รัฐบาลทหารเมียนมา กับทารุณกรรมหมู่ที่อินเส่ง/เทศมองไทย

เทศมองไทย

 

รัฐบาลทหารเมียนมา

กับทารุณกรรมหมู่ที่อินเส่ง

 

เรือนจำอินเส่ง น่าจะเป็นเรือนจำเดียวในประเทศเมียนมาที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก

ทุกครั้งที่สถานการณ์ทางการเมืองที่นั่นพลิกผันไปในทางเลวร้าย ภาวะสิทธิมนุษยชนเสื่อมโทรม ชื่อ อินเส่ง จะปรากฏควบคู่ไปกับรายงานข่าวเชิงลบว่าด้วยพฤติกรรมอำมหิต โหดเหี้ยมจากทางการต่อบรรดา “นักโทษการเมือง” ทั้งหลายทั้งปวง

เมื่อ 8 เมษายนที่ผ่านมา ชื่อ อินเส่ง กลายเป็นข่าวฉาวไปทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอภาพสเกตช์ชุดหนึ่ง กับคำให้สัมภาษณ์ของอดีตนักโทษการเมืองที่เคยถูกคุมขังอยู่ที่นั่น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า สภาพของอินเส่งในยามนี้ ยังคงเลวร้ายและอำมหิตไม่มีเปลี่ยนแปลง

ที่เคยเป็นมาอย่างไร ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ไม่เสื่อมคลาย

 

อินเส่ง สร้างขึ้นไว้ในนครย่างกุ้ง โดยเจ้าอาณานิคมอังกฤษ เมื่อปี 1871 หรือเมื่อ 151 ปีมาแล้ว ถือเป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมา ทั้งในเวลานั้นเรื่อยมาจนถึงในปัจจุบันนี้ สามารถรองรับการจำขังนักโทษได้มากถึง 5,000 คน

นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารโดยคณะนายทหารที่นำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน นำประเทศกลับสู่ระบอบการปกครองเบ็ดเสร็จของรัฐบาลทหารเมื่อต้นปีที่แล้ว จำนวนนักโทษในเรือนจำแห่งนี้เพิ่มมากขึ้นไม่หยุดหย่อน

ตามข้อมูลของสมาคมเพื่อให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ระบุว่า จำนวนผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ในอินเส่งในเวลานี้ มีไม่น้อยกว่า 10,000 คน

สภาพที่แออัดยัดทะนานย่อมเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

ภาพสเกตช์ด้วยปากกาหมึกแห้งสีน้ำเงิน จำนวน 14 ภาพ ที่อดีตนักโทษในเรือนจำอินเส่งอย่าง นี นี ทเว นำออกมาเปิดเผย ยืนยันถึงสภาพที่ว่าได้อย่างชัดเจน

นี นี ทเว อายุ 24 ปี ถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้วด้วยข้อหา สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศชาติด้วยความเท็จ ข้อหายอดนิยมสำหรับใครก็ตามที่เข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร เขาถูกปล่อยตัวเป็นอิสระเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ขณะนี้ร่วมเป็นหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธเพื่อต่อต้านการรัฐประหารครั้งนี้

นี นี ทเว บอกว่า ภาพทั้ง 14 ภาพ เป็นฝีมือสเกตช์ของเพื่อนผู้ต้องขังรายหนึ่ง ซึ่งยินดีสเกตช์ภาพให้กับผู้ต้องขังอื่นๆ ตามคำร้องขอ และมักสเกตช์ภาพการใช้ชีวิตภายในเรือนจำแห่งนี้ไว้ในทุกที่ที่เขาไป เหตุผลก็คือ การวาด ทำให้เขาผ่อนคลาย หลุดพ้นจากสภาพและสถานการณ์แวดล้อมได้ชั่วขณะ

เขามอบภาพสเกตช์ 14 ภาพ ให้กับนี นี ทเว เพื่อเป็น “ของขวัญวันเกิด”

นี นี ทเว ลอบนำภาพเหล่านี้ติดตัวออกมาด้วยเมื่อได้รับอิสรภาพ สำหรับใช้เป็นเครื่องประกอบคำบอกเล่า เมื่อถูกสอบถามจากเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนอื่นๆ ว่า สภาพการใช้ชีวิตในอินเส่งเป็นอย่างไร

ภาพทั้ง 14 ภาพ เขียนขึ้นระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เป็นภาพนักโทษชาย มีทั้งที่กำลังเข้าคิวรออาบน้ำ, กำลังพูดคุยหรือนอนอยู่บนพื้นเรือนนอนชนิดหลังชนหลัง เข่าชนเข่า ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวอันเป็นธรรมชาติของเมืองร้อน

 

คําให้สัมภาษณ์ของนักโทษการเมืองที่อินเส่ง ซึ่งเพิ่งได้รับอิสรภาพมาไม่นานอีก 8 คน ช่วยสะท้อนภาพการใช้ชีวิตที่นั่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ทุกคนบอกตรงกันว่าเรือนนอนของเรือนจำอินเส่ง นอกจากจะแออัดยังสกปรกเต็มไปด้วยหนู ความสะดวกสบายแบบจำกัดจำเขี่ย หาซื้อได้ด้วยการติดสินบนผู้คุม แต่นักโทษส่วนใหญ่ไม่มี ทุกคนต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้มีที่นอนบนพื้น ผู้ต้องขังจำนวนมากล้มป่วย และไม่มีการดูแลรักษา

นี นี ทเว บอกว่า เขาอยู่ร่วมห้องขังกับนักโทษรายอื่นๆ อีกกว่า 100 คนในห้องซึ่งแออัดชนิดต้องนอนชิดติดกัน มีช่องว่างได้ไม่เกินเอานิ้วนิ้วหนึ่งลอดลงไปได้

“หนูวิ่งไปมาเป็นครั้งคราวทั่วห้อง ส้วมเหม็นหึ่ง อาหารมีแมลงวันปนมาด้วยเป็นปกติ ใครก็ตามที่ไม่มีเงินติดสินบน ก็ต้องนอนเฝ้าถังอุจจาระ” แซนดาร์ วิน อดีตนักโทษวัย 42 ปีบอก

ไม่น่าแปลกใจที่นักโทษมักเป็นโรคผิวหนังและโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารกันแทบถ้วนทั่ว

ภาพนักโทษถูกผู้คุมทุบตีด้วยกระบอง เห็นกันจนเจนตา บ่อยครั้งที่รุนแรงถึงขั้นสลบเหมือด แล้วก็ไม่มีใครไยดีดูแลรักษา

เช่นเดียวกับผู้ต้องขังที่มีอาการเส้นเลือดแตกในสมองจนถึงกับเป็นอัมพาต ก็ถูกทิ้งเอาไว้อย่างนั้น

โควิด-19 ระบาดอย่างหนักในอินเส่ง นี นี ทเว บอกว่า เกือบ 2 ใน 3 ของนักโทษในเรือนนอนที่เขาอยู่ด้วย แสดงอาการป่วยโควิดชัดเจนในช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว ไข้สูง ไอโขลกๆ อ่อนล้า ข้อมูลของเอเอพีพีชี้ว่า มีนักโทษอย่างน้อย 10 รายตายเพราะโควิดในอินเส่ง

“ผมโชคดีมากแล้วที่ไม่ถึงกับตายที่นั่น” นี นี ทเว บอกกับรอยเตอร์

“เมื่อมาอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ พวกเราก็ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป” เขาย้ำไว้อย่างนั้น