“ผีรัฐบาลแห่งชาติ” ถูกปลุกขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง ผู้ประติมากรรมไอเดียอันกิ๊บเก๋ ณ คาบนี้ มีนามว่า “พิชัย รัตตกุล” อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้อาวุโสที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพแห่งเวทีการเมืองของไทยคนหนึ่ง

“นายพิชัย” หยิบเหตุและปัจจัยถึงที่ไปและที่มาของ “รัฐบาลแห่งชาติ” โดยเท้าความว่า รัฐบาลทหารพูดตอนยึดอำนาจปี 2557 ว่าจะมีเลือกตั้งในปลายปี 2560 จากนั้นก็เลื่อนเป็นปลายปี 2561 แต่วันนี้เชื่อว่า “จะไม่มีเลือกตั้งตามโรดแม็ปแน่นอน เพราะกฎหมายลูกคลอดยากเหลือเกิน”

“บ้านเมือง” ไม่ใช่ “หนองน้ำ” หรือ “บึงใหญ่” ที่มีทางน้ำออก มีทางน้ำเข้า เมื่อปิดทางน้ำเข้า หากฝนไม่ตกลงมาตามที่ควร “หนอง-บึง” ย่อมเกิดความเหือดแห้ง

ด้วยประการฉะนี้แล “เสี่ยหมากหอม” จึงชี้ทางสว่างว่า ยังมีอีกหนึ่งทางเลือก ที่ดูยากหน่อย คือการมีรัฐบาลต่อไปที่สวยงาม

“โลกสวย” โดยพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ร่วมกับทหาร ตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” พรรคการเมืองไม่ต้องเป็นศัตรูกับทหาร มานั่งทำงานร่วมกันปรองดองเพื่อชาติ ไม่ใช่การซูเอี๋ย

เจ้าของวรรควลีเด็ดในอดีต “ข้อมูลใหม่-สินค้าแบกะดิน” โฟกัสว่าด้วยประการดังกล่าว “คนที่จะริเริ่มทำเรื่องนี้ได้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยพรรณนาว่า ถ้ารู้จักกับนายกฯ ตู่เป็นการส่วนตัว จะไปนั่งคุยบอกแบบนี้ แต่หากจะตั้งรัฐบาลให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หรือทหารตั้งรัฐบาลฝ่ายเดียวหลังการเลือกตั้ง ไม่มีทางปรองดอง หรือทำให้เศรษฐกิจไปรอด โมเดลที่ว่านี้ จะทำให้เศรษฐกิจแล่นฉิวไปรอด ต่างชาติเชื่อมั่นจากการผนึกกำลังร่วมกัน ไปลิ่วฉิวเลย แม้มันดูจะยากหน่อย แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำจริงก็ทำได้

ปรากฏว่าไอเดียอันวิลิศมาหราของ “ปู่พิชัย” มุขแป้ก ไม่มีขบวนการขานรับสักเท่าไหร่ กลับมีเสียงค้านกันเสียมากกว่า ทั้งนักวิชาการ กูรู ขณะที่แวดวงคนการเมือง ตั้งแต่หัวหน้าพรรคยันลูกหาบ

ประชาธิปัตย์กลัวผีทักษิณอำยังไม่หาย ขวางหัวชนกำแพงว่า “ตราบใดที่ระบบทักษิณยังครอบงำพรรคเพื่อไทย คนในพรรคเพื่อไทยยังฟังระบบทักษิณ เข้ามาทำแนวเดิม เยี่ยงจำนำข้าว แก้กฎหมายนิรโทษกรรม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับพรรคนี้ ชั่วฟ้าดินสลาย ตายกันไปข้าง”

ขณะที่ “เพื่อไทย” แม้ไม่ได้ระบุว่า “เพื่อนเลว” แต่พากันตบเท้าออกมาปฏิเสธเสียงขรมเช่นเดียวกัน อ้างว่า 3 ปีที่ยืนอยู่ใต้ร่มเงาระบบการเมืองการปกครองที่ไม่ปกติ “ยุคท็อปบู๊ต” ครองเมือง ส่งผลให้ประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นจากนานาชาติ

กอปรกับชั่วโมงนี้ไทม์ไลน์ว่าด้วยโหมดเลือกตั้งกำหนดไว้ชัดเจนแล้วในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แม้ว่าขั้นตอนของกฎหมายลูก ยืดออกไปได้ดุจหนังสติ๊ก เต็มที่ก็หนีไม่พ้นปลายปี 2561 ใครพูดเหนือจากนี้ ถือว่ามีวาระซ่อนเร้น

ดังนั้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้ง “อำนาจอื่น” จะมากำหนดไม่ให้อยู่ในกติกาอีกต่อไปไม่ได้

 

“รัฐบาลแห่งชาติ” เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ มาทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองชั่วคราว เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ “รัฐบาลแห่งชาติ” ต้องสลายตัวไป จะเป็นรัฐบาลด้วยระบบอะไรก็ได้

หมายถึง เป็นรัฐบาลที่ตั้งขึ้นโดยสมาชิกของพรรคการเมืองทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่มีฝ่ายค้าน ไม่มีฝ่ายรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีการท้วงติง เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จะหลังรัฐประหาร ก่อนเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของใคร เป็นของระบอบเผด็จการก็ได้ เป็นของระบอบประชาธิปไตยก็ได้ เป็นได้ “ทุกรูปแบบ”

ข้อเสนอว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ” ในประเทศไทยเกิดขึ้นมาแล้วหลายยุคหลายสมัย ดูดี แต่ทำไม่ได้ และไม่เคยประสบผลสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม การออกมาขว้างก้อนหินถามทางว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ” ของ “พิชัย รัตตกุล” ก็มิได้หมายความว่า เป็นเรื่องที่เลื่อนลอย เลอะๆ เลือนๆ ไปเสียเลยทีเดียว

มีพื้นฐานแห่งความเป็นจริงอยู่มากมายหลายปมเงื่อน เป็นต้นว่า โรดแม็ปว่าด้วยการเลือกตั้ง แม้จะมีลายแทงจากรัฐธรรมนูญที่จะไปมีจุดตกลงในปี 2561 เป็นอย่างช้า ชักจะมีความไม่แน่นอน อาจต้องเลื่อนโปรแกรมออกไป

เหนือสิ่งอื่นใด รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ช่วงเวลานี้ “งานงอก” มีเรื่องราว ตกเป็นข่าว “เชิงลบ” ทับซ้อนกันหลายกระบอก

“บิ๊กตู่” แม้วาทศิลป์ต่อสาธารณะจะระดับนกแก้ว นกขุนทองขูดลิ้น

แต่กับ “พี่-พี่-เพื่อนร่วมงาน” มิต่างอะไรกับ “คนโดนของ” ไม่ค่อยคมคาย กล้าวีน เงียบเป็นป่าช้าเรไร

เรื่องของเรื่องคือว่า คณะรัฐมนตรี “ตู่ 4-ตู่ 5” หลายคนเหนียงยาน ผลงานโหลยโท่ย ไม่ค่อยเป็นสับปะรดขลุ่ย ตกที่นั่งตำบลกระสุนตก มีเสียงสะท้อนเสียๆ หายๆ รายวัน

“บิ๊กตู่” อยากจะยกเครื่องคณะรัฐมนตรี จูนโมเมนตัมใหม่ เชิญคนนอกที่มีความรู้ความสามารถ “เฉพาะทาง” มาร่วมวงไพบูลย์ กึ่งๆ “รัฐบาลแห่งชาติ” วางตัวไว้ในใจแล้วหลายคน หมายลากยาว

แต่กลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บอกไม่ถูก เพราะเป็นคนขี้เกรงใจพี่ๆ และเพื่อนร่วมงาน

ตีนตุ๊กแก สวมบทไอ้ห้อย ไอ้โหน กันแบบไม่รู้สีรู้สา ไผเป็นไผ คงรู้แจ้งแทงทะลุกันดี