เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

ผู้อยู่เหนือ ‘ความพ่ายแพ้’

 

หลัง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ชนะถล่มทลายแลนด์สไลด์ ทุกการวิเคราะห์จากทุกกลุ่มทุกสี เห็นไปในทางเดียวกันคือ “คนกรุงเทพฯ ไม่เอาเผด็จการแล้ว”

ความผิดทั้งหมดลงไปที่ “ระบบ 3 ป.” ว่าประชาชนเสื่อมศรัทธาอย่างถึงที่สุด ส่งผลให้ตัดสินใจเทคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตยแบบแผ่นดินไหว

ทุกกลุ่ม ทุกค่ายความคิดมองไปที่ความล้มเหลวของ “ระบบสืบทอดอำนาจ”

ก่อนหน้าที่ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะออกมา อาจจะโทษกันได้บ้าง ว่าเพราะการแย่งคะแนนกันเองของผู้สมัครฝ่ายอำนาจนิยม ไม่ตัดสินใจเลือกตามยุทธศาสตร์ “เทคะแนนให้คนใดคนหนึ่งในฝ่ายเดียวกัน” จึงปิดโอกาสชนะ

แต่หลังจากที่ผลออกมาว่าคะแนน “ผู้สมัครในสายอำนาจนิยม” ทั้ง 4 คน “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสด์ 254,723 คะแนน – สกลธี ภัททิยกุล 230,534 คะแนน – อัศวิน ขวัญเมือง 214,805 คะแนน – รสนา โตสิตระกูล 79,009 คะแนน” รวมกันได้แค่ 794,800 คะแนน ยังห่างไกลจากผู้ชนะคือ “ชัชชาติ” ที่ได้ 1,386,215 คะแนน เกือบครึ่งหรือเรียกว่าไม่เห็นฝุ่น ต่อให้ “บล็อกโหวต” แบบ “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” สำเร็จเหมือนที่ผ่านมา ก็ไม่มีผล

ด้วยเหตุนี้เองที่ทุกกลุ่ม ทุกสี ทุกค่ายความคิด ส่งเสียงเพื่อกระตุ้นให้นักการเมืองฝ่ายตัวเองหาทางออกให้กับอนาคตที่มีความหวังคือ หาข้อแก้ตัวให้ความพ่ายแพ้ของตัวเอง ด้วยการชี้ว่าผลการเลือกตั้งเกิดจาก “ความเบื่อหน่ายระบบ 3 ป.”

นั่นหมายถึง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ควรจะต้องพิจารณาตัวเอง

และความเห็นจำนวนมากชี้ไปในทางที่ว่า “ควรจะยุติบทบาท หรือทบทวนตัวเองได้แล้ว” ก่อนที่คะแนน “ฝ่ายอำนาจนิยม” จะเละจนส่งผลต่อการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้ารุนแรงกว่านี้

 

ทว่าท่าที่ของ “พล.อ.ประยุทธ์” กลับมีความน่าสนใจยิ่ง

ความรู้สึกนึกคิดของ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่นำเสนอผ่านการแถลงของ “ธนกร วังบุญคงชนะ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ. ประยุทธ์แสดงความยินดีกับ “ชัชชาติ” ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ตามด้วย “นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลพร้อมร่วมทำงานกับนายชัชชาติ และทีมงานทุกคน เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนา สิ่งใดที่เป็นผลดี มีประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพมหานคร” และว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ตามที่รัฐบาลเองก็มีนโยบายชัดเจนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีย้ำไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาจากพรรคการเมืองไหน ในฐานะนายกรัฐมนตรีพร้อมทำงานร่วมกับทุกคน ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

แปลง่ายๆ คือ อย่ามาโทษเสียให้ยาก อย่าชี้ให้ทบทวนตัวเอง หรือให้ยุติบทบาท เพราะที่จะยืนยันให้รับรู้คือ “จะอยู่ต่อไป” โดยไม่เกี่ยวว่าใครจะคิดอะไร

 

“พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดว่า ผลการเลือกตั้งที่ “ฝ่ายอำนาจนิยม” พ่ายแพ้ยับเยินนั้น เกี่ยวอะไรกับผลงานของตัว แถมยังประกาศชัดเจนว่าพร้อมจะเป็น “พวกเดียวกันกับผู้ชนะ”

ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กับมุมวิเคราะห์ของใคร

ใคร หรือฝ่ายใดจะเดือดเนื้อร้อนใจกับกระแสที่ส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองไม่ว่าจะของพรรคใด

“พล.อ.ประยุทธ์” ไม่มีความรู้สึกว่า เกี่ยวข้องอะไรด้วย

คิดอยู่อย่างเดียวจะ “อยู่ต่อ” ไม่ว่าใครจะเป็นตายร้ายดีอะไร