จดหมาย

จดหมาย

ประจำวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2565 ฉบับที่ 2178

 

จดหมาย

 

• พระนิพพาน

“นิพพานัง ปรมัง สุขขัง”

หมายถึงสภาวะของจิตที่เป็นสุข

ยิ่งกว่าความสุขใดๆ ในโลก

เป็นสภาวะของจิตที่ไม่ถูกเกาะเกี่ยวด้วยกิเลสตัณหา

เป็นจิตอิสระ และสันติสุขอย่างยิ่ง

และคำกล่าวที่ว่า นิพพานัง ปรมัง สุญญัง

หมายถึง จิตว่างจากการยึดมั่น ถือมั่น ต่อสิ่งทั้งปวง

รวมถึงไม่ยึดมั่นทั้งในรูปธรรม และนามธรรม

ด้วยจิตจะเข้าสู่สภาวะของสุญญตา ถือว่างเปล่าอย่างยิ่ง

ร.ต.ท.นฐพล พิทักษ์

 

ตอนนี้ วงการสงฆ์ ว่างเปล่า

อันมิได้หมายถึง สภาวะของสุญญตา

หากแต่เป็น “ความว่างเปล่า” จากการปฏิบัติของ “เจ้ากู”

ที่มิอาจซึมซับเอาธรรมะที่แท้จริงเข้าสู่จิตใจได้

และยังสะสมกิเลสหนาเตอะ

เป็นความสูญเปล่าที่ทำให้ชาวพุทธอย่างเรา “ศรัทธา” ตก

แม้จะรู้ว่า สิ่งดีๆ ยังมีอยู่ ตามที่ ร.ต.ท.นฐพล พิทักษ์ ว่ามา

แต่เจอแต่เรื่อง “หมองๆ” มาก

จิตใจจึงไม่ผ่องแผ้วสักเท่าไหร่

 

• การพระ-การเมือง

ผมนั่งพิจารณาแล้วธรรมชาติสร้างอวัยวะมนุษย์ได้สมดุลมาก

บนศีรษะเรา

ตามีหน้าที่ดูอย่างเดียว แต่มี 2 ตา

หูมีหน้าที่ฟังอย่างเดียว แต่มี 2 ข้าง

จมูกมีหน้าที่หายใจอย่างเดียว แต่มี 2 รู

พอมาถึงปาก มีหน้าที่ 2 อย่าง แต่มี 1 ปาก

ธรรมชาติเขาเข้าใจปาก จึงให้เลือกพูดดี กินดี

แต่คนเราใช้ผิด

เขาสร้างให้ตา 2 ตา เพื่อให้ดูให้ทั่วถึง

หูมี 2 ข้าง ให้ฟังหู ไว้หู

แต่พระอิศวรท่านประชดนนทก ให้มี 20 กร 10 เศียร ผมสงสารนางมณโฑ

ท่านนักการเมืองทั้งหลาย

ถ้าท่านรู้จักใช้สิ่งที่ให้มาตามธรรมชาติให้ถูก

ท่านจะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า

ชีวิตเราก็จะมีความสุขไม่วุ่นวายเหมือนในรัฐสภาและคณะรัฐมนตรีในขณะนี้

ตะวันรอน

อ.ลอง จ.แพร่

 

 

จะว่าเป็นธรรมะสอนใจในวันพระใหญ่

ก็พูดไม่ได้เต็มปาก

แต่ก็ถือว่า เป็นคติเตือนใจได้ตามสมควร

โดยเฉพาะการใช้ “ตา หู ปาก”

ที่ธรรมชาติ “จัดสรร” มาให้สมดุลอย่างที่ว่า

แต่ก็มนุษย์นี่แหละ ที่มาทำให้ความสมดุลนี้เฉไฉไป

การกลับมาสู่ความสมดุล น่าจะทำให้สังคมนี้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิมเยอะ

 

• กกต.-กก.กำประตัก

เรียนบรรณาธิการ คอลัมน์จดหมาย

กกต.ในที่นี้คือ กรรมการกำประตัก มิใช่ กกต.ที่ท่านอื่นๆ เข้าใจกัน

กรรมการกำประตัก ทรงคุณค่าอาญาสิทธิ์และเป็นหน่วยพิทักษ์หน้าที่ที่ควรยกย่อง

จะชั่วดีถี่ห่างอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม เพราะพฤติกรรมย่อมชี้เจตนาที่กระทำ

ดังนั้น กกต.จึงเป็นที่กล่าวขวัญหา

พิจารณากันเองนะครับ

กกต.กรรมการกำประตัก

ซึ่งตระหนักทรงคุณค่าอาญาสิทธิ์

เป็นตัวของตัวเองเพ่งพินิจ

ตัดสินความตรงทิศชิดทางทอง

กกต.กรรมการกำประตัก

หน่วยพิทักษ์หน้าที่ที่ยกย่อง

ยิ่งซื่อสัตย์สุจริตจิดไตร่ตรอง

สมอย่างนักปกครองของชาติไทย

กกต.ต่อความยาวสาวความยืด

เผยกำพืดแตกรากจากสาไถย

คนดูแคลนแน่นอกรกเรื้อใจ

ปล่อยทิ้งไว้รังแต่เชื้อแพร่พันธุ์

กกต.ไม่ทำตามหน้าที่

โยนเผือกร้อนทุกทีหนีเย้ยหยัน

ดีเข้าตัวชั่วให้ใครได้ทั้งนั้น

เลวกว่าอันธพาลต้านสังคม

กกต.อิสระอิสเลอะ

ผลกรรมล้วนเปื้อนเปรอะเซอะทับถม

ศูนย์ตาชั่งซังกะตายพร้อมผายลม

โอกาสล้มกลางงานบานยึกยื้อ

กกต.องค์กรซ่อนตรรกะ

ผูกพันธะผู้นำล้ำเลิศหรือ

ใช้อำนาจรวมหมู่ “เป็น อยู่ คือ”

ปั้นกับมือย่อมสำเร็จเพชรพอกพูน

กกต.กลับตัวถ้วนทั่วเถิด

ธรรมบังเกิดสู่แผ่นดินสิ้นอสูร

ยุติธรรมค้ำไทยสุขไพบูลย์

เจิดจำรูญแก่ประชาธิปไตย

สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ

 

พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร

ให้ความหมาย ประตัก ว่า “น. ไม้ปลายฝังเหล็กแหลมใช้แทงสัตว์พาหนะ เช่นวัว”

ถือเป็นเครื่องมือคอยควบคุมสัตว์พาหนะ ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง

คนกำประตัก หรือ กรรมการกำประตัก อย่างที่สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ ว่าจึงสำคัญ

ในแง่ความหมาย การกำกับควบคุม

ดังนั้น กกต.–กรรมการกำประตัก จึงควรเป็นอิสระ และไม่อิสเลอะ

(สร้าง) ธรรมบังเกิดสู่แผ่นดินสิ้นอสูร อย่างที่ว่า

กรรมการเลือกตั้ง เอ้ย–กรรมการกำประตัก ทำได้หรือเปล่า? •