มหากาพย์คดีแตงโม ฟันเพิ่มแก๊งสปีดโบ๊ต ตะลึงภาพลับโผล่ว่อน แม่รับให้มือถือบังแจ็ค/อาชญากรรม อาชญา ข่าวสด

อาชญากรรม

อาชญา ข่าวสด

 

มหากาพย์คดีแตงโมž

ฟันเพิ่มแก๊งสปีดโบ๊ต

ตะลึงภาพลับโผล่ว่อน

แม่รับให้มือถือบังแจ็ค

ไม่แผ่วเลยจริงๆ สำหรับคดีของแตงโม ที่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างต่อเนื่อง

แม้ตำรวจจะสรุปคดี เป็นเรื่องของอุบัติเหตุการตกจากท้ายเรือแล้วจมน้ำเสียชีวิต แต่ยืนยันเป็นพฤติกรรมประมาทที่เกิดจากแก๊งสปีดโบ๊ต

เมื่อคดีถึงอัยการ ก็มีความคืบหน้าด้วยการคืนสำนวนกลับให้ตำรวจสอบสวน และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคนบนเรือในความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต

แม้คดีจะเดินไปตามแนวทางนั้น แต่ก็ยังมีความพยายามปั่นประเด็นเรื่องฆาตกรรมขึ้นมา

ลามมาถึงการตั้งกรรมการสอบวินัยนายตำรวจระดับสูงตามที่ถูกร้องเรียน

แถมยังตามมาอีกด้วยการที่เฟซบุ๊กแตงโมกลับมาโพสต์รูปและข้อความอีกครั้ง เนื้อหาพุ่งเป้าไปที่เพื่อนรักž พยายามจะให้เกิดการสารภาพว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแตงโม เป็นเรื่องฆาตกรรม

แต่ด้วยวิทยาศาสตร์ตรวจสอบไอพีแอดเดรสจนรู้ว่าคนโพสต์อยู่ที่ต่างประเทศ นำมาซึ่งการยอมรับจากทนายความว่าแม่ของแตงโมนี่เอง เป็นคนส่งมือถือไปให้

กลายเป็นคำถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้น

เป็นสิ่งที่สังคมให้ความสนใจมากกว่าความคืบหน้าของคดีเสียอีก!!!

กระติกแจ้งบช.ไซเบอร์

ตร.แจ้งข้อหาเพิ่มแก๊งสปีดโบ๊ต

สําหรับสำนวนของคดีแตงโม-นิดา หรือภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และตำรวจได้แถลงสรุปคดีแตงโม พร้อมแจ้งข้อหาทั้ง 5 คนบนเรือสปีดโบ๊ต และอีก 1 คนที่ให้คำแนะนำในคดี พร้อมส่งสำนวนให้อัยการนนทบุรีพิจารณาตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน

ซึ่งระหว่างนั้นก็เกิดความวุ่นวาย เมื่อมีมือมืดนำสำนวนคดีปลอมส่งไปยังบ้านพักอัยการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อย่างไร แต่ที่แน่ๆ คงไม่ได้มีเจตนาดีอย่างแน่นอน จนตำรวจต้องจัดสายตรวจดูแล พร้อมตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง และสอบสวนไปถึงไปรษณีย์ถึงรูปพรรณสัณฐานของบุคคลลึกลับ

โดยคดีก็ดำเนินไปในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม อัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนที่ทำคดีแตงโม สอบผู้ต้องหาทั้ง 6 คนเพิ่มเติม และมีการตั้งประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมอีก 10 ประเด็น

พร้อมกันนั้นยังให้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต่อกระติก หรือ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และนายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร และแจ้งข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 กับนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์

จากนั้นทั้ง 6 คนประกอบด้วย นายตนุภัทร น.ส.อิจศรินทร์ นายนิทัศน์ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต และนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือเอ็ม ก็ทยอยเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ระบุว่าได้สอบสวนและแจ้งข้อหาตามที่อัยการสั่งเรียบร้อย และพร้อมนำสำนวนส่งคืนอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป

ทนายเดชาแถลง

คาดว่าจะสั่งฟ้องได้ในไม่ช้า!??

ผบ.ตร.สั่งสอบวินัย ผบช.ภาค 1

อย่างไรก็ตาม ขณะที่การสอบสวนตามสำนวนดำเนินต่อไป ก็เกิดความเคลื่อนไหวของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับตำรวจภูธรภาค 1 ที่รับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา หรือแตงโม

โดยชี้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่กระทำการรวบรวมพยานและหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถที่จะกระทำได้ เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยวกับความผิด เพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิด และพิสูจน์ให้เห็นถึงความผิด และนำข้อมูลเท็จหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนการสอบสวน

และไม่ทำคดีชันสูตรการตาย ไม่ตรวจสารเสพติด นายวิศาพัช หรือแซน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และ 131/1 และไม่อายัดเรือของกลางตั้งแต่แรก

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงนามในคำสั่ง ตร.ที่ 217/2565 ลงวันที่ 12 พฤาภาคม 2565

ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี โดยมี พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9) ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง

พร้อมกันนั้นนายอัจฉริยะยังเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่เคยถูก ตร.ภาค 1 ระบุว่าเข้ามายุ่งเหยิงคดี ให้ช่วยประสาน รมว.ยุติธรรม เพื่อให้ดีเอสไอรับคดีการเสียชีวิตของแตงโม

ยืนยันเป็นฆาตกรรมแม้สำนวนตำรวจออกมาอีกแบบ

พิธีฌาปนกิจ

ภาพลับแตงโมโผล่โซเชียล

ขณะที่คดีดำเนินไป ก็เกิดเรื่องคู่ขนาน เมื่อเฟซบุ๊กของแตงโมกลับมีปริศนามาโพสต์ข้อความ ภาพ และคลิป โดยเฉพาะภาพที่เกิดขึ้นภายในสปีดโบ๊ต และภาพของกระติก ที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือของแตงโม

โดยข้อความเป็นไปในลักษณะกดดัน ยั่วยุ ให้เปิดเผยข้อมูล ข้อเท็จจริงภายในเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเหตุการณ์การเสียชีวิตของแตงโมเป็นอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม เชื่อได้ว่าคนที่โพสต์สามารถมีรหัสเข้าถึงโทรศัพท์ของแตงโม เพื่อเข้าถึงบัญชีโซเชียลมีเดีย และยังมีคลังภาพขนาดใหญ่อยู่ในมือ

แน่นอนว่าบุคคลแรกที่ถูกตั้งคำถามก็คือ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโมนั่นเอง เนื่องจากมีรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโทรศัพท์ของแตงโมไปตรวจสอบ และส่งคืนให้นางภนิดา หลังสรุปสำนวนทั้งหมดรวมทั้งรหัสการเข้าโทรศัพท์ต่างๆ

ขณะที่นางภนิดาระบุว่า มือถือดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่แม่ เพราะส่งให้ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความที่รับผิดชอบไปแล้ว 3-4 วันหลังจากที่มีภาพส่วนตัวของแตงโมหลุดออกมา ทำให้ไม่กล้าเก็บไว้ โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อมูลหลุดมาได้อย่างไร เชื่อว่ามีการแฮ็กข้อมูลจากโทรศัพท์

เหตุการณ์ทวีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อบุคคลปริศนาเลิกใช้บัญชีโซเชียลของแตงโม แล้วเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา จากนั้นพบว่าได้ติดต่อคนที่ใกล้ชิดแตงโมเต็มไปหมด ซึ่งก็มีกระติกด้วย โดยในเวลาดังกล่าว กระติกอยู่กับผู้สื่อข่าวพอดี เมื่อมีบัญชีของแตงโมติดต่อทางเมสเซนเจอร์ เข้ามาก็รับวิดีโอคอล แล้วให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก็ต้องตกตะลึงว่าภาพที่เห็นกลายเป็นภาพลับของแตงโมเอง

จึงเชื่อว่าไม่มีเจตนาดี จนต้องไปร้องเรียนกับ บช.ไซเบอร์ เพื่อแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาหมิ่นประมาท

 

เป็นคดีที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากคดีแตงโม

แม่รับส่งมือถือให้บังแจ็ค

สําหรับการสืบสวนของตำรวจไซเบอร์พบแล้วว่า การโพสต์ในบัญชีของแตงโมนั้น ใช้อุปกรณ์ 2 อย่าง คือคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นการโพสต์แบบตั้งเวลาอัตโนมัติ โพสต์มาจากสหรัฐอเมริกา และสายที่โทร.มาหากระติกก็โทร.มาจากอเมริกาเช่นกัน

ไม่เพียงแค่นั้นยังพบว่ามีการโอนเงินปริศนาเข้าบัญชีใกล้ชิดของแตงโม 2-3 แสนบาท และพบว่ามีการติดต่อทางไลน์กับบุคคลใกล้ชิดของแตงโม มาระยะเดือนกว่า ซึ่งจะต้องให้แม่ของแตงโมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป

และไม่ต้องปล่อยให้เดากันไปไกล ช่วงบ่ายวันที่ 25 พฤษภาคม นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความก็เปิดสำนักงานแถลงข้อเท็จจริง ยืนยันว่าโทรศัพท์ของแตงโมไม่ได้อยู่ที่ตนตามที่กล่าวอ้าง และเมื่อสอบถามแม่ของแตงโม ก็ยอมรับเองว่าเป็นคนส่งให้บังแจ็ค ที่สหรัฐอเมริกา โดยแม่จัดส่งทางไปรษณีย์ในราคา 2 พันบาท เนื่องจากเชื่อว่ามีหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ว่าแตงโมถูกฆาตกรรม จนแม่หลงเชื่อ

ส่วนเรื่องเงิน 2-3 แสนบาท ตามที่มีการสืบสวน นางภนิดาไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว

แม่แตงโมระบุว่าขอเวลาอีก 2 วันจะออกมาแถลงข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ซึ่งอาจเป็นเพราะมีใครมาเป่าหู เพื่อยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นคดีฆาตกรรม แม่เลยหลงไปกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็ต้องคอยดูแลให้ดี ทั้งนี้ พบว่าบังแจ็คเอาข้อมูลส่งต่อให้ยูทูบเบอร์ อ้างว่ามีคลิปชัดเจน เป็นการฆาตกรรม ไม่รู้ว่าไปหลอกเขา หรือสมรู้ร่วมคิด แต่สุดท้ายก็ไม่มีคลิปอะไรออกมาทั้งนั้น จึงขอให้ระวังให้ดีว่าคดีต่างๆ ที่ไปกล่าวหาคนอื่นจะตามมาŽ

พร้อมระบุว่า ไม่โกรธคุณแม่ ที่อ้างว่ามือถืออยู่กับตน ตอนนี้แม่ก็ยังไม่ขอโทษ และคงไม่ถอนตัวจากทนายความเพราะผิดมรรยาททนายความ ตอนนี้แม่ก็คงคิดว่าจะหาทางออกอย่างไร และคงแถลงข้อเท็จจริงอีกครั้ง

กลายเป็นข้อเท็จจริงที่น่าตระหนก และน่าเป็นห่วงว่าข้อมูลโดยเฉพาะภาพต่างๆ จะถูกนำมาทำร้ายแตงโม ที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้อีกแล้ว

เป็นเรื่องเศร้าที่ซ้ำเติมความสูญเสียของคนที่รักแตงโมอย่างยิ่งจริงๆ