ในประเทศ : ปิดฉากหมอดูอีที โหรเบื้องหลังการเมืองไทย-เมียนมา แม่น & มั่ว ปี “61 มีเลือกตั้งหรือไม่?

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นความสูญเสียบุคคลแห่งวงการโหราศาสตร์ อย่าง ส่วย ส่วย วิน หรือ เอธิ หมอดูชื่อดังของเมียนมา ด้วยวัย 58 ปี ซึ่งคนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “หมอดูอีที” ผู้เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องความสามารถด้านการทำนายทายทักที่แม่นยำ โดยเฉพาะในเรื่องของการเมือง

เธอเกิดในครอบครัวธรรมดา ไม่ได้พิการแต่กำเนิด ในช่วงอายุ 15 เกิดอาการหูหนวก มือเท้าหงิก และไม่สามารถพูดได้ ร่างกายที่แย่ลงกลับตรงข้ามกับความสามารถดูดวงได้แม่นราวกับตาเห็นที่เพิ่มมากขึ้น โดยสื่อสารผ่านการอ่านปากของมะตีตี้ผู้เป็นน้องสาว ทำให้คนดังทั่วสารทิศ โดยเฉพาะนักการเมือง นักธุรกิจไทย หรือแม้กระทั่งดารา เซเลบริตี้ ต่างก็ไปต่อคิวขอดูดวงกันจนยาวเหยียด

ซึ่งค่าพยากรณ์ของหมอดูอีที จะคิดครั้งละ 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35,000 บาท ใช้เวลาในการดูประมาณ 15-30 นาที โดยเขียนคำถามเป็นภาษาอังกฤษลงในกระดาษ ไม่เกิน 5 คำถาม

ถ้าเป็นคำถามสำคัญก็ได้แค่ 3 คำถามเท่านั้น แต่ใช่ว่าจะได้ดูกันง่ายๆ หากใครที่ดวงไม่สมพงศ์ ต่อให้มีเงินหนาแค่ไหนก็ไม่มีสิทธิได้ดู

ทั้งนี้ คาดว่าหมอดูอีทีมีรายได้จากการดูหมอราว 340 ล้านบาท

ซึ่งที่ผ่านมาเธอได้นำเงินไปสร้างสาธารณประโยชน์ในเมียนมาจำนวนมาก

 

ที่ผ่านมาคำทำนายของหมอดูอีทีได้มีส่วนเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสังคมเมียนมาหลายเรื่อง เช่น ภาพที่นายพลตาน ฉ๋วย นุ่งโสร่งแบบผู้หญิงตามคำแนะนำของหมอดูอีที เพื่อต้านแรงของผู้หญิง ซึ่งก็คือ นางออง ซาน ซูจี หรือการเปลี่ยนเมืองหลวงจากย่างกุ้งเป็นเนปิดอว์

แต่ในแวดวงการเมืองไทยนั้น ว่ากันว่า หมอดูรายนี้เริ่มทำนายทายทักให้กับนักการเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2534 แต่เริ่มมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการทำนายให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

ลือกันขนาดว่า หมอดูอีทีช่วยจัดโผ ครม. แถมยังมีข่าวลือมาด้วยว่า คุณหญิงพจมาน เคยส่งคนไปรับหมดดูอีทีจากเมียนมา ให้ช่วยทำนายดวงชะตากันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเลยทีเดียว

ก่อนการเลือกตั้งในปี 2544 หมอดูอีทีก็เคยทำนายว่า “ทักษิณจะตั้งพรรคใหม่สำเร็จ จะชนะ และเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่ฟ้าไม่ปรานี ต้องจรลีไปต่างถิ่นต่างแดน” อีกทั้งดวงถึงขั้นชะตาขาด แนะนำให้แก้เคล็ดเสริมดวงโดยให้ระวังในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคมปีนั้น มีข่าวจากสื่อหลายสำนักรายงานว่า หมอดูอีทีได้แนะนำให้แก้เคล็ด ด้วยการเดินวนรอบเจดีย์ชเวดากองซ้าย 3 รอบ ขวา 3 รอบ และต่อด้วยพิธีสะเดาะเคราะห์ชุดใหญ่ในถิ่นที่ทุรกันดาร

ว่ากันว่า การจัดทัวร์นกขมิ้นของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณในภาคอีสานและใต้ ก็จัดขึ้นเพื่อการนี้ เอาเข้าจริง ความนิยมในตัวแม้ว ยังคงไม่ลดลง จนกระทั่งเกิดกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าต่อต้าน กระทั่ง 19 กันยายน 2549 ก็เกิดเหตุการณ์รัฐประหารขึ้น!!

แต่ที่ว่าแม่นกันสุดๆ เห็นจะเป็นคำทำนายในช่วงปี 2556 ของอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำเอาขนลุกขนพองเพราะความแม่นยำ ที่ว่า “คนในประเทศจะมีการต่อสู้กันเองทำให้เกิดความสูญเสีย แต่หลังจากผ่านวิกฤตไปได้ ประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น”

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า “ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เรื่อยไปจนถึงเดือนกันยายนและตุลาคม โดยจะใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน สถานการณ์จะเริ่มคงที่ในช่วงปี 2557 โดยตลอดทั้งปีจะเป็นช่วงเปลี่ยนแปลง และในช่วงปี 2558 จะเป็นปีแห่งความหวังใหม่ของประเทศไทยโดยผู้มีอำนาจ และรัฐบาลปัจจุบันจะ “สูญหาย” ไม่เหลือซาก”

แม้ตอนนั้นหมอดูอีทีจะไม่ได้ระบุว่า “สูญหาย” คือ “เสียชีวิต” หรือ “หลบหนี” ไปอยู่ต่างแดน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน คงเป็นสิ่งตอกย้ำได้ดีจากคำถาม ข้อสงสัยของหลายๆ คนที่ว่า “ยิ่งลักษณ์หายไปไหน”

 

การทำนายเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีไม่เพียงแค่คนของตระกูลชินวัตรเท่านั้น เพราะยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีหน้าหล่อ อย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งได้รับคำทำนายเช่นกัน โดยบอกว่า “มาร์คจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งในปี 2016” หลังรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หมดวาระ แต่จนแล้วจนรอด เอาเข้าจริง ปัจจุบัน คสช. ก็ยังอยู่ และการเลือกตั้งก็ยังไม่เกิด เรื่องอย่างนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ หมอดูก็ยังต้องคู่กับหมอเดา

ถึงคำทำนายจะมีไม่ตรงบ้าง แต่ในแวดวงการเมืองไทยก็ยังปรากฏว่ามีนักการเมืองที่เคยใช้บริการหมอดูอีทีจำนวนไม่น้อย ออกมาแสดงความเสียใจต่อความสูญเสีย และยอมรับถึงการทำนายทายทักที่แม่นราวกับตาเห็น อาทิ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่เคยได้รับคำทำนายข้อความ บอกว่า “จะได้เป็น ส.ว.” ซึ่งหลังจากนั้นใน 5 วันก็ได้รับการแต่งตั้ง

เช่นเดียวกับ นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ยอมรับว่า เป็นคำทำนายที่แม่นยำและเคยเดินทางไปให้หมอดูอีทีทำนายถึง 3 ครั้ง ซึ่งสิ่งที่ทำให้เชื่อหมดใจ มาจากคำทำนายที่ว่า “พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบ” ทำให้มั่นใจว่า หมอดูอีทีนั้น มีพลังจิตเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้

ด้านอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อย่าง นายถวิล ไพรสณฑ์ ที่ได้ไปพบหมอดูอีทีเมื่อราวกลางปี 2559 บอกว่าเคยถามเรื่องการเมืองว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด

ซึ่งหมอดูอีทีก็บอกว่า “อีก 2 ปี”

 

นาทีนี้ ยังไม่มีใครทราบว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในปี 2561 อย่างที่หมออีทีบอกไว้หรือไม่ และ “ยิ่งลักษณ์” จะสูญหายไปอย่างที่คำทำนายว่าไว้หรือเปล่า เพราะศาสตร์แห่งการทำนาย ก็ยังเป็นแค่ความเชื่อที่ต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความแม่นยำ

เช่นเดียวกับคำทำนายก่อนหมอดูอีทีจะสิ้นใจ ซึ่งได้พยากรณ์เอาไว้ว่า “จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ และมีสงครามโลก”

ซึ่งก่อนที่หมอดูอีทีจะสิ้นใจที่บ้านพักของตนเองในย่างกุ้ง เธอได้ฝากข้อความสุดท้ายเอาไว้เตือนทุกคนให้อยู่ที่สูงๆ ไว้ น้ำกำลังจะท่วมใหญ่ ใครไม่เชื่อตายอย่างเดียว แถมจะมีสงครามโลก ให้เก็บข้าวสารอาหารแห้งไว้เยอะๆ

ถึงท้ายที่สุดแล้ว แม้ความแม่นจากการทำนายของหมอดูอีทีจะไม่ธรรมดา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตของหมอดูเมียนมาคนนี้ ก็ถือเป็นนักวิเคราะห์ ชี้นำ ทางการเมืองทั้งในเมียนมาและไทยมาตลอด

และเชื่อว่าเธอก็จะยังอยู่ในใจของผู้ที่ศรัทธาตลอดไป