาก มีน้ำใจหยุดรถให้รถเก๋งที่ออกจากซอยเลี้ยวเข้าเลนตลอด ฝากบอกถึงคนที่ชอบรายงานการขับรถฟ้องไปกรมการขนส่งทางบกว่า
ขออย่าได้แกล้งรายงานเรื่องไม่จริง เพราะโชเฟอร์จะถูกปรับครั้งละ 200-300 บาท บางคนมีเด็ก 5 ชีวิตรอกินข้าวอยู่ที่ห้อง
บางคนถูกปรับ ต้องกินข้าวกับน้ำปลา
ขอเป็นกำลังใจให้เหล่าโชเฟอร์นักสู้ชีวิตทุกคน
และเป็นกำลังใจให้ชาวกรุงเทพมหานครที่จะได้ผู้ว่าฯ คนใหม่จากเลือกตั้ง…ทุกอย่างคงจะดีขึ้น?
ใต้ภาพ
เบาะรองนั่ง เหนือฝากระโปรงครอบเครื่อง