ทางรอดอยู่ในครัว : แด่โลกขาลง / ครัวอยู่ที่ใจ : อุรุดา โควินท์

ครัวอยู่ที่ใจ

อุรุดา โควินท์

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: แด่โลกขาลง

 

เป็นฤดูร้อนที่แดดแรง และฝนตกวันเว้นวัน ดอกลั่นทมบานเต็มต้นในคืนเดียวหลังฝนตก ฉันไม่แน่ใจว่าฤดูฝนนี้เราจะเจออากาศแบบไหน และถ้าอีกสองปีเชียงรายจะมีหิมะฉันก็คงไม่แปลกใจ

ปีใหม่เมืองที่ผ่านมาเงียบเหงาอย่างกับไม่มีลมหายใจเทศกาล คงไม่ใช่แค่เรื่องโรคระบาด หลักๆ เป็นเพราะเศรษฐกิจ เชียงรายเป็นเมืองที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว ขาดส่วนนี้ไป เมืองก็เหงาลง เงียบลง เงินหมุนเวียนน้อยลง

ถนนหนทางเงียบมาก เงียบตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ และต้องใช้คำว่ากริบเมื่อถึงวันหยุดยาว ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดให้พนักงานได้หยุดพัก

“หน้าบ้านเรายังเงียบเลย คิดดู” เขาตั้งข้อสังเกต

จริงด้วย บ้านตรงกันข้ามเราต้องสังสรรค์ทุกสงกรานต์ ไม่เคยเว้น แม้แต่สองปีที่ผ่านมา เราก็ได้ยินเสียงเพลง ได้ยินเสียงหัวเราะ ได้ยินเสียงเหิดหุย (เฮฮา) ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าออกทั้งคืน

ปีนี้เงียบมาก เพราะการขยับร่างทำอะไรสักอย่างต้องใช้เงิน ในภาวะที่ทุกอย่างขึ้นราคายกเว้นรายได้ของเราน่ะ ดูเหมือนว่าทุกคนจะหายใจช้าลง เบาลง เคลื่อนไหว จับจ่ายให้น้อยที่สุด

“อยู่กันมาได้ก็เก่งแล้ว ไม่มีหนี้สิน แล้วก็ไม่ติดโควิดน่ะ ควรได้ถ้วยแล้วนะ”

เขาหัวเราะ

 

ฝนตกเหมือนงงฤดู คนก็งงไปด้วยว่าควรทำอะไร ที่คิดจะพาหมาไปเดินเล่นก็ไม่ได้ไป ที่ตั้งใจจะทำสบู่ ก็ไม่ได้ทำ ไปตลาดก็ไม่สะดวก

ฉันนั่งลูบแผงคอท้าวฮุ่ง คิด-วันอย่างนี้ควรทำแยมเบคอน แต่ไม่ได้สั่งเบคอนมาเก็บไว้ ซื้อมั่วๆ ก็ไม่อร่อย ไม่ว่าเมนูไหนสิ่งสำคัญสุดคือคุณภาพวัตถุดิบ

ท้าวฮุ่งติดเชื้อรา กำลังรอผลเพาะเชื้อว่าเป็นเชื้อราตัวไหน หมอเดาว่าน่าจะมาจากแมว ดูจากสถานการณ์ก็น่าจะใช่ เราไม่ได้เลี้ยงแมว แต่แมวบ้านอื่นมาอยู่บ้านเราหลายตัว ไล่ก็ไม่ไป หมอบอกว่า แมวจะทิ้งเชื้อราไว้ตามพื้น แล้วถ้าหมาตัวชื้นไปเจอกับเชื้อราก็ติดได้ เชื้อราส่วนใหญ่ที่เกิดในหมาเป็นเชื้อราที่มาจากแมว

หมาของเรา เราก็รักษาไป ขี้คร้านจะไปบอกเพื่อนบ้าน ว่าให้ดูแมวดีๆ เพราะถ้ามีใจอยากดูแลมัน เขาก็ไม่ปล่อยให้มาวุ่นวายในบ้านเรา

โอเค-มืดๆ ครึ้มๆ แบบนี้ เราทำอะไรแปลกๆ กินกันเถอะ เปิดไวน์กรุบกริบ ฉลอง…สำหรับอะไรดีล่ะ

“ฉลองที่เรายังอยู่ ยังยิ้มได้ ไม่ได้ยืมตังค์ใคร” ฉันโพล่งออกมา

“หา…”

ฉันหัวเราะ “จะทำเมนูไก่ที่ยังไม่เคยทำ วันก่อนเห็นฝรั่งทำ ซื้อชีสมารอไว้เรียบร้อย ทำได้เลยวันนี้”

ใช้อกไก่ แล่ให้บางลง ทุบให้แบนลง ชิ้นมันจะใหญ่ขึ้น จากนั้นก็เตรียมการคลุก

ไข่ไก่สองฟอง กระเทียมสับ ผักชีซอย ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทยนิดหน่อย และใส่พามาซานชีสขูดเยอะๆ

ซื้อกระทะเหล็กหล่อมา ต้องใช้ให้คุ้ม มันดีมากสำหรับการย่างและผัดไฟอ่อน

ใส่เนยกับน้ำมันลงไปอย่างละหน่อย

ให้กระทะเริ่มร้อน แต่ไม่ต้องร้อนจัด เอาไก่คลุกแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้ทั่ว แล้วคลุกไข่กับชีสที่เตรียมไว้ให้ทั่ว บรรจงวางลงบนกระทะ รอสักสองนาที ค่อยกลับอีกด้านลง สองนาทีกลับด้านหนึ่งครั้ง ถ้าไก่ไม่หนามาก กลับสักสองทีก็สุก ถ้าไม่สุกค่อยย่างต่อ ข้อควรระวังเดียวคือไก่ต้องสุก เพราะอกไก่นั้น แล่แล้วยังค่อนข้างหนา แถมมีชีสกับไข่เคลือบอีกชั้น

ทอดทีละชิ้น ฉันพักไว้ในจาน ได้ไก่สีทองที่ดูน่ากินมาก

อืม จริงๆ แค่นี้มันก็อร่อยแล้วล่ะนะ บีบมะนาวก่อนกินสักนิด

แต่ไหนๆ จะทำเหมือนเขา ควรจัดให้เต็มสูตร

 

กระทะใบเดิม เติมน้ำสต็อกไก่ลงไปนิดหน่อย กระเทียมสับอีกนิด หอมแขกสับกับผักชีอีกอย่างละสองช้อนโต๊ะ บีบมะนาวครึ่งลูก ตักเนยใส่ลงไปนิดหน่อย ปรุงรสเพิ่มด้วยพริกไทยกับเกลือ พอมันเดือด ก็เอาไก่ที่ทอดแล้วลงไปแช่ในซอสสักหนึ่งนาที ค่อยตักใส่จานเสิร์ฟ

ซอสที่เหลือนิดหน่อย ราดลงบนตัวไก่

ฉันมีฟักทองญี่ปุ่น ซื้อมาให้นึ่งให้ท้าวฮุ่งกิน หั่นเป็นชิ้น ยัดใส่เตาอบ ได้กินแทนมันฝรั่ง

ทำสลัดง่ายๆ อีกจาน น้ำสลัดไม่ต้อง น้ำมันมะกอกกับเกลือคืออร่อยสุด

“โห น่ากินมาก มาก”

“แอบชิมไก่ตอนทอดเสร็จ อร่อยนะ ปกติไก่ไม่มีรสชาติ จะหมักอะไรยังไงก็ไม่เข้าเนื้อ แต่นี่รสมันอยู่ในไข่กับชีสที่เราคลุกน่ะ”

ซอสทำให้รสชาติไก่เข้มข้นขึ้น เปลี่ยนสัมผัสไปเล็กน้อย โดยรวมแล้วอร่อยมาก ง่ายมาก และไม่แพงด้วย

แปลก-แค่เราบอกว่าจะฉลอง ทำเมนูใหม่ๆ ขึ้นสักเมนู เราก็ตื่นเต้น และสามารถมีความสุข

ใช่ ในโลกขาลง โดยของแพงระยับนี้ล่ะ •