อิสลามในยุโรป รัสเซียและยูเครน (2) อิสลามในรัสเซีย/มุมมุสลิม จรัญ มะลูลีม

จรัญ มะลูลีม

มุมมุสลิม

จรัญ มะลูลีม

 

อิสลามในยุโรป รัสเซียและยูเครน (2)

อิสลามในรัสเซีย

 

สําหรับรัสเซียกรณีความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับประเทศตะวันตก อันเนื่องมาจากสงครามกลางเมืองในซีเรียที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2011 รวมทั้งความเป็นปรปักษ์ระหว่างยูเครนกับรัสเซียในปัจจุบันที่แสดงให้เห็นการขยายอำนาจของ Nato และการรุกเข้ามาของรัสเซียนั้นล้วนส่งผลกระทบกับผู้คนในยูเครนและชาวมุสลิมในยูเครนเช่นกัน

แม้ว่าประชากรรัสเซียจะลดลงตั้งแต่ปี 1991 อันเนื่องมาจากอัตราการเกิดน้อยลง มีการเสียชีวิตมากขึ้นกระนั้นชาติพันธุ์มุสลิมก็ยังดำรงการเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีขนาดใหญ่เอาไว้ได้ และยังคงมีอัตราการเกิดสูงกว่าชาติพันธุ์รัสเซียอื่นๆ

การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิม ส่งผลต่อนโยบายต่างประเทศของรัสเซียเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับคนทั่วไป ภาพของรัสเซียที่มีต่อโลกมุสลิมนั้นไม่ค่อยได้แสดงให้เห็นความเกี่ยวข้องกับอิสลามและอัตลักษณ์ของอิสลามมากนัก ในขณะที่ศาสนาคริสต์ออร์เธอร์ดอกซ์จะมีบทบาทสำคัญอยู่ในรัสเซีย

มีคนไม่มากนักที่รู้ว่ารัสเซียเป็นดินแดนที่ชาวมุสลิมนับล้านๆ คนอาศัยอยู่โดยมีพื้นฐานที่มาจากหลากหลายเผ่าพันธุ์

อาจกล่าวได้ว่าที่ไม่เหมือนกับประเทศตะวันตกอื่นๆ ก็คือในประเทศนี้อิสลามกลายเป็นส่วนสำคัญ เป็นอัตลักษณ์ของชาติในการเมืองรัสเซียและการวางนโยบายต่างประเทศ

ทั้งนี้ จะพบว่าจำนวนประชากรของรัสเซียได้เปลี่ยนไปร้อยละ 30 ในรอบครึ่งศตวรรษ รายงานจากธนาคารโลกกล่าวว่านับจากปี 1900 ถึงปี 2012 แสดงให้เห็นว่าจำนวนประชากรรัสเซียโดยเฉลี่ยคือ 139.08 ล้านคน

อิสลามได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศาสนาที่มีอยู่ในรัสเซียยาวนาน แม้จำนวนของชาวมุสลิมจากชาติพันธุ์ต่างๆ จะอยู่ในราวร้อยละ 10-15 เท่านั้นก็ตาม

สถิติในปี 2002 แสดงให้เห็นว่ามีชาวรัสเซีย 14.5 ล้านคน เป็นชาวมุสลิม คิดเป็นเกือบร้อยละ 10 ของประชากร แม้ว่าจะยังไม่มีสถิติที่จะยืนยันตัวเลขนี้ในปัจจุบันก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในปี 2005 รัฐมนตรีต่างประเทศ Seigei Lavrov ได้ประกาศว่ามีชาวมุสลิมในรัสเซียอยู่ 20 ล้านคน มีแหล่งข่าวที่ยืนยันว่ารัสเซียอาจมีมุสลิมถึง 26 ล้านคน รวมทั้งชาวอเซรี (Azeri) และผู้อพยพที่มาจากเอเชียกลาง

ที่ไม่เหมือนชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นๆ ในยุโรปก็คือคนมุสลิมส่วนใหญ่ในรัสเซียมิใช่ผู้อพยพต่างชาติ พวกเขาเป็นพลเมืองพื้นเมืองของประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ คนมุสลิมส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ Volga-Ural และ Caucasus ทางตอนเหนือ ส่วนอื่นๆ ของรัสเซียในเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็มีจำนวนของชาวมุสลิมที่สำคัญอยู่เช่นกัน

จำนวนมัสญิดที่เพิ่มขึ้นก็แสดงให้เห็นถึงประชากรมุสลิมที่เพิ่มขึ้น จำนวนมัสญิดที่มีการสำรวจในปี 2006 นั้นมีอยู่ถึง 800 แห่ง ในขณะที่ในปี 1991 มีมัสญิดอยู่เพียง 300 แห่งเท่านั้น

 

การเติบโตของประชากรมุสลิมรัสเซีย

จํานวนประชากรรัสเซียได้ลดลงหลังจากได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยจำนวนประชากร 148,689,000 คนในปี 1991 ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต จากนั้นก็เป็นทศวรรษของรัสเซียที่มีประชากรลดลงโดยลดลงร้อยละ 0.5 ต่อปี อันเนื่องมาจากอัตราการเกิดน้อยลง มีคนเสียชีวิตมากขึ้นและมีการอพยพ

อย่างไรก็ตาม ชาติพันธุ์มุสลิมก็ยังคงเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีอยู่จำนวนมาก และยังคงมีจำนวนการเกิดมากกว่าชาติพันธุ์รัสเซียอื่นๆ โดยเปรียบเทียบ การเติบโตของประชากรมุสลิมนับตั้งแต่ปี 1989 นั้นคาดกันว่าอยู่ระหว่างร้อยละ 40-50

ในทางกลับกันในช่วงเวลานั้นมีมัสญิดอยู่เพียงไม่กี่แห่งสำหรับชาวมุสลิมในยุโรป แต่เมื่อถึงปลายปี 2015 จำนวนมัสญิดในรัสเซียได้ขึ้นไปสูงถึง 25,000 มัสญิด

จำนวนดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้กับชาติพันธุ์รัสเซียอื่นๆ โดยบ่อยครั้งพวกเขาจะเชื่อมโยงอิสลามเข้ากับสงครามของรัสเซีย ซึ่งต่อต้านกบฏแยกดินแดน Chechnya

ด้วยความหวาดหวั่นจากเงื่อนไขดังกล่าวฝ่ายบริหารของ Putin ได้นำนโยบายการแก้ไขปัญหาชาติพันธุ์รัสเซียที่หดตัวลงมาใช้โดยเสนอการกระตุ้นหลายอย่างให้กับสามีภรรยาที่ต้องการจะมีบุตรมากขึ้น

ปัจจัยที่ยืนยันการเติบโตของประชากรมุสลิมของรัสเซียมาจากความจริงที่ว่าชาวมุสลิมเข้าพิธีการแต่งงานจำนวนมาก ในขณะที่สถิติการหย่าร้างและการทำแท้งมีอยู่น้อยกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ ของรัสเซีย

ทั้งนี้ ประชากรรัสเซียทั้งหมดคิดเป็น 146.8 ล้านคนในปี 2017 เมื่อมองย้อนกลับไป ประชากรรัสเซียมีอยู่ 119.9 ล้านคนในปี 1960 ในเวลาต่อมาจำนวนประชากรเปลี่ยนไปร้อยละ 20

ธนาคารโลกรายงานว่านับจากปี 1960 ถึง 2012 จำนวนประชากรรัสเซียโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 148.60 ล้านคนในเดือนธันวาคม ปี 1992 และต่ำสุดอยู่ที่ 119.90 ล้านคนในเดือนธันวาคม ปี 1960 ความเสถียรของตัวเลขประชากรได้แสดงให้เห็นในช่วง 2010 เป็นต้นไปพร้อมๆ ไปกับการเพิ่มขึ้นของประชากรเล็กน้อย

ในปี 2013 มีตัวเลขที่เป็นไปในทางบวกที่แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของประชากรรัสเซียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992

มีความเสถียรของจำนวนประชากรที่แสดงให้เห็นในช่วงปี 2010 เป็นต้นไปพร้อมกับประชากรที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในปี 2013 มีการเพิ่มของประชากรเป็นไปตามธรรมชาติเป็นครั้งแรกนับจากปี 1992

ในปี 2015 จำนวนประชากรของรัสเซียมีอยู่ทั้งสิ้น 146.3 ล้านคน โดยมีพลเมืองใหม่เกิดขึ้น 2.3 ล้านคน อันเนื่องมาจากการผนวกแหลมไครเมีย อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมจำนวนของชาวไครเมีย จำนวนประชากรของรัสเซียจะมีอยู่ 143,975,923 แสดงว่ามีการเพิ่มขึ้นของประชากรราว 154,000 หลังการคาดการณ์ในเดือนมกราคมที่มีอยู่ 143.8 ล้าน

ทั้งนี้ รัฐบาลมีความพยายามที่จะเพิ่มจำนวนประชากรโดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชนชั้นกลาง ซึ่งรวมทั้งสนับสนุนการเงินของครอบครัว ด้วยการให้โบนัสกับเด็กเกิดใหม่ (baby bonus) ที่เป็นบุตรคนที่สอง มีโปรแกรมสนับสนุนครอบครัวใหม่และพยายามเข้มงวดในการทำแท้ง จำนวนอัตรา ภาวะเจริญพันธุ์ เพิ่มขึ้นจากระดับที่ต่ำสุดในปี 1999 มาสู่การมีบุตร 1.17 ต่อสตรี 1 คน ถึง 1.54 ต่อสตรี 1 คนในปี 2009

แม้ว่าแนวโน้มการเกิดของประชากรจะลดลงในอนาคตอันใกล้ กระนั้นกลุ่มก้อนของประชาชนในรัสเซียที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องก็ได้แก่ประชากรมุสลิม

Katarzyna Jarzynaka ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ให้ข้อสังเกตถึงแนวโน้มด้านประชากรในรัสเซียว่ามาจากหลายปัจจัย

ที่สำคัญก็คือการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของผู้ชายวัยทำงาน ส่วนใหญ่มาจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การได้รับอุบัติเหตุจากการทำงาน (อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมการทำงานที่หละหลวมและไม่รักษากฎเกณฑ์ที่ว่าด้วยระบบความปลอดภัย) วิกฤตของสถาบันครอบครัวก็ส่งผลในทางลบต่อสถาบันประชากร

ปัจจัยข้างต้นสะท้อนให้เห็นในอัตราภาวะเจริญพันธุ์ รวมทั้งจำนวนและคุณภาพของประชากรในวัยทำงาน

ในปี 2014 Word Population Review ยืนยันว่าในรัสเซียอัตราการมีบุตรลดลงอย่างมากด้วยเช่นกัน (11 จาก 17 คนต่อ 1,000 คนในตอนกลางปี 1980) อัตราการเกิดก็ลงไป 10 ต่อ 1,000 ในตอนต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืนของประชากร

การศึกษานี้ยังสรุปอีกว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกันที่เชิญชวนให้ประชาชนไม่ต้องการมีบุตร