ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ล้านนาคำเมือง |
เผยแพร่ |
ล้านนาคำเมือง
ชมรมฮักตั๋วเมือง
สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขนมแตงไทย
อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “เข้าหนมบ่าแต๋งลาย”
แปลว่า ขนมแตงไทย
แตงไทยเป็นผลไม้สุกในฤดูร้อน ผลอ่อนนิยมเอามาทำแกง ต้มจิ้มน้ำพริก
ส่วนผลสุกจะมีในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับแตง ผลสีเขียวเข้มมีลายสีขาวพาดยาว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองออกส้มแดง
แตงไทยเนื้อร่วน นิ่ม ไม่ค่อยหวาน เวลาทำขนมหวานอาศัยเติมน้ำตาลลงไป
เนื่องจากแตงไทยมีฤทธิ์เย็น ช่วยคลายร้อน ดับกระหาย กินแล้วขับเหงื่อ ลดอุณหภูมิของร่างกายในฤดูร้อนลง
ผลสุกแม้ว่าคนทั่วไปในภาคกลางจะชอบกินแตงไทยน้ำกะทิ อาศัยความหวานจากน้ำเชื่อมมาทำให้อร่อยขึ้น อาศัยความเย็นจากน้ำแข็งมาช่วยลดความร้อนลง
แต่ในล้านนานิยมเอาแตงไทยไปทำขนม ทำนองเดียวกับขนมกล้วย ขนมตาล แต่เปลี่ยนส่วนผสมเป็นแตงไทย เรียกชื่อใหม่ว่าขนมแตงไทย
ขนมแตงไทยของภาคเหนือนิยมทำถวายพระ ทำในเทศกาลทำบุญ โดยเฉพาะในฤดูร้อนซึ่งเป็นหน้าของแตงไทย ผู้ใหญ่ว่า กินขนมแตงไทยแล้วจะทำให้บรรเทาความร้อนรุ่มในร่างกาย จะรู้สึกสบายตัว และเย็นลงในฤดูร้อน
นับเป็นอาหารบำรุงธาตุในหน้าร้อน
หากจะทำขนมแตงไทย ก่อนอื่นเลือกแตงไทยที่สุก นิ่ม ส่งกลิ่นหอมให้ได้เสียก่อน
หากแตงไทยอ่อนเกินไปจะไม่อร่อย และไม่หอมน่ากิน
ผ่าแตงไทยเอาไส้และเม็ดออก เหลือแต่เนื้อ แล้วขูดเอาเนื้อเก็บไว้
เครื่องปรุงขนมแตงไทย เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า (บางคนก็ผสมแป้งมัน หรือท้าวยายม่อมลงไปด้วย) ส่วนผสมหลักมีเนื้อแตงไทยขูด แป้งข้าวเจ้า และน้ำตาล หากใช้น้ำตาลโตนดจะหอมเข้ากันกว่า
วิธีทำ เอาแป้งผสมกับแตงไทยขูด คนให้เข้ากัน ยกกระทะตั้งไฟ เอากะทิลงพอร้อนใส่แป้งที่ผสมแตงไทย ใส่น้ำตาลคนให้เข้ากัน ชิมให้มีรสหวานมัน
ฉีกใบตองกว้าง 6 นิ้ว ขดเป็นกรวยเล็กๆ แล้วใช้ไม้กลัดกลัดใบตองไว้
วางกรวยลงในรูของลังถึง ตักส่วนผสมใส่ลงในกรวย จนหมดแป้ง
โรยมะพร้าวขูด แล้วนำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
พอสุกแล้วก็นำไปเสิร์ฟได้ •