ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้านั้นเริ่มใกล้เข้ามาทุกขณะ

ข่าวคราวการโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของรัฐบาลกัมพูชา นำโดย สมเด็จO ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผู้ครองอำนาจยาวนาน 32 ปี ก็เข้มข้นขึ้นเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) นำโดย “นายเข็ม โสกา” หัวหน้าพรรค สามารถสร้างคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นในระดับ 49 เปอร์เซ็นต์

แม้จะยังน้อยกว่าพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) พรรครัฐบาลที่ได้คะแนนเสียง 51 เปอร์เซ็นต์

แต่นับเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้เห็นถึงแนวโน้มคะแนนนิยมของพรรคซีเอ็นอาร์พีที่เพิ่มสูงขึ้นและเริ่มสั่นคลอนอำนาจของซีพีพี

นั่นส่งผลให้ฝายตรงข้ามทางการเมืองกับนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน รวมไปถึงองค์กรเอ็นจีโอ และสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ต้องเผชิญกับคดีความและการข่มขู่คุกคามก่อนหน้าการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

“เข็ม โสกา” นักการเมืองวัย 64 ปี จึงตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการขจัดอุปสรรคทางการเมือง

แถลงการณ์ของศาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า เข็ม โสกา นักการเมืองประสบการณ์สูงของพรรคฝ่ายค้านผู้ที่ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พีอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นถูกตั้งข้อหาสมคบคิดกับต่างชาติ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1993 และพบว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อหากบฏและจารกรรม ที่มีโทษจำคุกสูงสุด 30 ปี

เข็ม โสกา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยคนบุกจับกุมที่บ้านพักในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา

ด้าน สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี อ้างหลักฐานคลิปวิดีโอการปราศรัยของ เข็ม โสกา ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2013 ที่นักการเมืองฝ่ายค้านผู้นี้ระบุว่าได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาในการสร้างกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในกัมพูชา

คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์เฟรชนิวส์ เว็บไซต์สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาหลังการจับกุมไม่กี่ชั่วโมง

 

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริการะบุถึงการจับกุมดังกล่าวว่าเป็นการจับกุมที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ด้าน ซาอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่ามีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อการจับกุมดังกล่าว ซึ่งทำโดยไม่มีความเคารพต่อสิทธิตามขั้นตอน ซึ่งรวมไปถึงการเคารพต่อเอกสิทธิ์ทางการเมืองในฐานะสมาชิกรัฐสภา

ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนอย่าง “ฮิวแมน ไรท์ วอทช์” เรียกร้องให้ปล่อยตัว นายเข็ม โสกา ทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข

เข็ม โสกา ก้าวขึ้นสู่หัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พี แทนที่ นายสม รังสี ที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังต้องเผชิญกับคดีความจำนวนมากและส่งผลให้พรรคซีเอ็นอาร์พีอาจต้องถูกแบนจากวงการการเมือง

ปัจจุบัน นายสม รังสี อาศัยในประเทศฝรั่งเศสเพื่อหนีคดี ซึ่งอดีตหัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พีระบุว่ามีขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมือง

เข็ม โสกา เกิดในครอบครัวยากจนในจังหวัดตาแกว เมื่อปี 1953 หลังจบการศึกษาระดับมัธยม เข็ม โสกา เดินทางสู่กรุงพนมเปญ เพื่อศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยภูมินทร์นิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ในปี 1973 ก่อนที่สองปีต่อมา เข็ม โสกา จะต้องเสียสมาชิกครอบครัวไปจากการปกครองของกลุ่มเขมรแดง

หลังเรียนจบ หนุ่มจากจังหวัดตาแกว ได้งานราชการ เป็นปลัดอำเภอในกรุงพนมเปญ ช่วงเวลาที่กัมพูชาอยู่ภายใต้การยึดครองของเวียดนาม

ทว่า ด้วยความที่ไม่พอใจกับการปกครองของรัฐบาล เข็ม โสกา ได้เริ่มต้นสนับสนุนกลุ่ม “กองทัพเสรีชาติกัมพูชา” (ซีเอฟเอฟ) ขบวนการต่อต้านคอมมิวนิสต์เวียดนามอย่างลับๆ

ผลจากการสนับสนุนกลุ่มซีเอฟเอฟ ส่งผลให้ เข็ม โสกา ถูกรัฐบาลขับออกจากราชการก่อนจะได้ทุนศึกษาต่อปริญญาโทด้านชีวเคมี ที่สถาบันเทคโนโลยีเคมี ในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

หลังเรียนจบ เข็ม โสกา กลับสู่บ้านเกิดและเข้าสู่วงการการเมืองได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 1993 และวุฒิสภาในปี 1999 ก่อนจะก่อตั้ง “พรรคสิทธิมนุษยชน” ขึ้นในปี 2007 โดยพรรคได้ครองเก้าอี้ในสภาเป็นครั้งแรก 3 ที่นั่งเมื่อปี 2008

ก่อนที่พรรคสิทธิมนุษยชนจะควบรวมกับพรรคซีเอ็นอาร์พี ของ นายสม รังสี เมื่อปี 2012

 

เข็ม โสกา ผู้ที่ได้รับตำแหน่งรองประธานสภาอาวุโสคนแรกที่มาจากพรรคฝ่ายค้านช่วงเวลาสั้นๆ และขึ้นเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยในรัฐสภา ก่อนที่ตำแหน่งดังกล่าวจะถูกยุบเลิกไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับประชาชน มักลงพื้นที่เพื่อจัดการเสวนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิทางการเมือง สิทธิพลเมือง รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับหมู่บ้าน

เข็ม โสกา ผู้ที่มีคำขวัญติดปากอย่าง “เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน” ซึ่งกลายเป็นคำขวัญของพรรคซีเอ็นอาร์พี และดึงกลุ่มเยาวชนเข้ามีส่วนร่วมได้เป็นจำนวนมาก เวลานี้กลับต้องสูญสิ้นอิสรภาพจากการทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่เข้มข้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม เข็ม โสกา ยังคงหวังว่าเสรีภาพในประเทศบ้านเกิดจะไม่สูญสิ้นไปด้วย

“ผมอาจสูญสิ้นอิสรภาพ แต่เสรีภาพในกัมพูชาจะไม่มีวันตาย” เข็ม โสกา ทวีตเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา