ปรากฎการณ์”น้องมิลลิ”ฉายภาพการผงาดขึ้นของซอฟท์ พาวเวอร์ในท่ามกลางความเสื่อมทรุดของวัฒนธรรมและความคิดเก่าเด่นชัดขึ้นเพียงใด

ปรากฏการณ์”แรมโบ้ เสกสกล” เมื่อประสานเข้ากับปรากฎการณ์ “ปริญญ์ ประชาธิปัตย์”ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติม

ตอกย้ำซ้ำเติมถึงลักษณ์แห่งการเมือง”เก่า”ที่”เน่าเฟะ”

บทบาทของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เมื่อย้อนรำลึกต้งแต่บท เพลง”กตัญญูทักษิณ”ดังก้องกังวาน กระทั่งเมื่อยื่นใบลาออกจากตำ แหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเด่นชัดเพียงใด

การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตั้งแต่คดี ความในอังกฤษมาถึงสาววัย 18 ที่ห้องอาหารย่านสุขุมวิท ยิ่งทะลวง ลึกลงไปภายในสภาพความเป็นไปของพรรคประชาธิปัตย์

ไม่เพียงแต่จะศึกษาจากแต่ละข้อความของ นายบุญยอด สุข

ถิ่นไทย หากยิ่งอ่านแต่ละบรรทัดที่ปรากฏใน”ไลน์กลุ่ม”ของ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ยิ่งกระจ่างสว่างใสในดวงกมล

ความอื้อฉาวของปรากฏการณ์”ปริญญ์” น่าตระหนกอยู่แล้ว วิถีและความเป็นไปในแบบ”ประชาธิปัตย์”ยิ่งต้องเอามือลูบอก

 

อย่าได้แปลกใจหากติดตามในแต่ละถ้อยคำของผู้มีส่วนในการก่อเหตุและสร้างสถานการณ์ ไม่ว่าจะมองเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ไม่ ว่าจะมองเข้าไปในพรรคประชาธิปัตย์

อย่าได้แปลกใจหาก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ จะระบุว่ามีผู้กลั่น แกล้งบ่อนทำลายในกรณีของการเผยแพร่คลิปลับ

อย่าได้แปลกใจหาก จะมีเสียงร่ำลือดังก้องมาจากภายในพรรค ประชาธิปัตย์ว่า แต่ละความอื้อฉาวมีคนของพรรคก้าวไกลเข้าไปมีบทบาทในการทำให้เกิดขึ้น

นิ้วอันออกมาจาก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ นิ้วอันออกมาจาก

พรรคประชาธิปัตย์เป็นการชี้ออกไป”ภายนอก”ไปยัง”คนอื่น”

 

หากมองจากรากฐานของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เปรียบเทียบกับรากฐานของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ คนหนึ่งเป็นลูกชาวบ้าน คนหนึ่งเป็นลูกของคนดังระดับผู้บริหารองค์กรระดับโลก

แต่เมื่อเผชิญกับชะตากรรมในทางการเมืองก็ไม่แตกต่างกัน

ยิ่งหากมองลึกลงไปในทำเนียบรัฐบาล ยิ่งมองลึกลงไปในพรรค ประชาธิปัตย์ ยิ่งมองเห็นลักษณะรักตัวกลัวความล้มเหลว

จึงเปี่ยมด้วยความพร้อมที่จะโยน”นรก”ไปให้กับ”คนอื่น”