เปิดฉาก ‘ซีเกมส์ vs ซีโกง’ อย่าหลอกตัวเองแค่อาเซียน / เขย่าสนาม : เมอร์คิวรี่

เขย่าสนาม

เมอร์คิวรี่

[email protected]

 

เปิดฉาก ‘ซีเกมส์ vs ซีโกง’

อย่าหลอกตัวเองแค่อาเซียน

 

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 “ฮานอย 2021” เตรียมรูดม่านเปิดการชิงชัยกันที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในช่วงระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคมนี้ ซึ่งถูกเลื่อนมาจากช่วงปลายปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จนในที่สุดผ่านเวลากว่าครึ่งปีจนได้ฤกษ์เปิดฉากการแข่งขัน

ด้วยปัญหาอุปสรรคต่างๆ ภายใต้สถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าภาพเวียดนามถือโอกาสในการกระจายการแข่งขันไปจัดใน 12 เมือง ลดขนาดของจำนวนนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ อีกทั้งฉวยโอกาสปรับลดบางอีเวนต์ (ที่ไม่มีความหวัง) และยัดเพิ่มกีฬาพื้นบ้านบรรจุชิงชัย (ที่หวังโกยเหรียญ)

ดังนั้น จึงเป็นการยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของกีฬาซีเกมส์เอาไว้ก็คือ “กีฬาท้องถิ่น” ชาติไหนเป็นเจ้าภาพก็บรรจุชนิดกีฬาที่ตัวเองมีความหวังคว้าเหรียญเข้ามาชิงชัย จนกลายเป็นการด้อยค่ามหกรรมกีฬาอาเซียนด้วยมือตัวเอง ทั้งที่ควรจะเป็นเวทีพัฒนา “กีฬาสากล” ต่อยอดไปสู่เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์

จาก “ซีเกมส์” ทำให้หลายคนมองเป็น “ซีโกง” โดยที่เจ้าภาพแต่ละครั้งพยายามที่จะ “หลอกตัวเอง” กับการประกาศศักดาครองเจ้ากีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียน ทั้งที่แต่ละชนิดกีฬาที่บรรจุชิงชัยนั้นเป็นกีฬาพื้นบ้านที่ยัดเข้ามาเพื่อเพิ่มความหวังโกยเหรียญรางวัล และมีกีฬาสากลที่เจ้าภาพอาจจะได้เหรียญไม่มากนัก

 

ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 “ฮานอย 2021” มีการชิงชัย 40 ชนิดกีฬา รวมทั้ง 526 เหรียญทอง ซึ่งได้บรรจุชนิดกีฬาที่เจ้าภาพมีความถนัด และมีความหวังสูง รวมทั้งกีฬาพื้นบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โววีนั่ม” ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของเวียดนามที่ชิงชัยมากถึง 15 เหรียญทองเลยทีเดียว!

Vietnam News Agency (VNA) สำนักข่าวของเวียดนาม รายงานว่า ทัพนักกีฬาเวียดนาม ตั้งเป้าคว้า 140 เหรียญทอง 77 เหรียญเงิน และ 71 เหรียญทองแดง พร้อมครองเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 “ฮานอย 2021” ครั้งนี้

เวียดนามได้เตรียมการอย่างรอบด้านสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 พร้อมตั้งความหวังที่จะโกยเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 18 ปี

เวียดนามตั้งเป้าหมายทำผลงานให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้า 8 เหรียญทองจากกีฬาว่ายน้ำ รวมทั้งกระตือรือร้นที่จะต้องการทำลายสถิติก่อนหน้านี้ที่คว้า 16 เหรียญทองจากกรีฑา และหวังคว้าได้ถึง 7 เหรียญทองจากคาราเต้, เทควันโด, ยูโด, ยิงปืน, ยิงธนู และยกน้ำหนัก

จากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกของเวียดนาม เมื่อปี 2003 สามารถโกยเหรียญรางวัลได้มากถึง 158 เหรียญทองจากทั้งหมด 444 เหรียญทอง พร้อมกับยังคว้าได้อีก 97 เหรียญเงินและ 91 เหรียญทองแดง ครองเจ้าเหรียญทองครั้งนั้นแบบไม่เห็นฝุ่น

แต่จากการแข่งขันซีเกมส์ 3 ครั้งล่าสุด เมื่อปี 2019, 2015, 2019 เวียดนามทำผลงานคว้าเหรียญทองได้ 73 เหรียญทอง, 58 เหรียญทอง และ 98 เหรียญทองตามลำดับ ส่วนทางเจ้าภาพ 2 ครั้งก่อนหน้านี้คือ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้เหรียญทองมากกว่า 140 เหรียญเมื่อเป็นเจ้าภาพที่ผ่านมา

 

สําหรับทัพนักกีฬาไทยแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับการครองเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 บนถิ่นของเวียดนาม แต่ก็จะต้องทำผลงานคว้าเหรียญทองให้ได้มากที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องคว้าเจ้าเหรียญทองรวมในชนิดกีฬาสากลให้ได้โดยไม่มีข้อแม้ทั้งสิ้น

กีฬาหลักอย่างกีฬาทางน้ำ, กรีฑา, แบดมินตัน, มวยสากล, จักรยาน, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, วอลเลย์บอล, ยิงปืน, เทควันโด, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ จะต้องทำผลงานช่วยกันกวาดเหรียญรางวัล โดยเฉพาะเหรียญทองให้ได้มากที่สุด

ส่วนกีฬาฟุตบอล ที่มีชิงชัยถึง 4 เหรียญทองคือ ฟุตบอลชาย, ฟุตบอลหญิง, ฟุตซอลชาย และฟุตซอลหญิง ทีมชาติไทยก็จะต้องเหมาให้ทั้งหมด 4 เหรียญทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัพช้างศึกที่แม้จะเจอปัญหาในการเตรียมทัพ แต่ก็ต้องก้าวไปถึงแชมป์ซีเกมส์ให้ได้

ไม่ต้องมองถึงการก้าวข้ามอาเซียน มองแค่การครองเจ้าอาเซียนในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้ก่อน เพราะถ้าแค่ระดับอาเซียนยังไม่ได้แชมป์ จะไปมองถึงระดับเอเชีย หรือระดับโลกต่อไปได้อย่างไร เพราะความสำเร็จจะต้องเริ่มรากฐานที่แข็งแกร่งก่อนจริงหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์จะอาศัยความได้เปรียบในการโกยเหรียญทอง จนทำลายภาพลักษณ์ และด้อยค่าของมหกรรมกีฬาอาเซียนลงไป ทำให้ถูกบางคนมองว่าเป็นการหลอกตัวเองอยู่แค่อาเซียนจนติด “กับดักความสำเร็จ” แต่หากมองลึกลงไปมันเป็น “จุดเริ่มต้นสู่ความสำเร็จ”

เพราะหากลงลึกรายละเอียด แยกชนิดกีฬาพื้นบ้านออกไป และมุ่งไปที่ชนิดกีฬาสากล ซีเกมส์จะถือเป็นเวทีสำคัญของนักกีฬาอาเซียนในการได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ขั้นแรก ก่อนก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จในระดับต่อๆ ไป

แต่ถ้าก้าวไม่ข้ามก็คงทำได้แค่หลอกตัวเองวนเวียนอยู่เพียงเท่านี้

จากอดีตที่ผ่านมา ซีเกมส์ได้สร้างภาพจำจนกลายเป็นซีโกงในสายตาใครหลายคน และกลายเป็นการหลอกตัวเองกับการชิงชัยกีฬาอาเซียนที่ไม่จำเป็นต้องคาดหวังมากจนเกินไป ดังนั้น มนตรีซีเกมส์จะต้องเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กลับมาสมศักดิ์ศรีอีกครั้ง

มิเช่นนั้นแล้วกีฬาซีเกมส์จะยิ่งถูกลดทอนความสำคัญลงไปเรื่อยๆ และหลายชาติของอาเซียนก็คงจะไม่ให้ความสำคัญส่งนักกีฬาเข้าร่วมการชิงชัย

ทั้งที่เป็นมหกรรมกีฬาก้าวแรกที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในระดับที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม… •