‘อันวาร์ สาและ’ แนะ ปชป.ผ่าวิกฤตใหญ่ ‘ควรทำสิ่งที่ถูกต้อง’ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รายงานพิเศษ

พิชญ์เดช แสงแก่นเพ็ชร์

 

‘อันวาร์ สาและ’

แนะ ปชป.ผ่าวิกฤตใหญ่

‘ควรทำสิ่งที่ถูกต้อง’

ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

“ผมมีความรู้สึกตกใจ และละอาย เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับพรรคของเราที่เกิดขึ้นมา 76 ปี” อันวาร์ สาและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มองข่าวที่เกิดขึ้นกับพรรคในช่วงที่ผ่านมา

แม้จะมีคนบอกว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง มันก็ใช่ แต่สิ่งที่มันเป็นปัญหาเพราะว่าคุณไปรับรองให้เขาเข้ามาในพรรคและคุณก็ตั้งเขาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มันก็เลยทำให้พรรคแตก

อย่าลืมว่าคุณกรณ์ จาติกวณิช เป็นอดีตรัฐมนตรีคลัง ที่อาเซียนให้การยอมรับ และเป็นคนเก่าแก่ของเรา พอคุณตั้งแบบนี้คนก็อยู่ไม่ได้ พอเขาออกไป ผมถึงบอกว่า ทำให้เราสูญเสียคนดีๆ

“ผมอยากถามว่าตั้งแต่คุณเข้ามา คนเดียว ทำให้คนออกไปมากกว่า 20 คนแล้ว เป็นคนดังๆ ทั้งนั้น รู้สึกอย่างไร

ผมมองว่าพรรคเป็นเหมือนสถาบัน ทุกๆ พรรคการเมืองพยายามจะบอกว่าตัวเองตั้งขึ้นมาและจะเดินไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองกันทั้งนั้น แต่การจะเป็นสถาบันทางการเมืองที่ดีได้มันต้องมีบุคคล มีบุคลากรของพรรค ต้องดูว่าตัวบุคคลจะทำให้พรรคนั้นเกิดความมั่นคงมีความน่าเชื่อถือมีเสียงสนับสนุนมีคนที่เขารู้สึกแฮปปี้ ชื่นชมกับพรรคก็ต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย

แต่การเข้ามาของคุณเพียงคนเดียว ทำให้คน 20 กว่าคนออกไป ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องตอบแล้วว่าอย่างนี้เรียกว่าพรรคแตกหรือไม่แตก คนที่ออกไปเรื่อยๆ บุคลากรดีๆ ออกไป ผมคิดว่านี่ก็เป็นคำตอบในตัวของมันอยู่

ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ผมมองว่าความเป็นพรรคการเมืองความคิดเห็นที่แตกต่างไปทางอื่นเป็นสิ่งธรรมดา แต่พรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้นมา 76 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ต่อให้มีความเห็นไม่ตรงกัน เราก็ไม่เคยเห็นคนออกเยอะขนาดนี้ เช่นสมัยคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือว่ายุคก่อนหน้านั้น ความคิดที่แตกต่างกันไม่เคยเป็นปัญหา ยังสามารถที่จะบริหารทำงานกันไปได้ แต่พอเกิดสถานการณ์แบบนี้ และมีการแก้ปัญหาแบบที่เราเห็นอยู่

มันเลยทำให้ความรู้สึกของคนในพรรคที่อยู่ไม่ได้ เกิดความรู้สึกเลือกพรรคเลือกพ้อง

ส่วนกระแสเรียกร้องคุณชวน หลีกภัย-คุณอภิสิทธิ์ กลับมาคุมพรรค อันวาร์ สาและ บอกว่า ต้นเรื่องเกิดมาจากมีคนที่เป็นแฟนๆ ของพรรค และมีสื่อวิเคราะห์ว่าการเดินเกมแบบนี้เป็นการเรียกร้องให้คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ลาออก เพื่อที่จะเอาคุณอภิสิทธิ์กลับเข้ามา เลยมีการพูดกันเยอะมาก

คนที่ศรัทธาพรรคก็มีเสียงเรียกร้องอยากให้เกิดความรับผิดชอบทุกอย่างที่ควรจะเป็น แล้วถามว่าคุณจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ในเมื่อในสายตาของคนนอกตัวปัญหาก็คือคุณ และคุณไม่ได้แสดงออกในจุดที่คนในสังคมอยากจะให้เป็นเลย

ที่คุณบอกจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ถามว่าคุณแก้ได้หรือ เพราะว่าคุณคนเดียวเข้ามา 20 คนออก มันก็ชัดเจน

ผมเองไม่ได้มีอะไรในใจผมไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นหรือว่าโกรธใคร ไม่ได้ชอบใครเป็นการส่วนตัว ไม่มีเลยไปดูได้เลย นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

แต่จากกรณีที่วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาทำให้ท่านชวนได้ออกมาบอกว่าท่านแล้วก็คุณอภิสิทธิ์เป็นคนที่สนับสนุนให้คุณจุรินทร์เข้ามา เป็นหัวหน้าพรรค ผมว่า ในเมื่อมีการพาดพิงกันแบบนี้ว่าคุณจุรินทร์ไปรับรองบุคคลนั้น แล้วสังคมก็เรียกร้อง ก็เอาอย่างกัมพูชาเลย เป็นนายกฯ ทั้งคู่เป็นผู้นำทั้งคู่มาแก้ปัญหาของพรรคในวันนี้ เพราะเขมรเคยมีนายกฯ 2 คนได้ ปัญหานี้ท่านชวนเองก็บอกว่า ท่านกับคุณอภิสิทธิ์เป็นคนสนับสนุนคุณจุรินทร์ แล้วปัญหาในวันนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ใหญ่มากนะ ผมก็เรียกร้อง กลับมาเป็นหัวหน้าควบคู่กันไปเลย จะได้ช่วยกันแก้ปัญหาให้ดีขึ้น

ในเมื่อทั้ง 2 ท่านบอกว่าเป็นผู้สนับสนุน ก็เป็นทั้งคู่เลย ถึงจะแก้ไขปัญหาหนักๆ แบบนี้ได้

ส่วนกรณีถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีการลาออก ผมมองว่าควรชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลให้สังคมยอมรับมันก็ไปต่อได้

ก่อนหน้านี้ผมเองก็พยายามบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของแค่คนในพรรค มันเป็นกระแสของสังคม ประชาชนมองเข้ามา แล้วถ้าอยู่กันแบบนี้ เราจะเหลือประชาชนสนับสนุน เพื่อให้เรามีผู้แทนราษฎรในสภาได้อีกหรือไม่

สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เราต้องพิจารณา ซึ่งจริงๆ แล้วสมมุติว่าถ้าท่านลาออกแล้วท่านได้กลับมาใหม่ผ่านกระบวนการ มันจะจบเลย คือได้ทั้งแสดงสปิริต ทำทุกอย่างกลับเข้ามาตามกระบวนการถูกต้อง ตามหลักของประชาธิปไตยตามกลไกในพรรค

แต่ถ้าคุณไม่ลาออกก็พยายามต้องพูดคุยสื่อสารเจรจาด้วยเหตุผลให้ทุกคนยอมรับให้ได้และให้สังคมภายนอกยอมรับในเงื่อนไขแบบนี้ได้

อนาคตของประชาธิปัตย์จะอยู่รอดได้ ส.ส.อันวาร์ สาและ มองว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ชาวบ้านรักให้ประชาชนอยากได้ และให้เขารู้สึกว่าไม่มีพรรคไหนนอกจากพรรคนี้ที่จะเป็นที่พึ่งของเขา แล้วคนส่วนใหญ่อยากจะเลือกเพื่อเป็นที่คาดหวังของเขา ผมคิดว่าทางนี้จะเป็นทางที่ดีที่สุด

ผมเองไม่ได้เป็นผู้นำหรือผู้บริหารระดับสูงของพรรค ผมเป็นแค่สมาชิกคนหนึ่ง ผมก็น่าจะทำหน้าที่ของผมในการสะท้อนเสนอข้อคิดเห็นต่างๆ ในมุมที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นเอกสาร เป็นหน้าที่ที่ผมทำอยู่ในหน้าที่อยู่ในบริบทนี้เดินบนรากฐานที่ทำถูกก็ถูก ผิดก็ว่าผิด

เมื่อมองภาพใหญ่ในการร่วมรัฐบาล อันวาร์ยืนยันว่า ถ้ากลับไปดูที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ตอนแรกในอดีตจุดยืนผมชัดเจนมาตลอดว่าการเข้าร่วมรัฐบาล ต้องการที่จะแก้ปัญหาให้ประเทศเดินหน้าไปได้

ในขณะเดียวกัน ภาพพจน์ของประชาธิปัตย์ต้องกลับมาเป็นพรรคที่อยู่ในใจของพี่น้องประชาชนซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งสองอย่าง

แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือการเข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล คุณต้องเข้าไปเป็นปากเสียงใน ครม. อะไรที่เป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ทำไป สนับสนุนไป แต่อะไรที่ทำให้ประเทศเสียหาย เรื่องที่ทำให้สังคมยอมรับไม่ได้คุณต้องทักท้วง ถ้าเราอยู่ในบริบทตรงนี้อยู่ใน ครม.คุณมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่การไปตามทุกอย่างกับรัฐบาล ไม่สนใจกระแสสังคมที่ไม่ยอมรับ มันกลับมาเป็นปัญหาให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ การร่วมรัฐบาลก็เหมือนอยู่ในปลาบ่อเดียวกันมันก็เน่ากันทั้งหมด

ก่อนที่มันจะเน่า อะไรที่เราจะทักท้วง ต้องพูดต้องฝืนต้องทำ ควรทำ เพราะมิฉะนั้นปัญหาจะกลับมาที่พรรคเราเอง

ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคควรทำสิ่งที่ถูกต้อง อย่าไปใช้เสียงข้างมากลากในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

วันนี้เป็นเรื่องในสภาหรือเขาเตรียมจะซักฟอกกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล แต่ว่าอย่าลืมว่าการที่เราถ่ายทอดการอภิปรายออกไปให้ประชาชนได้เห็นได้รับทราบได้รู้ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาหรือตอบข้อกล่าวหา แต่ถ้าเสียงข้างมากถูกเอามาใช้เพื่อช่วยในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สภาจะไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่ายค้านรัฐบาล จะนำไปสู่พี่น้องประชาชน ความขัดแย้งใหญ่โต และเป็นความรู้สึกระหว่างประชาชนกับสภา ผมมองว่าน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดม็อบในถนนอีกครั้งหนึ่ง

และอาจจะถูกใช้เป็นข้ออ้าง ว่ามีความไม่สงบแล้วนำไปสู่การรัฐประหารอีก

อันวาร์ สาและ กล่าวอีกว่า ผมยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดหรือแสดงออก ผมไม่ได้ยืนตรงข้ามกับหัวหน้าหรือกับพรรคประชาธิปัตย์ และผมไม่ได้รังเกียจท่านนายกรัฐมนตรีด้วย ไปย้อนดูในสิ่งที่ผ่านมาเวลาที่ท่านนายกฯ ทำอะไรถูกต้องผมก็ชื่นชมสนับสนุนเห็นด้วย ผมเองเคยทำจดหมายเปิดผนึกชื่นชมนายกฯ ในการแก้ปัญหาในบางเรื่องที่ถูกทางถูกต้องถูกเวลา

แต่ถ้าเรื่องไหนไม่ถูก ผมจะยืนอยู่ตรงข้าม การจะยืนหยัดในการเดินอยู่ในแนวทางที่ถูกต้องประชาชนจะเห็น ดังนั้น ทุกอย่างต้องมีเหตุผลในการตอบข้อชี้แจงให้ได้

สำหรับจุดจบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ดีที่สุดผมมองว่าคือการเลือกตั้ง คุณประยุทธ์จะมีเสียงข้างมากหรือไม่ จะถูกสนับสนุนหรืออยู่ต่อได้หรือไม่ สุดท้ายก็ต้องไปเลือกตั้ง หรือถ้าสมมุติว่าเสียงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีกระแสเรื่องกระแสความนิยมไม่ผ่าน ก็ต้องเลือกตั้ง คำตอบสุดท้ายคือการเลือกตั้ง ที่ผมพยายามเน้นเรื่องนี้เพราะว่าการเลือกตั้งเป็นทางออกของระบบที่ดีที่สุด

ผมไม่อยากให้มีการปฏิวัติ ที่ผ่านมาทุกครั้งผมก็อยู่ในแนวทางนี้มาตลอด เพราะที่ผ่านมาสถิติของประเทศเราไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในหลายๆ เรื่อง ของการฉีกรัฐธรรมนูญและการทำรัฐประหารที่ประสบความสำเร็จ

ประเทศเราควรจะก้าวข้ามจุดนี้ ควรจะเดินแนวทางประชาธิปไตย มันมีทางออกของมันอยู่

ชมคลิป