ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

ยิ่งใหญ่กว่า

 

วันก่อน “กระทิง” เรืองโรจน์ พูนผล ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกสิกรไทย มาบรรยายที่หลักสูตร ABC

“กระทิง” เป็นวิทยากรที่มาบรรยายในคลาส ABC ทุกรุ่น

พูดแต่ละครั้ง ไม่เคยเหมือนกันเลย

แตกต่างจากผมมาก

บรรยายกี่ครั้ง เหมือนกันทุกครั้ง

“กระทิง” บรรยายแต่ละครั้ง จะมีเรื่องเทคโนโลยี หรือความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มาเล่าให้ฟังทุกครั้ง

ว่ากันว่าสไลด์ที่ “กระทิง” บรรยายวันนี้กับบรรยายพรุ่งนี้ ยังไม่เหมือนกันเลยครับ

เพราะโลกใบนี้มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน

ครั้งนี้ เขาเล่าเรื่อง “แผนที่ 2030”

คือ จะบอกว่าอีก 8 ปีต่อจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ตื่นตาตื่นใจเหมือนเดิม

แต่ไม่กล้าเล่ามาก เพราะคาดว่าตอนนี้ “กระทิง” เปลี่ยนสไลด์ใหม่แล้ว

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ “โควิด” ได้เร่งสปีด “ความเปลี่ยนแปลง” ให้เร็วขึ้น

กระแสดิสรัปต์ที่บอกว่าจะเกิดกับธุรกิจไหนบ้าง

เคยมีการเรียงลำดับไว้

อย่างเช่น เรื่องการศึกษา คนทำนายว่าจะเจอกระแสดิสรัปต์เป็นลำดับท้ายๆ

พอเจอ “โควิด” ปั๊บ

ทุกมหาวิทยาลัย โรงเรียน เปลี่ยนมาเรียนออนไลน์หมด

ครู-อาจารย์ที่เคยปฏิเสธการสอนออนไลน์ มีเหตุผลความไม่พร้อมต่างๆ นานา

“โควิด” บังคับให้ทุกคนต้องลุย

ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม

นักเรียนที่ไม่เคยเรียนออนไลน์ก็ต้องมาเรียนออนไลน์

จนป่านนี้นิสิตนักศึกษาปี 2 ยังไม่เคยเจอ “เพื่อนใหม่” แบบเห็นหน้าเห็นตากันเลย

ถ้ามีงานรับน้อง หรืองานรับเพื่อนใหม่

คงต้องรับ 2 ปีพร้อมกัน

“โควิด” ทำให้เรื่องการศึกษาโดนดิสรัปต์เรียบร้อยแล้ว

“กระทิง” สรุปว่า “โควิด” ทำให้ทุกธุรกิจเท่าเทียมกัน

ไม่มีใคร “ก่อน-หลัง” อีกแล้ว

 

ในขณะที่ “กระทิง” กำลังเล่าเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ กระแสความเปลี่ยนแปลงที่ล้ำๆ ไปเรื่อยๆ

คล้ายๆ จะบอกทุกคนในห้องว่าใครไม่รู้เรื่อง หรือไม่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ จะตกยุคก้าวไม่ทันความเปลี่ยนแปลง

พาทุกคนไปไกลมาก

แล้วเบรก “เอี๊ยด” ทันที

เขาถามว่ารู้ไหม หน้าที่ “ผู้นำ” หรือ “ผู้บริหารระดับสูง” คืออะไร

ทุกคนนิ่ง

“หน้าที่ของเราคือ ต้องเลือก และกล้าที่จะปฏิเสธ”

เพราะสิ่งที่เป็นกระแส ดูล้ำมากในวันนี้ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็ได้

เขายกตัวอย่าง Segway รถยืนไฟฟ้า ที่เคยมีผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเทคโนโลยี 2-3 คนบอกว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนโลก

ถ้าจำไม่ผิดจะมีบิล เกตส์-เจฟฟ์ เบซอส ฯลฯ

แต่สุดท้ายก็ “แป้ก”

หน้าที่ของ “ผู้นำ” จึงต้องไม่ตามกระแส

แต่ใช้ดุลพินิจเลือกว่าอะไรเหมาะกับองค์กร อะไรไม่เหมาะ

และอะไรจะมา อะไรไม่มา

ที่สำคัญคือ “เวลา”

ใช้วันนี้ หรือรอก่อน

อะไรฉลาดกว่ากัน

บางครั้งก็ต้องกล้ายืนทวนกระแสบอกว่าที่ล้ำๆ น่ะ ไม่ใช่

มีน้องคนหนึ่งลุกขึ้นถาม “กระทิง” ว่าทำงานกับคุณบัณฑูร ล่ำซำ มาพักใหญ่แล้ว

“ท่านสอนอะไรบ้าง”

“กระทิง” บอกว่าคุณบัณฑูรสอนว่า “ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยคณิตศาสตร์”

เพราะ “คณิตศาสตร์” เป็น Fact

เป็น “ความจริง” ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก

พอเอาหลักคณิตศาสตร์มาจับมาวิเคราะห์แล้ว

จากนั้นก็ต้องใช้ศาสตร์อื่นๆ มาจัดการ

ถ้าเป็นเรื่องกฎหมาย ก็ใช้นิติศาสตร์

ถ้าเป็นเรื่องการเงิน ก็ใช้ศาสตร์ด้านบัญชี ฯลฯ

แต่สุดท้ายทุกเรื่องต้องจบที่ “ภาษาศาสตร์”

นั่นคือ การสื่อสารที่สั้นกระชับ ทุกคนเข้าใจ และทรงพลัง

…ชัดเจนมาก

 

การบรรยายวันนั้นแปลกและแตกต่างกว่าทุกครั้ง

เพราะ “ผู้ฟัง” คนหนึ่ง คือ “ยุ้ย” ภรรยาของเขา

สไลด์ที่บรรยาย “กระทิง” เพิ่งเรียงเสร็จตอนเช้า หลังจาก “ยุ้ย” ออกจากบ้านแล้ว

เพราะในสไลด์มีรูปของภรรยาโผล่ขึ้นมาเป็นระยะ

เป็นมุขขำๆ ที่เจือความจริง

เขาพูดตลอดการบรรยายว่า “ยุ้ย” มีความสำคัญอย่างไรกับเขา

จนผมนึกในใจว่า “กระทิง” บรรยาย หรือเล่นแบดมินตัน

… “หยอด” อยู่เรื่อย

ถึงช่วงสัมภาษณ์ ผมยิงคำถามสุดท้ายว่าเขาเล่าเรื่องความเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้มามากมาย และพูดถึงภรรยาตลอด

“ผู้หญิงคนนี้มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของกระทิงอย่างไร”

เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น “กระทิง” น้ำตาเรื้อๆ

เขาเล่าว่ารู้จักกับ “ยุ้ย” เพราะเธอเชิญ “กระทิง” มาบรรยายหลังจากอ่านหนังสือที่เขาเขียน

ตอนที่ “ยุ้ย” พา “กระทิง” ไปพบคุณพ่อคุณแม่

ไม่รู้จะแนะนำว่าเขาทำงานอะไร เพราะทั้ง 2 ท่านคงไม่เข้าใจ

ก็เลยแนะนำว่าเป็น “นักเขียน”

ตอนที่แต่งงานกันก็อยู่ในห้องเล็กๆ

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ “กระทิง” ลำบากมาก มีบางแวบคิดขั้นจะอำลาโลกนี้

แต่ผู้หญิงคนนี้บอกเขาว่าเธอจะดูแล “กระทิง” เอง

“ยุ้ย” เริ่มขายของออนไลน์ ห่อของเอง ขายเอง

ภาพนั้นประทับอยู่ในใจของ “กระทิง” จนถึงวันนี้

สาวๆ ในห้องหลายคนบอกว่า “กระทิง” วันนั้นหล่อมาก

ในขณะที่หนุ่มๆ ในห้องเริ่มไม่พอใจ

เพราะ “กระทิง” สังหารผู้ชายในห้องตายเรียบ

ผมจำไม่ได้ว่าช่วงท้ายเขาสรุปว่าอย่างไร

แต่ผมสรุปเรื่องราวในวันนี้ได้สั้นๆ

“กระทิง” เริ่มต้นเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก

คือ เรื่องเทคโนโลยีและความเปลี่ยนแปลง

แต่เขาจบด้วยเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่า

นั่นคือ เรื่อง “ความรัก” •