‘สตรี’ Power ถล่ม ดิ อเวนเจอร์ส ‘ปชป.’/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

‘สตรี’ Power

ถล่ม

ดิ อเวนเจอร์ส ‘ปชป.’

 

ถือเป็นความพลิกผันทางการเมือง ในพรรคประชาธิปัตย์แบบหน้ามือเป็นหลังมือ

ย้อนไปเมื่อ 17 มิถุนายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

เปิดตัวทีมอเวนเจอร์สเศรษฐกิจ หรือทีมเศรษฐกิจทันสมัยของพรรค เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตอันสดใส อย่างคึกคัก

ซึ่งคงได้รับแรงบันดาลใจจาก ดิ อเวนเจอร์ส (The Avengers) ภาพยนตร์ที่เป็นการรวมตัวของเหล่าสุดยอดซูเปอร์ฮีโร่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไอรอนแมน, เดอะ ฮัลค์, ธอร์, กัปตันอเมริกา, ฮอว์กอาย และแบล็กวิโดว์ เพื่อที่จะปราบปรามบรรดาเหล่าร้ายทั้งหลายให้หมดสิ้นไป

มีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานคณะทำงาน

ซึ่งนายปริญญ์ประกาศอย่างมั่นใจว่าช่วยกันสร้างเศรษฐกิจทันสมัยกับพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคลังสมองให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต

ถือเป็นเลือดใหม่ของพรรค

และเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท แอนด์ วิลลา หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระหว่างจัดสัมมนา ส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรค ปรากฏว่าทีมกรรมการบริหารพรรค ลงทุนแต่งกายในธีมอเวนเจอร์ส มาร่วมงาน

ถือเป็นการสนับสนุนแนวทางใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเต็มที่

 

ทั้งนี้ นายจุรินทร์หัวหน้าพรรค ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ประกาศว่า ทีมอเวนเจอร์สประชาธิปัตย์ จะดึงศักยภาพของสมาชิกแต่ละคนมาร่วมขับเคลื่อนการทำงานพรรค

และดูเหมือนจะฝากความหวังอย่างสูงยิ่งกับคลื่นลูกใหม่อย่าง “ปริญญ์” ที่เพียบพร้อมด้วยชาติตระกูล เป็นบุตรชายของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ และยังเพียบพร้อมด้วยคุณวุฒิทางการศึกษาจากสถาบันระดับโลก

จึงทำให้นอกจากได้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมอเวนเจอร์สแล้ว

ในปัจจุบันยังมอบตำแหน่งผู้ว่าอำนวยการการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดูแลอีกด้วย

ถือเป็นการเติบโตทางการเมืองที่รวดเร็วในพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมากมายด้วยผู้อาวุโส แต่ไม่มีโอกาสดังเช่นนายปริญญ์

 

แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันพังครืน

เมื่อนายปริญญ์ตกเป็นผู้ต้องหา เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา

1. กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำต่อหน้าธารกำนัล

2. ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตน โดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

หลังมีสตรีวัย 18 ปี เข้าแจ้งความในห้วงสงกรานต์ และต่อมาเกิดภาวะเขื่อนแตก เมื่อมีผู้หญิงเข้าแจ้งความเพิ่มเติมถึง 14 ราย

แม้นายปริญญ์จะปฏิเสธ โดยยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง และเข้ามอบตัวสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

พร้อมได้ประกาศขอลาออกจากทุกตำแหน่งภายในพรรค ทั้งรองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สมาชิกพรรค

และแน่นอนย่อมรวมทั้งหัวหน้าทีมอเวนเจอร์สด้วย

ทั้งนี้ เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่อง “ส่วนตัว” ไม่เกี่ยวพันกับพรรค

ซึ่งดูเหมือนผู้บริหารพรรคจำนวนหนึ่งก็ยินดีให้เรื่องจำกัดวงไว้เฉพาะเรื่องปัญหาส่วนตัว

โดยยกย่องเป็นสปิริตทางการเมืองของนายปริญญ์

 

แต่กระนั้น ดูเหมือนกลุ่มสังคมภายนอก โดยเฉพาะกลุ่มสิทธิสตรี จะไม่ยินยอมให้กรณีที่ร้ายแรงนี้จบลงเพียงแค่เรื่องเฉพาะบุคคล

หากแต่เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสถาบันเก่าแก่ทางการเมือง แสดงจุดยืนรับผิดชอบในกรณีนี้ด้วย

ถือเป็นแรงกดดันภายนอกที่ทวีขึ้นเรื่อยๆ

จนอาจกระทบกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และอาจยาวไกลไปจนถึงการเลือกตั้งทั่วไปได้

ไม่เพียงเท่านั้น ภายในพรรคก็เกิดเอฟเฟ็กต์ปริญญ์ขึ้นอย่างหนักหน่วงเช่นกัน

มีการเปิดประเด็นสนทนาในไลน์ของผู้บริหาร

โดยมีฝ่ายหนึ่งเรียกร้องให้มีการตรวจสอบจริยธรรมกรรมการบริหารทั้งคณะ เนื่องจากยอมรับและสนับสนุนให้นายปริญญ์เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค

นำไปสู่การตอบโต้กันอย่างดุเดือด

ที่ได้รับความสนใจอย่างสูง คือ ท่าทีของนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรค ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงถือเป็น “สายตรง” ของนายจุรินทร์

โดยนางมัลลิกาตั้งคำถามว่า

“พฤติกรรมของคนหนึ่งคนควรถูกสอบจริยธรรมทั้งกรรมการบริหารพรรครึ?

แปลว่าอยากอะไร?

อยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค?

อยากเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค หรืออยากอะไร?

เรื่องนี้เป็นกระบวนการหรือเปล่า ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค 39 คน เรื่องของปริญญ์ยังไม่รู้เลยว่าผิด ถูก เป็นอย่างไร

แต่ถ้าเทียบกัน!! เรื่องที่คนรู้กันทั้งพรรคว่า คนคนหนึ่งเป็น ‘ชู้’ ของเมียคนอื่นมานานนม!! แบบนี้ต้องสอบจริยธรรมไหม

หรือพวกที่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นกิ๊กของผัวคนอื่น

หรือพวกที่เอาเสื้อไปแขวนไว้บนรถของผัวคนอื่นเพื่อไปงานด้วยกัน

หรือให้ผัวคนอื่นขับรถไปรับถึงบ้านตนเอง แบบนี้เรียกว่าต้องสอบจริยธรรมไหม?

หรือคนบางคนเป็น ‘ชู้’ ของผัวคนอื่นมานาน จนถึงขั้นสุดรู้กันทั้งบาง

มาวันหนึ่ง เปลี่ยนทางจากผัวของอีกคน มาเป็นผัวของอีกคน แล้วคนคนนั้นเป็น ส.ส.ในสภาด้วย

แบบนี้เราต้องสอบจริยธรรมไหม???? ใครจะสอบ ถ้าต้องตั้งกรรมการมาสอบจริยธรรมกรรมการบริหารพรรค ตั้งเลย สอบตั้งแต่กรรมการเนี่ยแหละ”

 

ถือเป็นความร้อนผ่าวภายในพรรค ขณะที่ในกลุ่มไลน์ชื่อ “อดีต ส.ส.และ ส.ส.ประชาธิปัตย์” ที่มีสมาชิกจำนวน 155 คน ก็มีปฏิกิริยาในทางตรงกันข้าม อย่างนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ส่งข้อความว่า

“ข่าวฉาวนี้ กระทบคนที่ทำที่พื้นที่อย่างหนัก ผมเชื่อว่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. จะยิ่งหนักกว่า หนักที่สุดคือชื่อเสียงของพรรคเรา ที่อีกไม่กี่เดือนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ผมขอให้ผู้บริหารมีท่าทีที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้ ที่จะสร้างความมั่นใจกับสังคมว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เพิกเฉย ดูดาย หรือเกียร์ว่างกับเรื่องที่เกิดขึ้น”

เช่นเดียวกับนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่งข้อความแสดงความคิดเห็นว่า “ปัญหาต่างๆ ที่ไม่จบก็เพราะไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำอย่างตรงไปตรงมา”

จนนายชวน หลีกภัย ได้ส่งข้อความปรามๆ ว่า

“อย่ากลัวปัญหา เมื่อมีปัญหา ก็อย่าหนีปัญหา”

และยังให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า เรื่องนี้กระทบต่อชื่อเสียงของพรรคและกระทบต่อความรู้สึกของผู้สนับสนุน

จำเป็นที่ กก.บห.ต้องชี้แจง

 

จากท่าทีของนายชวน กรรมการบริหารพรรค คนในพรรค รวมถึงแรงกดดันจากภายนอก

ทำให้เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายจุรินทร์พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยรัฐมนตรีของพรรค และกรรมการบริหารพรรค ยกทีมใหญ่แถลงข่าวกรณีนายปริญญ์

โดยกล่าวว่าว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และกราบขอโทษต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะมีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์เข้าพรรค แม้กระบวนการจะต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค และผ่านการให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ตาม

แต่เมื่อเกิดในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด

กรณีนายปริญญ์ พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง และไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการยุติธรรม

รวมทั้งจะดำเนินการ

1. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น

2. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีการโพสต์ในกลุ่มไลน์ของพรรค

นายจุรินทร์ยังบอกอีกว่า ในส่วนตนเองขอลาออกจาก 2 ตำแหน่งคือ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายสตรีแห่งชาติ

ส่วนมีการเรียกร้องให้คณะกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบนั้น ได้ไตร่ตรองแล้วหากอยู่ๆ ก็ลาออกแล้วทิ้งปัญหาไว้ ก็จะเป็นการหนีปัญหา จึงต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วง

ไม่ใช่ทิ้งปัญหาให้คนรุ่นหลัง

 

จึงเป็นเสมือนการยืนยันที่นายจุรินทร์ยืนยันจะไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค

จะนำพาประชาธิปัตย์ “ลุย” การเมืองต่อไป

แน่นอนเส้นทางจากนี้คงไม่สดใส ราบรื่น หรือคึกคักอย่างเช่นการชูทีมอเวนเจอร์สในตอนแรก

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายปริญญ์ ถึงจะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล

แต่การเลือกเฟ้นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่เข้ามาทำงานนั้น เอาเข้าจริงหัวหน้าทีมก็มีพฤติกรรมที่ยากจะยอมรับได้

และยิ่งเมื่อได้รับภาระกิจสำคัญให้เป็นแม่ทัพลุยศึกผู้ว่าฯ กทม.ด้วย ย่อมจะหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้

หากผลการเลือกตั้งออกมาแบบแพ้หลุดลุ่ย ความเชื่อมั่นว่า พรรคประชาธิปัตย์จะฟื้นกลับในสนาม กทม.ก็ยากยิ่ง

และเมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งใหญ่ ในอีกไม่ถึงปี การจะนำเหล่าซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ใหม่มาเป็นจุดขายก็พังครืนลงจากกรณีนายปริญญ์

ทำให้ความเชื่อมั่นของนายจุรินทร์ว่าในยุคของตนพรรคประชาธิปัตย์ จะสู่ยุคขาขึ้น ยากจะเป็นจริง

ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ประกาศว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิมจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ก็ถือเป็นการเดิมพันน่าหวาดเสียว

ยิ่งไปกว่านั้น สถานะในพรรคก็ยิ่งไม่สดใส

ด้วยกรณีนายปริญญ์ ได้ทำให้ปัญหาความขัดแย้งในพรรคร้าวลึกลงไปอีก

มีการเขย่าเก้าอี้นายจุรินทร์ และกรรมการบริหารปัจจุบันอย่างรุนแรงชัดเจน

มีการนำปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะภาวะการไหลออกของคนเก่าแก่ในพรรคอย่างต่อเนื่อง เข้ามาหลอมรวมกับกรณีของนายปริญญ์ โดยชี้ว่านี่คือความผิดพลาดในการคัดเลือกบุคคลากร ที่มุ่งเอาแต่คนของฝ่ายตน ละเลยคนในกลุ่มอื่น

จนเกิดภาวะเลือดแท้ไหลออกไม่หยุด

นำไปสู่การตกต่ำของพรรคมากกว่าจะดีขึ้นอย่างที่พยายามจะบอก

 

นี่จึงเป็นปัญหาที่ปะทุออกมารุนแรงอย่างไม่คาดฝัน

ซึ่งคงจบลงไม่ได้ง่ายๆ

และท้าทายการนำของนายจุรินทร์อย่างมาก

ด้วยพฤติกรรมของหัวหน้าทีมอเวนเจอร์ส บานปลายออกไป มิใช่เรื่องเฉพาะบุคคลแล้ว

หากแต่เป็นเงื่อนไขที่หลอมลวงเข้ากระแทกใส่ผู้นำ ใส่พรรค อย่างหนักหน่วง

โดยมี “พลังหญิง” เป็นกระแสบุกทะลวง อย่างที่เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ไม่คาดคิดว่าจะมีพิษร้ายแรงถึงเพียงนี้!!