หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๒๕)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๒๕)

 

โศกนาฏกรรมในประวัติศาสตร์ ที่ติดใจฉันมากที่สุด เกิดในปลายราชวงศ์หมิง เรื่องราวของเทพองค์สุดท้าย คือหยวนฉงฮ่วน

เขาเป็นแม่ทัพของจีนเพียงคนเดียวที่เอาชนะแมนจูได้หลายครั้ง

แปลกมาก แม้แต่นูรฮาซี ผู้นำที่เกรียงไกรของชาวแมนจูที่ไม่เคยแพ้ใคร ก็ยังต้องมาแพ้เขา และเสียชีวิต ตราบใดที่เขายังอยู่ ยากที่ชาวแมนจูจะเอาชนะราชวงศ์หมิงได้

เขาจึงได้ชื่อว่าเป็นเทพองค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิง

แต่เขากลับถูกฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิง คือจักรพรรดิฉงเจิน สั่งประหารชีวิต

มันเป็นการกระทำที่บ้าบอคอแตก ประหลาดล้ำ และทำในขณะที่กองทัพแมนจูยังคุกคามประเทศจีนอยู่

เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องทำอย่างนั้น และไม่ใช่การสั่งประหารธรรมดา หากแต่เป็นการแล่เนื้อเป็นพันชิ้น เรียกว่า เป็นการประหารที่โหดที่สุด เท่าที่จะทำได้

หากเพชฌฆาตแล่เนื้อไม่ครบพันชิ้น แล้วนักโทษเสียชีวิตก่อน เพชฌฆาตมีความผิด นี้จึงเป็นความตายที่ทรมานที่สุด

แล่เสร็จแล้วยังเอาเนื้อมาประมูลขาย เอามากิน

อนิจจา เนื้อใดเล่าจะอร่อยเท่าเนื้อเทพ

 

นี่คือกฎแห่งธรรม นั่นคือ เทพองค์สุดท้ายต้องตายอย่างทรมานที่สุด

นี้คือโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ ที่วรรณกรรมใดๆ ก็ยากจะทำได้ หากท่านไม่ตายอย่างทรมานที่สุด คำว่าเทพองค์สุดท้ายก็ยังเรียกได้ไม่เต็มปาก

จักรพรรดิฉงเจินคนนี้ หากเกิดในยุคนี้ เขาก็จะเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง ด้วยจิตของเขาไม่ปกติ หรือในอีกแง่หนึ่ง เขาคือใครคนหนึ่ง ที่ถูกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทำให้กลายเป็นคนไม่มีเหตุผล

ดังนั้น จิตของเขามีแต่ความดำมืด ทั้งที่เขารักและต้องการบูรณะราชวงศ์ของเขาอย่างที่สุด แต่เขาทำไม่เป็น มีความกระหายเลือดลึกๆ ในจิตของเขา

และเลือดที่เขาต้องการที่สุด กลับเป็นเลือดของเทพองค์สุดท้าย

ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเจอกัน จักรพรรดิฉงเจินก็ต้องการฆ่าเขาแล้ว แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกลึกๆ ที่ยังไม่ปรากฏรูป มันซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น และค่อยๆ เบ่งบาน ค่อยๆ ฝังลึก

จนในที่สุด เหมือนฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง หากเขาไม่ได้ฆ่าเหยื่อคนนี้ เขาจะนอนไม่หลับ

แต่ฆ่าเสร็จแล้วเขาได้อะไร ไม่มีเลย นอกจากหายนะของราชวงศ์

นับจากนั้นเหล่าแม่ทัพนายกองก็เริ่มปลีกตัวหนีห่าง บางคนไปตั้งตัวเป็นโจร บางคนหนีไปสวามิภักดิ์ต่อชาวแมนจู ส่วนใหญ่หมดกำลังใจในการสู้รบ ขนาดเทพยังต้องตาย แล้วสำมะหาอะไรกับตัวเอง

แต่นั่นเองเหมือนชะตาชีวิตที่มองไม่เห็น มันอยู่ตรงนั้น ราชวงศ์หมิงล่มสลาย ไม่ใช่เพราะรบแพ้ชาวแมนจู แต่เพราะทำตัวเอง ที่ต้องทำตัวเอง เพราะหมดอายุแล้ว

 

จักรพรรดิฉงเจิน (1611-1644) เขาขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิองค์ที่ ๑๗ วันที่เขาอายุ ๑๗ ปี และครองราชย์ได้นาน ๑๗ ปี เสียชีวิตเมื่ออายุ ๓๓ ปี

ในช่วงหลัง ทุกคืนเขาจะหนีไปยืนร้องไห้หลังวัง ด้วยเพราะเห็นว่าราชวงศ์หมิงไม่มีหวัง

และท้ายสุด เขาก็หนีไปผูกคอตายในสวน

เคยมีจักรพรรดิเลวๆ ล้มตายมากมาย ที่เหลวไหลจนทำให้ราชวงศ์ของตัวเองต้องล่มสลายก็เคยมี แต่ทำให้คนจีนต้องตกเป็นทาสคนชาติอื่นนานเกือบสามร้อยปี ฉันไม่เคยเห็น

เขาประหารหยวนฉงฮ่วน ในปี 1630 หรือปีที่สี่ในการขึ้นครองราชย์ ปีนั้นเขาอายุ ๒๐ ปี ยังเป็นเด็กอยู่เลย เด็กน้อยที่ไม่มีความสุขสงบใดๆ ในดวงจิต มีแต่ความกระวนกระวาย คล้ายเขาจะไม่ใช่คนเลวมากนัก แต่ทว่ามีความกระหายเลือดประหลาดบางอย่างในตัวของเขา

ความอำมหิตที่อธิบายไม่ได้ ความโง่เขลาที่ไม่รู้มาจากไหน เขามองไม่เห็นสิ่งที่ทุกคนมองเห็น

ขนาดชาวเกาหลีที่อยู่แสนไกลยังมองเห็น ชาวเกาหลีเสียใจยิ่งนักกับการตายของหยวนฉงฮ่วน

 

การจะวิเคราะห์หยวนฉงฮ่วน ควรดูจากภาพรวมทั้งหมด เช่น ในยุคนั้น ชาวแมนจูรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง มารบกับเขา กลับแพ้ทุกครั้ง นี้บอกอะไรบางอย่าง ยุคนั้นคนจีนหวาดกลัวชาวแมนจูเหมือนหนูกลัวแมว แต่ทำไมเขาเอาชนะได้ และทหารของเขาก็น้อยกว่า นี้คือการเอาน้อยชนะมาก

อีกทั้งนูรฮาซีก็เป็นอัจฉริยะในการทหาร เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของแม่ทัพแมนจู ยังต้องตายเพราะเขา

และลูกชายคือหวงไท่จี๋ ที่เป็นยอดคนอีกคนหนึ่ง ก็แพ้เขาอีกคน เขาเอาชนะได้อย่างไร อะไรคือจุดเด่นของเขา

น่าคิดยิ่งนัก ตอนแรกฉันคิดว่าหยวนฉงฮ่วนเป็นฝ่ายบู๊ เป็นแม่ทัพเช่นกวนอู คือเป็นทหารที่กล้าหาญ เข้มแข็ง

แต่ต่อมาฉันเห็นภาพของเขา ตกตะลึงที่พบว่ เขาเป็นบุ๋น กล่าวคือ หน้าตาคล้ายผู้หญิง เป็นบัณฑิตหน้าขาว ปากแดง

ที่จริงเขาไม่น่าจะรบได้เลย ร่างกายดูอ่อนแอออกปานนั้น

จุดเด่นของเขาคือหัวใจของเขา เป็นดั่งระเบิดปรมาณู เขาแผ่ความรู้สึกนี้ไปรอบกายของเขา ทุกคนที่มาเจอเขาจะรู้สึกถึงความร้อนระอุแห่งความรักชาติ และความกล้าหาญ

เขาเปลี่ยนคนรอบข้างได้หมด เหมือนตัวเขาไม่ใช่คน

๑๐

ต่อมาฉันจึงรู้ว่าในราชวงศ์หมิง ห้ามฝ่ายบู๊เป็นแม่ทัพ ด้วยเพราะกลัวจะก่อการกบฏ

จึงมีกฎอยู่ว่า แม่ทัพของจีนต้องเป็นบัณฑิตที่สอบผ่านจิ้งสือแล้ว

บัณฑิตระดับนี้คือผู้มีความรอบรู้ในทางอักษรศาสตร์ สามารถเขียนบทกวี สามารถเขียนลายมือ ประดิษฐ์ตัวอักษร เหตุนี้เองราชวงศ์หมิงจึงไม่มีกบฏ แต่ก็มักจะรบแพ้ เพราะบัณฑิตเหล่านี้ส่วนใหญ่รบไม่เป็น

แต่วิธีการนี้ก็ได้ผล ราชวงศ์หมิงอยู่ได้นานเอาการ ด้วยไม่มีแม่ทัพคนใดเข้มแข็งพอจะก่อการกบฏ

แต่ในปลายราชวงศ์หมิง ก็ยังอุตส่าห์มีสามคนที่ยกเว้น คือเป็นบัณฑิตที่รบเป็น

และหยวนฉงฮ่วน เป็นหนึ่งในสามคนนั้น

 

๑๑

ข้อเสียของเขาคือ เขาเป็นคนตรง ก้าวร้าว ใจร้อน เขาจึงทำความผิดบางอย่าง และเขาฉลาดแต่ซื่อ

หากเขามีความเหี้ยมหาญสักหน่อย มีเล่ห์เหลี่ยมบ้าง เขาน่าจะรอด เขาจะยังทำอะไรได้มากมาย

เขาสามารถเอาชนะกองทัพแมนจูได้หมด เพราะศักยภาพของชาติจีนใหญ่กว่าชาติแมนจูถึงหนึ่งร้อยเท่า แต่เขากลับซื่ออย่างเหลือเกิน ห้าวด้วย

นี้คือสูตรสำเร็จของความตาย เขาเป็นปุถุชน ดังนั้น หากมองหา ก็จะมองเห็นข้อบกพร่องของเขา

๑๒

วันหนึ่งกิมย้งเขียนนิยายเรื่องที่สอง เผ็กฮ่วยเกี่ยม นิยายเรื่องนี้ตัวเอกคือ หยวนฉงฮ่วน แต่ทว่าเขียนถึงแบบอ้อมๆ ซึ่งอ่านแล้วก็ไม่รู้สึกเลย เรียกได้ว่าเป็นงานที่ล้มเหลว

ที่จริงโศกนาฏกรรมในประวัติศาสตร์ ยามปรากฏตัว มันรุนแรงมากอย่างเหลือเชื่อ มันเหมือนจันทร์เพ็ญ ที่สว่างไสว

ส่วนวรรณกรรมทั้งหลาย เป็นได้อย่างมากแค่ตัวหิ่งห้อย

ดังนั้นเอง นิยายสิบกว่าเรื่องของกิมย้งจึงเป็นได้แค่หิ่งห้อยสิบกว่าตัว บินเล่นในลำคลอง ในยามราตรีมืดมิดอันธการ