‘สมาร์ตซิตี้’ กทม.ได้แค่ฝัน? / สิ่งแวดล้อม : ทวีศักดิ์ บุตรตัน

ทวีศักดิ์ บุตรตัน

สิ่งแวดล้อม

ทวีศักดิ์ บุตรตัน

[email protected]

 

‘สมาร์ตซิตี้’ กทม.ได้แค่ฝัน?

 

เมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ตซิตี้ กลายเป็น “โมเดล” ที่เมืองต่างๆ กว่า 120 แห่งทั่วโลกกำลังคิดทำ หวังให้เป็นเมืองที่ผู้คนอยู่ดีกินดี มีงานทำ รายได้เป็นปึกแผ่น ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย เป็นเมืองน่าอยู่ สะอาดปลอดภัย สิ่งแวดล้อมดีเยี่ยม และผู้คนได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเท่าเทียมในทุกๆ ด้าน มีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย

ถ้าเอามาตรฐานของสถาบันเพื่อการพัฒนาด้านการจัดการบริหารระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มดี (IMD) มาวัด สมาร์ตซิตี้ที่อยู่ใน 10 อันดับต้นๆ ของโลกเมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ สิงคโปร์ เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ กรุงไทเป ไต้หวัน เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

และอันดับ 10 เมืองบิลเบา ประเทศสเปน

 

ไอเอ็มดี ชูมาตรฐานเมืองเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆ เพราะตัวชี้วัดความเป็นสมาร์ตซิตี้ครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น กรุงออสโล มีเป้าหมายในเรื่องของการบริการภาครัฐจะเป็นระบบดิจิตอลทั้งหมด ไม่ต้องใช้กระดาษ ถ่ายสำเนาให้ยุ่งยาก สิ้นเปลืองพลังงาน รถเมล์ทุกคันขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

ปี 2568 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า รถยนต์ที่วิ่งในกรุงออสโล จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ชาวออสโลให้ความสำคัญกับการลดมลพิษในอากาศ ดูได้จากปีนี้ยอดขายรถพลังงานไฟฟ้ามีสัดส่วนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถยนต์ทุกชนิด

ผู้บริหารกรุงออสโลออกกฎหมายห้ามพื้นที่ก่อสร้างทุกแห่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาคารทุกหลังได้รับการปรับปรุงให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับและควบคุมปริมาณการใช้ไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน

เรื่องความโปร่งใสในการบริหารของภาครัฐของกรุงออสโลไม่ต้องพูดถึง เพราะที่นี่มีความเป็นประชาธิปไตย ให้เสรีภาพ ภาคประชาชนเข้มแข็ง การเข้าถึงข้อมูลภาครัฐง่ายมากและตรวจสอบได้ทุกจุด การคอร์รัปชั่นแทบนับเป็นศูนย์

เมื่อตรวจสอบในด้านการให้สวัสดิการและบริการพื้นฐานกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กรุงออสโลให้ครบถ้วน

ด้านสภาพอากาศในกรุงออสโล สะอาดสูดได้เต็มปอด

 

ที่เมืองซูริกได้วางเป้าเป็นสมาร์ตซิตี้มาตั้งแต่ปี 2561 ติดตั้งเชื่อมระหว่างระบบดิจิตอลกับบริการขนส่งสาธารณะทำให้ชาวเมืองเดินทางได้ง่ายสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและตรงเวลา

เมืองซูริกเป็นเมืองธุรกิจการค้า ผู้บริหารเมืองยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการค้าระดับโลกที่มีระบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบ ตึกอาคารในเมืองนี้ติดตั้งระบบบริหารจัดการด้านพลังงานให้ใช้งานได้ประโยชน์สูงสุดประหยัดที่สุด

ด้านการท่องเที่ยว ซูริกเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวสวิส ผู้บริหารเมืองจึงพัฒนาระบบดิจิตอลในจุดที่นักท่องเที่ยวชอบไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกมากที่สุด

ภาคสิ่งแวดล้อม เมืองซูริกมีสภาวะสิ่งแวดล้อมดีเยี่ยมเป็นเมืองสะอาด มีสวนหย่อม สวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ทุกจุดทั่วเมือง น้ำในทะเลสาบไหลผ่านกลางเมืองใสแจ๋วเหมือนกระจก

 

ข้ามไปดูเมืองบิลเบา เป็นเมืองท่าอยู่ทางตอนเหนือของสเปนใกล้ๆ ฝรั่งเศส ใช้เวลาในการพัฒนาเมืองกว่า 30 ปีจนกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของยุโรปตอนใต้

ผู้บริหารเมืองบิลเบาให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดเล็กขนาดย่อม ส่งเสริมเปิดโอกาสให้เชื่อมกับนานาชาติ ลงทุนในเรื่องของสิ่งแวดล้อม สร้างสวนสาธารณะทั่วเมือง ปลูกต้นไม้ใหญ่จนกลายเป็นป่าในเมือง ฟื้นฟูอนุรักษ์วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เฉพาะเมืองบิลเบามีพิพิธภัณฑ์มากถึง 12 แห่ง อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์กุ๊กเก็นไฮม์ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมล้ำยุค กลายเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวของเมืองนี้

ผู้บริหารบิลเบา กำหนดแผนพัฒนาระบบจัดการด้านพลังงานหมุนเวียนและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

บิลเบาเป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ

ในภาคการเมืองของบิลเบา การเมืองเป็นปึกแผ่น นักการเมืองมีความตั้งใจสูงสร้างเมืองให้น่าอยู่ น่าทำงาน ชาวเมืองสมัครสมานสามัคคีรวมพลังพัฒนาเมืองในทุกมิติ

 

สําหรับไต้หวัน ไอเอ็มดีให้เป็นสมาร์ตซิตี้ติดอันดับท็อปเท็น เพราะผลการสำรวจข้อมูลในด้านต่างๆ ไต้หวันทำได้ดีมาก อย่างเช่น ระบบเทคโนโลยีรีไซเคิล ได้รับการพัฒนาและนำไปใช้เก็บขยะไปแปรรูปที่มีประสิทธิภาพสูงมาก

ขยะจากครัวเรือนและภาคธุรกิจ ไต้หวันจัดเก็บนำไปรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้มากถึง 55% และขยะในภาคอุตสาหกรรมรีไซเคิล 77%

ระบบการดูแลรักษาความปลอดภัย ไต้หวันอยู่ในระดับดี เช่นเดียวกับการวางโครงข่ายด้านไอที เชื่อมกับการทำธุรกิจและอุตสาหกรรม อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศพัฒนาแล้ว

วันนี้ ไต้หวันกลับมาเปิดบ้านเปิดเมืองให้ร้านค้าทำธุรกิจปกติ แม้ว่าการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ยังแรง เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพียงวันเดียวชาวไต้หวันติดเชื้อโควิดกว่า 60,000 ราย แต่รัฐบาลไต้หวันมั่นใจว่าเอาอยู่และต้องอยู่ให้รอด

 

กลับมาที่บ้านเรา ไอเอ็มดีจัดอันดับความเป็นสมาร์ตซิตี้ของกรุงเทพมหานคร ที่ 76 เกรดที่ได้คือทริปเปิลซี (CCC) แย่กว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศเพื่อนบ้าน

ไอเอ็มดีวัดมาตรฐานที่เป็นตัวชี้วัดความเป็นสมาร์ตของกรุงเทพมหานคร เช่น อากาศเป็นพิษ คอร์รัปชั่นโกงกินฉ้อฉล การจราจรติดขัด การขนส่งสาธารณะ การจัดพื้นที่สีเขียว บริการสาธารณสุข ความปลอดภัย รวมทั้งการนำขยะมารีไซเคิล มาประเมิน เราได้คะแนนสุดห่วย

ไอเอ็มดีให้คะแนนอากาศเป็นพิษ 63.7% คอร์รัปชั่น 56.7% จราจรติดขัด 43.4% ระบบรีไซเคิลขยะของเสีย 8.5% พื้นที่สีเขียว 23.2%

ความเป็นสมาร์ตซิตี้ของ กทม. ปี 2564 หล่นลงมา 5 อันดับ เมื่อเทียบกับปี 2563 แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการเมืองต่ำเตี้ยลง

ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ กรุงเทพมหานครในสายตาของต่างชาติ เป็นได้แค่เมืองน่าเที่ยว แต่ไม่น่าอยู่

เมื่อเอาความเป็นสมาร์ตซิตี้ของ กทม.ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แสดงให้เห็นถึงความสมาร์ตห่างชั้นอย่างมาก

ไอเอ็มดีให้เกรดสิงคโปร์ ทริปเปิลเอ (AAA) และสิงคโปร์ติดท็อปเท็นติดต่อกันเป็นปีที่ 3

เนื่องเพราะสิงคโปร์วันนี้ ไม่ใช่แค่เป็นสมาร์ตซิตี้ แต่ยังเป็นผู้นำปฏิบัติการด้านอุตสาหกรรมสมาร์ตซิตี้ มีองค์กรด้านไอทีระดับโลกกว่า 30 องค์กรเข้าร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ นวัตกรรมสมาร์ตเทคโนโลยี อย่างเช่น อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส บริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ บริษัทชไนเดอร์ อิเล็กทริก

นวัตกรรมใหม่ๆ ที่สิงคโปร์ร่วมกับองค์กรเหล่านั้น พัฒนาเพื่อนำมาสร้างสังคมสิงคโปร์ให้เป็นเมืองน่าอยู่มากขึ้น เช่น เอาหุ่นยนต์มาช่วยผู้สูงวัย คนพิการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวกปลอดภัย มีการให้ข้อมูลผ่านแชตบอต ให้คนเหล่านี้ได้พูดคุยสื่อสารรู้สึกไม่โดดเดี่ยว

บ้านเราไม่ต้องถามว่า คนสูงอายุ คนพิการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะได้รับความสะดวกแค่ไหน เพราะคนธรรมดาร่างกายครบสมบูรณ์ยังรู้สึกหงุดหงิดยุ่งยาก ขึ้นรถเมล์แต่ละครั้งต้องทำใจ ไม่รู้จะมาเวลาไหน ขึ้นแล้วจะเจอคนขับซิ่งมีอารมณ์หงุดหงิดหรือเปล่า

จะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินบนดิน การฝ่าฟันเพื่อไปถึงสถานีต้องใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วง จะปั่นจักรยานไปทำงาน ก็ไม่มีไบก์เลนเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คราวนี้ ได้แต่หวังว่า ชาวกรุงจะเลือกคนที่สมาร์ตจริงใจตั้งใจและสุจริตใจเข้ามาบริหารจัดการสะสางกวาดล้างคราบความห่วยๆ ของ กทม.ให้หมดไป •