กาละแมร์ พัชรศรี : โจทย์ของชีวิต

เมื่อเห็นโลกมากขึ้น ทำให้เรารู้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ยากดีมีจนมาจากไหน จะเกิดมาเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากมาย มีพระราชวังเป็นทองประดับเพชร หรือจะเป็นราชินีที่สวยมาก ใส่เสื้อผ้าสวยงดงามทุกวัน ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ก็ย่อมมีความทุกข์

จะเป็นดารามีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นมหาเศรษฐีรวยล้นฟ้าก็มีความทุกข์

ดังนั้น ที่เราไม่รวยเหมือนเขา ไม่สวยไม่หล่อ ไม่เก่ง ชีวิตไม่ดีเหมือนเขา อย่าตีอกชกหัวตัวเองและนั่งดราม่าปาดน้ำตาไปวันๆ ว่าทำไมชีวิตเรามีแต่เรื่องทุกข์ เพราะทุกคนต่างมีทั้งนั้น

ทุกชีวิตมี “โจทย์” ที่ได้รับไม่เหมือนกัน

คุณเคยเล่นเกมผ่านด่านต่างๆ แล้วมีคนยื่นซองโจทย์ที่ต้องทำให้ไหม

วิ่งๆ มาเจอซอง เปิดขึ้นมา “คุณต้องไปทำอย่างนั้นแล้วไปทำอย่างนี้ แล้วค่อยตรงไปทางโน้น”

เกมที่เล่นไม่ต่างกันในชีวิตจริง

เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วนั่นหมายความว่า คุณได้ลงเล่นในเกมชีวิตแล้ว แต่ละคนมีเวลานับถอยหลังไม่เท่ากัน อยู่ที่ว่าระหว่างที่นาฬิกาชีวิตยังเดินอยู่ คุณได้ลงมือทำอะไรลงไปบ้างกับชีวิตนี้ที่เกิดขึ้นมา

เวลาเจอความทุกข์หรือปัญหาในชีวิต ให้คิดว่าถึงเวลาเปิดซองขึ้นมาแล้วได้โจทย์ล่ะ ซึ่งแต่ละคนก็ได้ไม่เหมือนกัน ต่างเวลา ต่างสถานที่กัน

แต่ขอให้รู้ไว้ว่าเมื่อได้รับมัน และเมื่อคุณผ่านไปได้ คุณจะได้อาวุธติดตัวขึ้นเพิ่มขึ้นทุกครั้ง คุณอาจได้เหรียญทองคำ ได้พลังที่วิ่งเร็วขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย

 

เมื่อเอาชีวิตไปเปรียบกับเกม เราจะได้ไม่ซีเรียสหรือเครียดกับมันจนเกินไป เราจะได้ไม่ต้องลงไปคลุกหรือเล่นกับมันจนบอบช้ำไปหมด เวลาเราเล่นเกมเราอยู่ในตำแหน่งไหน เราเป็นผู้ดูเสมอ!

จะเล่นเกมจากจอคอมพ์ จากกระดาน จากกระดาษหรือจากอะไร เวลาเราเล่นเราอยู่จากมุมสูงเสมอ เราจะเห็นทั้งหมดว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ตัวเราเป็นอย่างไร พลังมากน้อยแค่ไหน จะมีสัตว์ประหลาดแบบไหนบุกมาทางไหนบ้าง เราเห็นหนทางหนีทีไล่ หรือจะเอาอาวุธอะไรไปสู้กับมันดี หรือเราแค่หลบในหลุมแล้วสัตว์ประหลาดก็ลอยผ่านไป

คุณเห็นภาพใช่ไหม คุณเป็นผู้ควบคุม ตัดสินใจ เห็นภาพใหญ่อยู่ข้างบน วันไหนไม่ไหวไม่อยากเล่นก็พักก่อน พร้อมแล้วมาเล่นกันใหม่

เมื่อเรารู้สึกว่าเราได้ “เล่น” ความทุกข์จะเป็นเรื่องสนุกและท้าทายขึ้นมา

วันไหนยังไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร มีวันต่อๆ ไปให้เราได้เล่นต่อ แต่อย่างน้อยวันนี้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างละ วันหน้าจะพยายามทำให้ดีขึ้น ไม่พลาดในที่เดิมๆ

 

ชีวิตแต่ละคนได้รับโจทย์ในชีวิตไม่เหมือนกัน

บางคนได้เรื่องความเจ็บป่วยในชีวิต บางคนเป็นเรื่องคนเป็นที่รักทรยศหักหลัง บางคนไม่สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ บางคนต้องใช้ชีวิตในที่จำกัดอิสรภาพ บางคนต้องผจญกับหนี้สิน บางคนต้องเจอเรื่องคนที่รักกำลังจะพลัดพรากหรือสูญเสียคนที่รัก บางคนเจอเรื่องคนใกล้ตัวเหมือนหนามยอกอก บางคนต้องเจอคนกลั่นแกล้งให้เสื่อมเสีย บางคนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

นี่ยังไม่นับความทุกข์รายวันที่เราต้องเจอเล็กๆ น้อยๆ อีก แต่อยากจะบอกว่าเมื่อเราฝึกผ่านความทุกข์เล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันไปได้เรื่อยๆ ความทุกข์ใหญ่เวลาเข้ามาเราจะรับมือกับมันได้มากขึ้น

เจ้านายไม่เลือกงานเรา ต่อคิวตั้งนานแล้วไม่ได้ของ คนปาดหน้า คนพูดไม่ดีใส่ อ่านคอมเมนต์แล้วจิตตก รถติด (ชิบหาย) แฟนไม่ว่างมารับ แฟนตอบไลน์ช้า พ่อไม่อนุญาตให้ซื้อของที่อยากได้ แม่ด่าแต่เช้า อาจารย์ให้คะแนนน้อยกว่าที่คิด เพื่อนไม่ชวนเราเข้ากลุ่ม ไม่มีเงินซื้อกระเป๋าแพงๆ เหมือนคนอื่น ลูกค้าเรื่องมากพูดไม่รู้เรื่อง ถูกเพื่อนร่วมงานเม้าธ์ โดนกระชากมือถือ รถโดนชนตูด ผัวกลับบ้านดึก ลูกไม่ยอมกินผัก ไม่ทำการบ้าน และอีกล้านแปด!!!

ถ้าเราลองสังเกตดู เวลาเราเกิดความทุกข์มันเพราะคนอื่นเสมอ จะทุกข์ด้วยเพราะเกิดจากตัวเองนั้นน้อยมาก

เพราะเราตั้งความหวังว่าเขาต้องทำอย่างนี้ให้เรา ให้เราอย่างที่เราต้องการ ให้เราในเวลาที่เราต้องการ ให้เราเท่าที่เราต้องการ พอเขาปฏิบัติต่อเราแบบที่ไม่ตรงใจเรา เราก็ทุกข์แล้ว

แล้วเราจะแขวนชีวิตเราไว้กับคนอื่นตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอ พอใครทำอะไรหน่อย เราก็ไหวไปกับสิ่งที่เขาทำ

ถามหน่อยว่าเราสามารถบังคับให้คนรอบตัวทำได้อย่างใจเราทุกอย่างไหม เราไปกดปุ่มสั่งให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้สิเพราะฉันชอบ ฉันพอใจ ฉันมีความสุข ฉันปรารถนาดีต่อเธอนะ ฉันรักเธอนะ เราเอาตัวเราไปเป็นไม้บรรทัดวัดคนอื่นเสมอ

ถ้าไม่ทำอย่างที่ฉันต้องการนั่นคือผิด และเธอทำให้ฉันมีความทุกข์

 

เดี๋ยวๆ ชีวิตใครก็ชีวิตคนนั้นไหม เราไม่สามารถไปบอกให้ใครทำได้อย่างใจเรา คิดกลับมาที่ตัวเองสิ เรายังยืนตรงแอ่นอกเชิดหน้าบอกเขาว่า “ฉันเป็นของฉันอย่างนี้ใครจะทำไม” เรายังไม่ยอมเปลี่ยนหรือให้ใครมาเปลี่ยนเราเลย ดังนั้น อย่าไปหวังว่าใครๆ จะต้องมาทำอย่างที่ต้องการไปทั้งหมด เพราะพอไม่ได้อย่างที่หวัง ใครคือคนเป็นทุกข์…ถ้าไม่ใช่เรา

เมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องที่เกิดด้วยตัวเราเองได้ และเราสามารถออกแบบปฏิกิริยาตอบรับแบบสวยๆ และทำให้เรามีความสุขได้

เวลาเจอคนมาทำร้ายเราไม่ว่าทางคำพูดหรือการกระทำ ขอให้เรารู้ไว้ว่า เขาเป็นคนไม่มีความสุข ความน่าสงสาร เขาต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างในชีวิต เพราะคนที่มีความสุขดี เขาจะไม่คิดทำร้ายคนอื่น ส่งความเมตตาไปให้เขา สงสารเขา

แผ่เมตตาไปให้เขา

 

รู้น่าว่าไม่ใช่เรื่องง่าย จะบ้าเหรอเธอ มันเลวกับเราจะตาย เกลียดมันอย่างกะขี้ จะให้ไปเมตตามัน แผ่เมตตาให้มันนี่นะ

แต่เชื่อไหมทำทุกวันก่อนนอน เราจะนอนหลับสนิท เราจะคลายความโกรธเกลียด เราจะไม่เป็นโรคเครียดและโรคอื่นๆ ตามมา

มีน้องคนหนึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจแบบน้อยคนจะเป็น “หมอถามว่าคุณอาฆาตใครไว้ในใจมาตลอดหรือเปล่า”

น้องคนนี้ฟังแล้วน้ำตาไหลแล้วพยักหน้า ใจกับกายเราสัมพันธ์กันเสมอ

คิดเสียว่าเราทำเพื่อตัวเราเอง แล้วคนที่คุณเกลียดจะค่อยๆ หายไปจากชีวิตคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว

เวลาเราผ่านโจย์ที่ได้รับในชีวิตได้ คุณก็จะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนเสมอ คุณจะมีปัญญามากขึ้น เก่งและแกร่งมากขึ้น ชีวิตดีขึ้น มีความสุขง่ายๆ มากขึ้น รู้คุณค่าของสิ่งรอบตัวมากขึ้น รู้คุณค่าของชีวิต และรู้ว่าในเวลาที่เหลือเราจะใช้ชีวิตอย่างไร

ตราบใดที่เราต้องเวียนว่ายตายเกิด เราก็จะเจอโจทย์ใหม่ไปเรื่อยๆ เจอทุกข์ ดับทุกข์ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่อยากเป็นอย่างนี้อีก พระพุทธเจ้าได้ค้นพบและบอกทางไว้เรียบร้อยแล้ว…