ส่งการบ้าน / เครื่องเสียง : พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

ส่งการบ้าน

 

พักเรื่องของใหม่ที่น่าสนใจเอาไว้ก่อนนะครับ เพราะมีการบ้านค้างส่งอยู่พอประมาณ

ด้วยปีที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์หลายๆ ชิ้นได้เปิดตัวและนำมาเล่าสู่กันฟังไปบ้างแล้ว พร้อมบอกว่าเข้ามาบ้านเราเมื่อไรก็จะนำมาบอกกล่าวให้ทราบกันหลังจากได้สัมผัสผ่าน ได้ทำความรู้จักกันแล้ว

ซึ่งเวลานี้ทำการบ้านเสร็จไปสองสามรายแล้วล่ะครับ ก็ได้เวลานำส่งละ

 

ชิ้นแรก คือ Bose Smart Soundbar 900 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อราวๆ ช่วงไตรมาสที่สามของปีก่อน

ก็ดังที่ทราบๆ กันนั่นแหละครับ ว่าเวลานี้ผลิตภัณฑ์อย่างซาวด์บาร์กำลังเป็นที่นิยมกันมาก เนื่องเพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงทำให้ตลาดของชุดลำโพงชิ้นเดียว (จบ) แบบนี้เติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจทีเดียว หากจะเรียกว่าโตขึ้นมาแบบหายใจรดต้นคอตลาดชุดหูฟังก็คงไมผิดสักกี่มากน้อย ด้วยเวลานี้ผู้ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบเสียงแทบทุกราย ได้หันมาขอเอี่ยวเค้กก้อนนี้กันอย่างหนาตา แม้ว่าจะไม่ลงมาสกรัมกันอย่างเนืองแน่นเหมือนเค้กชุดหูฟัง แต่ก็สร้างสีสันให้กับวงการไม่น้อยเลย

อย่างที่ได้เคยบอกไปนั่นแหละครับ ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีการออกแบบลำโพงที่ผนวกแอมป์ในตัวมีความก้าวหน้าไปมาก ทำให้ผู้ผลิตหลายรายที่แม้ไม่มีพื้นฐานธุรกิจอุตสาหกรรมด้านลำโพงมาก่อน ก็ยังสามารถเพิ่มสายงานการสร้างสินค้าใหม่เชิงนี้ให้กับแบรนด์ของตัวเองได้ไม่ยาก

และง่ายยิ่งกว่านั้นก็คือไปว่าจ้างให้ผลิตแบบ OEM : Original Equipment Manufacturer หรือจะพัฒนาขึ้นไปอีกเป็นแบบ ODM : Original Design Manufacturer ก็ยังได้

สาเหตุที่ลำโพงซาวด์บาร์เป็นที่ต้องการของตลาด ก็เนื่องเพราะทุกวันนี้ในสังคมเมืองนั้นที่อยู่อาศัยของผู้คนถูกลดขนาดลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น เมื่อพื้นที่ใช้สอยมีน้อยลง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็นก็ต้องคิดกันมากขึ้น ว่าควรใช้อะไรแบบไหนจึงจะสิ้นเปลืองพื้นที่น้อยที่สุด แต่ให้ประสิทธิภาพได้มากที่สุด ซึ่งระบบเสียงอย่างชุดลำโพงสำหรับดูหนังฟังเพลงแบบโฮม เธียเตอร์ ก็เช่นเดียวกัน จากระบบเริ่มต้น 3.1 หรือ 5.1 หากสามารถยุบรวมมาเหลือเป็น ‘ชิ้นเดียวจบ’ ได้ และให้สุ้มเสียงรวมทั้งบรรยากาศเสียงออกมาได้ไม่ขี้เหร่กว่าพวกแยกชิ้นสักกี่มากน้อย ใยจึงจะไม่ได้รับความนิยมเล่า

ยิ่งรุ่นใหม่ๆ สามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มารับใช้การออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทำงานร่วมกับระบบเสียงที่เป็นฟอร์แม็ตใหม่ๆ ได้ ก็ยิ่งได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในแง่การตลาดเพิ่มมากขึ้นด้วย

Bose Smart Soundbar 900

กล่าวสำหรับ Bose Smart Soundbar 900 ที่เป็นพัฒนาการล่าสุด และเป็นรุ่นเรือธงของค่าย Bose Corp. นั้น นอกจากจะผนวกเทคโนโลยีทางด้านระบบเสียงที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะแบบ ‘จัดเต็ม’ แล้ว ยังเป็นรุ่นแรกในกลุ่มซาวด์บาร์ของค่ายนี้ที่รองรับการทำงานกับสัญญาณเสียงแบบ Dolby Atmos ได้ด้วย

โดยช่วงประกาศข่าวก่อนออกสู่ตลาดและได้เปิดให้พรีออเดอร์ได้ในราคา US$ 899.95 (บ้านเราเคาะออกมาที่ 37,900 บาท) ที่สหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เอ่ยปากถึงผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้อย่างมั่นใจ ว่าจะเหนือชั้นกว่าทุกๆ ลำโพงประเภทเดียวกันที่รองรับฟอร์แม็ตเสียงแบบล่าสุดนี้ได้ จากหลากหลายเทคโนโลยีที่ได้ผนวกเข้าไว้ภายในตัวของมัน โดยเฉพาะกับเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญ คือ Bose PhaseGuide ที่ทำให้ลำโพงชิ้นเดียวสามารถรังสรรค์มิติเสียงออกมาได้อย่างสมจริง ทั้งยังแยกแยะรายละเอียดเสียงต่างๆ ออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงของชิ้นเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ เสียงสนทนา ตลอดจนนานาเสียงเอฟเฟ็กต์ที่แตกต่างกันไป ก็ล้วนแสดงออกมาให้รับรู้ได้เหมือนอยู่ท่ามกลางเสียงนั้นๆ อย่างเสมือนจริง

ทั้งยังบอกด้วยว่าหากเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่นำมาเล่นกลับนั้นไม่ได้เข้ารหัสมาแบบ Dolby Atmos ลำโพงก็จะทำงานในการให้ความกว้างของมิติเสียงในแนวระนาบโดยการใช้เทคโนโลยี Bose TruSpace แล้วผสมผสานมิติเสียงให้เกิดความสมจริงของเสียงขึ้นในแนวดิ่ง อันเป็นสนามเสียงในชั้นที่สูงขึ้นไปกว่าระดับปกติที่ Bose เรียกว่า A Layer of Realism ผ่านชุดตัวขับเสียงแบบพิเศษ โดยมิพักต้องมีลำโพงชุด Height ที่เป็นลำโพงฝังเข้าฝ้าเพดานหรือติดตั้งเข้าผนังห้องจริงๆ เหนือจอภาพแต่อย่างใด

โดยชุดตัวขับเสียงพิเศษที่ว่านั้น ได้ติดตั้งเอาไว้ในลักษณะให้ยิงเสียงขึ้นด้านบน ทำหน้าที่รองรับฟอร์แม็ตเสียงแบบ Dolby Atmos เพื่อรังสรรค์บรรยากาศเสียงออกมาให้สมจริงมากที่สุด ทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับชุดลำโพงด้านหลังห้องที่เป็น Back Surround Speaker และตู้ Sub-Woofer ที่ล้วนเป็น Smart Speaker ของ Bose เองได้อย่างกลมกลืน (ซึ่งเป็นออปชั่นแยกขายต่างหาก)

นอกจากจะสามารถรังสรรค์ภาพรวมของเสียงและบรรยากาศเสียงทั้งมวลออกมาได้อย่างสมจริงแล้ว ด้วยเทคโนโลยี Bose QuietPort ทำให้ Smart Soundbar 900 ให้การถ่ายทอดเสียงในย่านความถี่ต่ำ หรือเสียงเบส ออกมาได้ด้วยพลังอันหนักแน่น กระชับ และลงไปได้ต่ำลึกโดยปราศจากความพร่าเพี้ยนไม่ว่าจะเปิดที่ระดับความดังมากแค่ไหน และที่สำคัญคือเป็นเบสที่สะอาดอย่างน่าทึ่งมาก

ทั้งยังผนวกเทคโนโลยี Bose ADAPTiQ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งวางลำโพงได้อย่างอิสระ โดยมิพักต้องเป็นกังวลว่าจะทำให้สูญเสียคุณลักษณะที่ดีเหมือนลำโพงทั่วๆ ไป ที่เสียงจะเปลี่ยนไปตามลักษณะและสภาพแวดล้อมของตำแหน่งที่ตั้งวาง เพราะเทคโนโลยีนี้มีคุณสมบัติเด่นในด้านการปรับแต่งเสียงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ใช้งานนั่นเอง

 

Bose Smart Soundbar 900 ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลายในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การดูหนังและฟังเพลงทำได้อย่างสะดวก อาทิ พอร์ต HDMI eARC : Audio Return Channel สำหรับต่อกับทีวี (หรือจะต่อผ่านช่อง Optical ก็ได้ โดยมีสายนำสัญญาณทั้งสองประเภทให้มาในกล่องพร้อมสรรพ) ให้ทำงานแบบไร้สายได้ทั้งผ่านเครือข่าย Wi-Fi และ Bluetooth รองรับการทำงานร่วมกับ AirPlay 2 และ Spotify Connect สำหรับการสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมลำโพงนั้น รองรับทั้ง Google Assistant และ Amazon Alexa โดยเป็นการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่ Bose พัฒนาขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ คือ Bose Voice4Video Technology

ทั้งหมดนั้นสามารถควบคุมการทำงาน และสั่งการฟังก์ชั่นต่างๆ ทั้งหมดได้อย่างง่ายดายผ่านทาง Bose Music App หรือจะควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล ที่มีมาให้พร้อมในกล่องก็ใช้งานได้สะดวกเช่นเดียวกัน

Bose Smart Soundbar 900 มีมิติโครงสร้าง (กว้าง x สูง x ลึก) 44.14 x 2.29 x 4.21 นิ้ว หนัก 12.68 ปอนด์ ด้านบนปิดทับด้วยแผ่นกระจกแบบพิเศษ แผงหน้าเป็นตะแกรงโลหะ

ระบุว่าเหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับทีวีขนาดจอภาพ 50 นิ้วขึ้นไปครับ

เที่ยวหน้าจะมาเล่าสู่กันฟัง ว่าหลังจากได้ทำความรู้จักและสัมผัสผ่านกันแล้ว โดยส่วนตัวรู้สึกอย่างไรบ้างกับซาวด์บาร์ตัวนี้ •