Turning Red / การ์ตูนที่รัก : นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
Turning Red /disneypixar

การ์ตูนที่รัก

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

Turning Red

 

แก่นของเรื่องน่าจะอยู่ที่ฉากแม่กลายร่างเป็นแพนด้าแดงยักษ์ แล้วเด็กหญิงเหม่ยลี่เหลืออดก้าวไปข้างหน้ายิงแม่ด้วยคำพูดฉอดๆ ก่อนที่จะปิดท้ายว่า “หนูอายุ 13 แล้ว!”

นี่คือปัญหาของทุกบ้านไม่ว่าจะมีความรู้ล่วงหน้าหรือเตรียมตัวมาดีเท่าไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่จะพลั้งเผลอ 2-3 ครั้งมีปากเสียงกับลูกสาววัยทีนอายุ 13 โดยหลงลืมไปว่าเธอมิใช่เด็กแล้ว แม้คำนำหน้ายังมิใช่นางสาวก็ตาม

ด.ญ.เหม่ยลี่เป็นแพนด้าแดงตัวใหญ่

ทั้งแดง ทั้งใหญ่ และ “ไม่ใช่คน”

ภาพที่เห็นในหนังตลอดทั้งเรื่องนั้นชัดแจ้งว่า ด.ญ.เหม่ยลี่มิใช่เด็กคนเดิม เธอตัวใหญ่ขึ้นและมีสีแดงซึ่งควรจะเป็นประจำเดือนตามที่แม่คิดเอาเมื่อตอนต้นเรื่อง ดิสนีย์พิกซาร์เปลี่ยนประจำเดือนเป็นแพนด้าขนฟูสีแดงทั้งตัวไปเสีย ประจำเดือนและความเป็นผู้ใหญ่มิใช่น่ารังเกียจแต่เป็นความน่ารัก

แล้วทำไม ด.ญ.เหม่ยลี่ถึงรังเกียจตัวเอง?

Turning Red /disneypixar

เหม่ยลี่ตกใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เธอกำลังจะถูกจับได้ว่าเธอมิใช่เด็กดีในโอวาทดังที่แม่เข้าใจมาตลอด ที่เป็นประเด็นมากกว่าคือตามที่เธอเองเข้าใจมาตลอดและได้เล่าให้เราฟังอย่างน่ารักตอนต้นเรื่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉากเปิดตัวความเป็นเด็กดีของเธอในตอนแรกนั้นน่ารักจริงๆ

เด็กดีเชื่อฟังแม่ ช่วยงานศาลเจ้า เรียนหนังสือเก่ง กลับบ้านตรงเวลา ไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่ธรรมชาติเหมือนวารีที่ไม่รีรอ เด็กดีที่เชื่อฟังแม่ต้องหมดไปแน่ไม่ช้าก็เร็วเพราะธรรมชาติเป็นเช่นนั้นเอง สมมติว่าเด็กคนไหนเชื่อฟังพ่อแม่ตลอดไปย่อมต้องเป็นลูกแหง่ไม่รู้จักโตตลอดไปเช่นกัน

ถ้ารู้ตัวว่าอยากใช้ชีวิตแบบนั้นก็อย่าแต่งงานและมีลูกของตัวเอง จะเป็นบาปกรรมเสียเปล่าๆ

และขอให้แน่ใจว่าจะเป็นเด็กดีที่ไม่รู้จักโตได้ตลอดไปโดยไม่ต้องไปพบจิตแพทย์ในวันหลัง

วัยทีนมิใช่สิ่งมีชีวิตชนิดเดิม เขาจะเป็นผีเสื้อในอีกไม่กี่วัน เขามิใช่หนอนตัวเดิม เป็นสิ่งมีชีวิตคนละรูปร่าง หน้าตา และพฤติกรรม เหมือนแพนด้าแดงกับ ด.ญ.เหม่ยลี่ หากคุณพ่อคุณแม่บ้านใดไหวตัวเรื่องนี้ได้เร็วกว่าจะมีประโยชน์สองข้อ

หนึ่ง ทะเลาะกับลูกน้อยกว่า

สอง ลูกพัฒนาได้เร็วกว่าแล้วเป็นผู้ใหญ่ตัวโตเต็มวัยที่สมบูรณ์

Turning Red /disneypixar

หนังสมมุติเหตุการณ์เกิดขึ้นที่โตรอนโต ได้ยินมาว่าที่แคนาดามีความเป็นอยู่แบบพหุวัฒนธรรม (multi-cultural) ดีมาก คนต่างพันธุ์ไม่ว่าผิวสีอะไรสามารถอยู่ด้วยกันได้ด้วยความเคารพซึ่งกันและกันค่อนข้างดี ดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็เห็นจริง ครอบครัวคนจีนขนาดใหญ่สามารถสืบทอดพิธีกรรมของบรรพบุรุษได้โดยสงบ ถือเป็นความงาม

อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นสมัยใหม่และคอนเสิร์ตสมัยใหม่อย่างโฟร์ทาวน์ก็มา ไม่มีความจำเป็นที่การจุดธูปไหว้เจ้าต้องหมดไปเพราะในที่สุดแล้วเจเนอเรชั่นโฟร์ทาวน์ก็ต้องการสถานที่จุดธูปเพื่อค้นหาความสงบในใจแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งเราจะเห็นได้จากทัวร์กรุ๊ปศาลเจ้าในตอนต้นเรื่อง และฉากไคลแมกซ์ปิดท้าย ส่วนนี้บอกเราว่าเราไม่จำเป็นต้องรื้อของเก่าทิ้งเพื่อหลีกทางให้ของใหม่ ของสองสิ่งต้องหาทางอยู่ด้วยกันได้แน่นอนเพราะต่างมีข้อดีที่อีกฝ่ายไม่มี

เราสร้างเนชั่นแนลปาร์กได้โดยไม่ต้องทำลายชุมชน เราสร้างแหล่งท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องทำลายโบราณสถาน เราสร้างเมืองใหม่ได้โดยไม่ต้องทำลายถิ่นที่อยู่ของชาวบ้านซึ่งอยู่มาก่อน

เหมือนแพนด้าแดงและ “คน” ไม่จำเป็นต้องทำลายฝ่ายหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งคงอยู่

Turning Red /disneypixar

เป็นหนังของดิสนีย์พิกซาร์ปี 2022 ผลงานแรกของ Domee Shi ซึ่งได้รับคำชมมากมาย

มีอีกสองเรื่องเล็กๆ ที่ไม่น่ามองข้าม

เมื่อเพื่อนซี้สามคนของเหม่ยลี่พบว่าเธอไม่กล้าบอกแม่ตามตรงว่าเธอต้องการอะไรและได้ร่วมหัวจมท้ายกันสี่คนทำอะไรไป การกระทำของเหม่ยลี่อายุ 13 ถือว่ายอมรับไม่ได้สำหรับวัยทีนและวัยรุ่น เป็นความไม่ภักดีต่อแก๊ง นับเป็นการหักหลัง ทรยศ

และเห็นแม่สำคัญกว่าเพื่อนซึ่งผิดกฎของเผ่าอย่างมาก

เพื่อนมิได้ขอให้เหม่ยลี่โกหกแม่ พวกเขาแค่ขอให้พูดความจริงกับแม่เท่านั้น เพียงเท่านี้เด็กวัยทีนคนหนึ่งก็จะอาศัยอยู่ในทั้งสองโลกได้คือโลกของแม่และโลกของแก๊งซึ่งทวีความสำคัญมากขึ้นทุกขณะ เพราะแก๊งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการค้นหาอัตลักษณ์ กรณีที่เกิดขึ้นในหนังการ์ตูนเรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าเหม่ยลี่ต้องเลือกว่าจะมีอัตลักษณ์แบบแพนด้าแดงคือเป็นแบบแม่ซึ่งใหญ่ยักษ์ยิ่งกว่า

หรือแบบเพื่อนๆ คือเป็นคน

อีกเรื่องคือฉากที่พ่อพบวิดีโอแพนด้าแดงร่าเริงของเหม่ยลี่แล้วเข้าไปนั่งคุยด้วย จะว่าไปประเด็นนี้ต่อเนื่องจากเรื่องแรกกล่าวคือ “คนเรามีด้านไม่ดีกันทุกๆ คน มิใช่ว่าเราต้องกำจัดมัน ที่ควรทำคือจำกัดมันเอาไว้ก็พอ” พูดง่ายๆ ว่าอัตลักษณ์ทุกรูปแบบอยู่ด้วยกันได้ แต่ด้านที่ไม่ดีก็ไม่ควรปล่อยออกมาเพ่นพ่านมากจนเกินไปเท่านั้นเอง

เรื่องที่พ่อพูดนี้จะพบมากในเวชปฏิบัติทางจิตเวช

กล่าวคือ เด็กๆ จำนวนมากเกลียดตัวเองหรือส่วนหนึ่งของแคแร็กเตอร์ของตนเองเพราะพ่อแม่ไม่ยอมรับแคแร็กเตอร์นั้น เช่น เป็นอินโทรเวิร์ต หรือเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ เป็นต้น หากคุณพ่อคุณแม่เข้าใจเรื่องนี้เหมือนพ่อของเหม่ยลี่ ที่เราควรส่งสัญญาณให้ลูกทราบคือแคแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนคนส่วนใหญ่มิใช่เรื่องไม่ดีและไม่ต้องพยายามกำจัดเนื่องจากจะเหนื่อยยากและทุกข์มาก ขอให้รู้ตัวว่าตัวเองอินโทรเวิร์ตหรือเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์แล้วอยู่กับมันโดยรู้เท่าทันข้อดีข้อเสียของมันจะง่ายกว่ามาก

เพราะเป็นอินโทรเวิร์ตนั่นแหละจะรอดตายจากโควิดครั้งนี้ หรือเพราะเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์นั่นแหละผลงานถึงดีเลิศเข้าตาเจ้านายอยู่เรื่อยๆ

ส่วนข้อเสียก็ค่อยๆ เรียนรู้ไป

‘Turning Red’ /disneypixar

หนังสนุกมากจินๆ สมคำเล่าลือ

“หนูชอบผู้ชาย”

“หนูชอบเต้นส่ายก้น”

“หนูชอบเพลงโหวกเหวก”

“หนูอายุ 13 แล้ว ทำใจซะ!”

กับตอนจบ

“ถ้าไม่ดีพอสำหรับแม่ ก็ไม่ดีพอสำหรับใคร” พีกมาก – อย่าพลาด •

 

ชมตัวอย่างภาพยนตร์ Turning Red ได้ที่นี่