เงาเกาหลี

มาดามหลูหลี

[email protected]

 

Dali and the Cocky Prince

: ดาลี่กับหนุ่มขี้อวด

 

พัคกยูยอง (Park Kyu-Young) นักแสดงน่ารักจาก “It’s Okay to Not Be Okay” ได้บทเด่นเป็นนางเอกเรื่องนี้ “Dali and the Cocky Prince” เป็นคิมดาลีหญิงสาวไฮโซสุดเพอร์เฟ็กต์ มีความรู้ดีในงานศิลปะ และสามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา ทำงานที่หอศิลป์ St. Miller Kunst Gallery ประเทศเนเธอร์แลนด์

หากคิมดาลีกลับอ่อนด้อยไร้เดียงสากับการใช้ชีวิตในสังคม มีจิตใจดีและมองโลกสวย ไม่รู้เท่าทันกับเล่ห์เหลี่ยมของคนรอบตัว ทั้งคนที่เธอไว้ใจยังทำร้ายเธอ

คิมดาลีได้รับมอบหมายให้ไปรับจิน ฮิโตะมาริ นักสะสมงานศิลปะระดับโลก เพราะนามสกุลซ้ำกันจึงเกิดเข้าใจผิด กลับรับจินมูฮัก (Kim Min-Jae) นักธุรกิจอาหารมาแทน

เรื่องราวหลังจากนี้จึงบิดเบี้ยวไปในเส้นทางที่ราวกับถูกกำหนดไว้ จินมูฮักไม่สนใจงานศิลปะ เพราะเขาเป็นพ่อค้าผู้ตระหนี่และเห็นคุณค่าของเงิน เขาคิดว่ามูลค่าของภาพวาดรูปหนึ่ง จะต้องขายคัมจาทัง หรือแกงกระดูกหมูใส่มันฝรั่งกี่ร้อยกี่พันชามนะ ถึงได้เป็นเจ้าของภาพวาดนั้น

แต่จินมูฮักกลับลงทุนให้เงินกู้แก่หอศิลป์ชองซงของคิมนัคชอล (Jang Gwang) พ่อของคิมดาลี ตามคำโน้มน้าวของจินกีชอล (Lee Je-Yeon) ลูกชายของแม่เลี้ยง (Seo Jung Yeon) ที่จ้องเอามรดกของจินเบควอน (Ahn Kil-Kang) พ่อของจินมูฮัก โดยได้โถฉี่โบราณเป็นการการันตีอย่างขำๆ

จินมูฮักพบคิมดาลีจากการเข้าใจผิดอย่างโรแมนติก และจากกันอย่างกะทันหันโดยไม่ได้บอกลา จินมูฮักจึงเข้าใจผิดจริงๆ

 

คิมดาลีลูกสาวคนเดียวของตระกูลชองซงอันทรงเกียรติ สวยสง่ามีความรู้ แต่กลับถูกจางแทจิน (Kwon Yool) ทายาทกลุ่มทุนแชโบล ปฏิเสธการแต่งงาน เพียงเพราะรู้เบื้องหลังชาติกำเนิดของคิมดาลี ความรักและเวลาคบหาที่ผ่านมาจึงไร้ความหมาย

คิมดาลีเป็นเหมือนนางฟ้าตกสวรรค์ พ่อของเธอต้องคุกเข่าอ้อนวอนจางแทจิน แต่ก็เปล่าประโยชน์

จินมูฮักนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เยาว์วัย เพราะต้องทำงานหนัก จึงได้เรียนน้อย พูดผิดๆ ถูกๆ ทั้งภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ ดูเหมือนคนงกเงิน แม้ครอบครัวจะแปลกๆ ไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังมีพ่อแม่

จินมูฮักซึ่งดูเหมือนว่าไม่เหมาะสมกับคิมดาลีผู้สูงส่ง เป็นคู่ที่ผิดฝาผิดตัวอย่างเหมาะสม เหมือนการจับคู่สีตรงกันข้าม หากให้ผลงานศิลปะอันสวยสดใส

Dali and the Cocky Prince ผลงานผู้กำกับฯ Lee Jung-Sub และนักเขียน Son Eun-Hye, Park Se-eun ซีรีส์น่ารักตลกขำๆ ไปกับจินมูฮักผู้เชี่ยวชาญเรื่องหมูๆ ชื่อนางเอก “Dali” ซึ่งทำงานศิลปะไปพร้อมกับชื่อศิลปินชาวสเปนซัลวาโด ดาลี (Salvador Dali) มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ.1904-1989 ศิลปินหนวดโง้งชื่อดัง ผู้สร้างงานเหนือจริง ทำให้นาฬิกามีค่ากว่าเป็นแค่เครื่องบอกเวลา

ได้เห็นว่าการบริหารหอศิลป์/พิพิธภัณฑ์ต้องใช้ทุนมหาศาล เป็นงานยาก ที่แม้ว่าจะท้าทายแค่ไหนก็ยากจะอยู่รอดได้ เพราะว่าปากท้องของผู้คนสำคัญกว่าการเสพศิลปะ

ในซีรีส์หลายเรื่อง จะเห็นว่านักธุรกิจเกาหลีผู้ร่ำรวยมักใช้หอศิลป์เป็นแหล่งฟอกเงิน ซึ่งดูดีดูแนบเนียน ทั้งยังส่งผลต่อภาพลักษณ์อันดีของตนเองและองค์กรที่ให้การสนับสนุน

คิมนัคชอลพ่อของคิมดาลี เจ้าของหอศิลป์ชองซงรุ่นที่ 2 สืบทอดหอศิลป์ด้วยใจรัก เพื่อให้หอศิลป์ได้เป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้มาพักผ่อนอย่างมีความสุขด้วยการเดินชมงานศิลปะ เป็นพื้นที่ให้คนได้หายใจสะดวก เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกาหลีส่วนใหญ่ มักแออัดอยู่แต่ในห้องเล็กๆ แคบๆ ได้มีพื้นที่ให้ผ่อนคลายบ้าง

คนเกาหลีและคนญี่ปุ่นเขาให้ความสำคัญกับงานศิลปะ หอศิลป์หรือพิพิธภัณฑ์หลายๆ แห่งมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนไม่ซ้ำ กล้าที่จะลงทุน เพราะมีผู้เสพศิลป์จำนวนมากและหลายวัย เขาส่งเสริมให้เด็กเล็กสนใจศิลปะ ด้วยการจัดการให้เข้าชมตั้งแต่เด็กๆ ปลูกฝังให้เข้าถึงศิลปะ

เมื่อไปชมงานศิลปะ เขาชมกันอย่างตั้งใจจริง นั่งดูวีดิโอแนะนำศิลปินอย่างจริงจัง ชมดูงานอย่างชื่นชมด้วยหัวใจ ไม่ใช่ชะโงกดูแล้วถ่ายรูป เพื่อสร้างภาพในโซเชียล!

 

Dali and the Cocky Prince เรื่องนี้ พระเอกคิมมินแจหล่อเท่ปังๆ และแสดงได้ตลกมาก โชว์ฝีมือการแสดงเต็มที่ เป็นหนุ่มเต็มตัว ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่รับบทพระเอกวัยเด็ก หรือตัวประกอบอดทนอีกแล้ว ชอบน้ำเสียงทุ้มน่าฟัง เป็นเสียงพระเอกชัดๆ

นางเอกพัคกยูยองในเรื่องนี้เริ่ดเด่นและสวยมาก จัดเต็มทุกฉากทั้งเสื้อผ้าหน้าผม นางสวยขึ้นผิดตาทีเดียว ต่างจากเรื่องก่อนๆ คอสตูมทำผมเธอให้มีไรผมเหมือนกับหนวดของดาลี จะมีหญิงสาวสักกี่คนที่ทำผมแบบพัคกยูยองได้น่ารักอย่างนี้ เสื้อผ้าแบรนด์เนมเกือบทั้งหมดสวยเก๋มีสไตล์ทุกชุด

คิมมินแจจับคู่กับพัคกยูยองเป็นคู่ธรรมดาที่ดูไม่ธรรมดา เป็นการจับคู่ที่ลงตัวน่ารัก มีความเรียบง่ายที่ดูดีดูหรูอย่างคู่ควร •

 

ชมตัวอย่างซีรีส์ Dali and the Cocky Prince ได้ที่นี่