เทียบฟอร์มการขับ ‘2 ยักษ์’ พีพีวี ‘นิสสัน เทอร์รา’ – ‘อีซูซุ มิว-เอ็กซ์’ / ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

เทียบฟอร์มการขับ ‘2 ยักษ์’ พีพีวี

‘นิสสัน เทอร์รา’ – ‘อีซูซุ มิว-เอ็กซ์’

 

ยังได้รับความนิยมต่อเนื่องสำหรับกลุ่มรถยนต์ปิกอัพดัดแปลง หรือ “พีพีวี” ในเมืองไทยมีหลากรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือก

ตัวผมเองมีโอกาสทดสอบรถพีพีวีมาหลายครั้ง

และล่าสุดมีโอกาสสัมผัสรถ 2 รุ่นในเวลาใกล้ๆ กัน คือ “นิสสัน เทอร์ร่า” และ “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์” โดยเป็นรุ่นท็อปทั้งคู่

จึงถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟังว่ารถทั้ง 2 รุ่น มีดี-มีเด่น อย่างไรกันบ้าง

มาดูที่หน้าตาภายนอกกันก่อน เริ่มที่มิว-เอ็กซ์ดีไซน์หายห่วงเพราะได้รางวัลการออกแบบดีเด่น “Good Design Award 2021” (G Mark) จากประเทศญี่ปุ่น สาขารถยนต์นั่ง จากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Institute of Design Promotion (JDP)

ภายนอกดูบึกบึน แต่ไม่ได้ยาวจนอึดอัด ส่วนความสูงพอประมาณ ต้องเหนี่ยวมือจับแล้วก้าวขึ้นบันไดข้างขึ้นไป

กระจังหน้าแบบ World Cross Flow ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED

ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature เพิ่มมิติเด่นด้วยโคมไฟ 3-Line LED

ล้ออัลลอยไดนามิกดีไซน์ ขนาด 20 นิ้ว

ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ สามารถสั่งการผ่านกุญแจรีโมตได้ด้วย

ขณะที่เทอร์ร่าดีไซน์ตามแนวคิด “Unbreakable Design” กระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น เส้นโครเมียมแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรา

ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ดีไซน์ใหม่ให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% ตัวโคมไฟถูกดีไซน์ให้เพรียวบาง ดูปราดเปรียว

ไฟ Daytime Running Light ดีไซน์เด่น ไฟตัดหมอก LED ให้แสงสีขาวที่เป็นธรรมชาติ

แผ่นกันกระแทกด้านล่างเป็นสีเงิน ตามสไตล์เอสยูวี

ด้านท้ายแบบใหม่ ฝาท้ายเติมวัสดุโครเมียมและชิ้นส่วนสีเงินมากขึ้น เมื่อตัดกับสีดำยิ่งเพิ่มความโดดเด่น

ไฟท้ายลดความสูงเพิ่มความกว้าง แบบ LED Light Guide เส้นคู่ ไฟเบรกแบบ LED

ฝาประตูท้ายเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง เพียงแค่ยื่นเท้าเข้าหาบริเวณกึ่งกลางของกันชน ประตูเปิดเอง พร้อมระบบป้องกันการหนีบ

ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนแบบปัดเงา

ภายในเทอร์ร่าปรับใหม่เน้นตลาดครอบครัวจริงจัง มีให้เลือกทั้งโทนสีดำ-แดง และสีดำ-เบจ

คอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์แบบนุ่ม รวมทั้งแผงข้างประตู

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

เรือนไมล์มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ใหญ่กว่าของเดิม

ตรงกลางเป็นจอ Display Audio แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ปุ่มควบคุมต่างๆ ขยับมาอยู่ด้านใต้จอพร้อมไฟเรืองแสงสีขาว เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เทคโนโลยี Nissan Connect ที่เชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับ Apple CarPlay และ Android Auto

มีระบบนำทาง (Navigation System) และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition)

ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose Premium Audio System ลำโพง 8 ตำแหน่ง พร้อมแอมปลิฟายเออร์

ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติแยกการควบคุมอุณหภูมิ มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารทั้ง 3 แถว

ติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว บนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เชื่อมต่อยูทูบ หรือเน็ตฟลิกซ์

ส่วนมิว-เอ็กซ์ใช้สีเบาะ “Saddle Brown” น้ำตาล ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ ซึ่งสีนี้ยังแทรกอยู่ตามคอนโซลหน้าตัดสลับกับพื้นผิวโครเมียม ดูหรูหรา

พวงมาลัยสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มี Sequential Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์เพียงปลายนิ้ว

ระบบ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Wireless Apple CarPlay พร้อมลำโพง 8 จุด รอบคัน

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกซ้าย-ขวา

รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220V และช่องต่อ DC 12V

 

อารมณ์การขับขี่มิว-เอ็กซ์ เบาะนั่งโอบกระชับดีมากๆ พวงมาลัยทรงสวยและการตกแต่งภายในที่ดูหรูหรา

เรือนไมล์ขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจน เช่นเดียวกับจอกลาง

พวงมาลัยเบามือมาก ความคมถือว่าปานกลาง

อัตราเร่งดีมากๆ ต้น-กลางใช้เวลาแป๊บเดียวเท่านั้น ความเร็วระดับ 130-140 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาในชั่วอึดใจ

การเก็บเสียงทำได้ดี เสียงหวีดหวิวของลมเข้ามาน้อยมาก จะมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามเข้ามาบ้าง แต่ทำใจได้เพราะเป็นเครื่องดีเซล

ช่วงล่างเน้นไปทางนุ่มนวล จนไม่รู้สึกเลยว่ามีพื้นฐานจากปิกอัพ

เป็นแบบคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ด้านหลังแบบ 5-Link Suspension

ด้านเทอร์ร่าใช้เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร

เสียงเครื่องยนต์เข้ามาประมาณหนึ่งแต่ค่อนข้างเงียบ เพราะเพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวน ติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass ซึ่งเป็นครั้งแรกของเซ็กเมนต์

อัตราเร่งช่วงออกตัวไม่ได้หวือหวามากนัก จนสู่ความเร็วกลางและปลายจะดีขึ้น

การเร่งแซงหากคิกดาวน์มีอาการรอรอบนิดๆ

น้ำหนักพวงมาลัยดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่จะหนักกว่ามิว-เอ็กซ์

ช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบ 5 ลิงก์ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง

ตัวช่วยปกติต่างๆ ไม่ห่างกันมาก ส่วนออปชั่นพิเศษที่เสริมเข้มมา เทอร์ร่าติดตั้ง “Intelligent Rear View Mirror” หรือกล้องส่งภาพด้านหลังมาที่กระจกมองหลัง เป็นครั้งแรกของเซ็กเมนต์

สามารถปรับเป็นกระจกมองหลังธรรมดา หรือดูภาพจากกล้องด้านหลังก็ได้ กรณีมีผู้โดยสารนั่งเต็มความจุ หรือบรรทุกของจนบดบังทัศนวิสัย

รวมถึงเวลาฝนตกหนักๆ ทัศนวิสัยด้านหลังไม่ดี กล้องตัวนี้ช่วยได้ ทั้งให้มุมมองกว้างกว่ากระจกมองหลังปกติด้วย

ขณะที่มิว-เอ็กซ์มีออปชั่นพิเศษคือระบบ “Turn Assist with AEB” ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา

ระบบนี้ช่วยได้เยอะหากคนขับเผลอเลี้ยวขวาคล่อมเลน ที่มักเห็นเป็นประจำโดยเฉพาะเวลาอยู่ในซอยแบบ 2 เลนสวน

สนนราคารุ่นท็อป อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1,599,000 บาท

ส่วนนิสสัน เทอร์ร่า 1,499,000 บาท •