E-DUANG : ทุกก้าวย่าง คือโอกาส การเมือง การเมือง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร

ทั้งๆที่เมื่อผลการสำรวจผ่านแทบทุก”โพล”ไม่ว่าจะจากสถาบันพัฒน บริหารศาสตร์(นิด้า) ไม่ว่าจะจากสถาบันพระปกเกล้า คะแนนความนิยมของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ล้วนนำโด่ง

กระนั้น ท่าทีของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรและ 50 สก.กลับเดินหน้าหาเสียงต่อไปด้วยความมั่นแน่ว

รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางเอาชนะ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แน่ๆ

ทีมงานพรรคก้าวไกลยังประสานกับคณะก้าวหน้าจัดการปรา ศรัยใหญ่ในตอนค่ำของวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม ณ อนุสาวรีย์พระ เจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่

ไม่เพียงแต่จะมี น.ส.พรรณิการ์ วานิช ไม่เพียงแต่จะมี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หากแต่ยังมี นายชัยธวัช ตุลาธน และที่สำคัญ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็จะขึ้นเวที

เท่ากับเป็นการปลุกวิญญาณแห่งพรรคอนาคตใหม่ที่เคยปรา

ศรัยปิดท้ายเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ซึ่ง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง

ยิ่งกว่านั้น ในวันที่ 18 พฤษภาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยังนำทีม 50 สก.เปิดปราศรัยซ้ำอีกคำราบหนึ่งที่มิวเซียมสยาม

 

หากใครนำความสงสัยในความแอ็คทีพเป็นอย่างสูงของทีม นายวิ โรจน์ ลักขณาอดิศร เพื่อถามความเห็นอันเหมือนจะไม่ยอมรับกับความพ่ายแพ้ที่รออยู่ข้างหน้า

ไม่ว่าจะถาม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะถาม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คำตอบก็จะออกมาในกระสวนเดียวกัน

นั่นก็คือ “เราถือทุกการเคลื่อนไหวเป็นโอกาสในทางการเมือง”

เนื่องจากเป็นจิตวิญญาณตั้งแต่ยังอยู่พรรคอนาคตใหม่และต่อ เนื่องมายังพรรคก้าวไกลว่า การเมืองของพวกเขาคือการเมืองแห่งความหวัง เป็นการเมืองแห่งการสร้างโอกาส

เป้าหมายใหญ่ เป้าหมายหลักคือ การปักธงในทางความคิด

 

สังคมจึงได้เห็นภาพของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ว่าจะอยู่บนเวทีของไทยรัฐ พลัส ไม่ว่าจะอยู่บนเวทีของไทยพีบีเอส ไม่ว่าจะอยู่บนเวทีของเวิร์คพอยท์ ทูเดย์

หรือแม้กระทั่งบนเวทีของ”มติชนทีวี”พร้อมกับผู้สมัครคนอื่น

สังคมจึงได้เห็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จับมือและแย้มยิ้มกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เหมือนไม่ได้เป็นคู่แข่งคู่ต่อสู้

เนื่องจากล้วนเห็นว่าทุกการเคลื่อนไหวคือ โอกาสทางการเมือง