แคล้วคลาด / ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

แคล้วคลาด

 

ช่วงนี้ผมเชื่อทุกคนคงเหมือนกัน

คือ วงรอบของคนที่ติดโควิดเริ่มใกล้ตัวเราเรื่อยๆ

จากเดิมที่เป็นเพื่อนของเพื่อน

วันนี้ไม่ใช่แค่เพื่อน

แต่เป็นญาติพี่น้อง หรือคนในครอบครัว

ใกล้ยิ่งกว่าใกล้

พี่ชายผมก็ติดโควิดเรียบร้อยทั้งครอบครัว

หลานสาวลูกของน้องชายก็ติดโควิด

สถานการณ์ตอนนี้ เจ้าโควิดมาใกล้ระดับสบตากันแล้ว

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ผมกลับไปจันท์ไปดูสวนผลไม้ เพราะใกล้เวลาตัดทุเรียนเก็บมังคุดแล้ว

นัด “เก่ง” น้องชายที่เป็นลูกของอาเจอกันที่สวน

คุยกันได้พักหนึ่ง เขาลืมของก็เลยขอแวบกลับบ้านที่เขาไร่ยาแป๊บนึง

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง “เก่ง” โทรมาหา

เขารู้สึกไม่ค่อยสบายตั้งแต่เช้าแล้ว พอถึงบ้านก็เลยเอา ATK แบบแหย่จมูกมาตรวจ

“เป็นไง”

“ 2 ขีดครับ “

เฮ้ย…กระชั้นชิดแบบนี้เลยเหรอ

“เก่ง” ยังมีน้ำใจขับรถเอาของมาให้ที่สวน

ผมเอา ATK แบบตรวจน้ำลายที่อยู่ในรถมาให้น้องตรวจซ้ำอีกที

เผื่อครั้งแรกจะพลาด

ปรากฏว่าไม่พลาดครับ

แม่นเป๊ะเลย

2 ขีดเหมือนกัน

แม้จะบอกตัวเองว่าคงไม่เป็นไร เพราะคุยกันในสวน อากาศถ่ายเทสะดวก

ลมพัดเย็นสบาย

เชื้อโควิดคงกระจายไปกับสายลม

กลับมา กทม. พักเก็บตัวอยู่ 5 วัน

อัดยาฟ้าทะลายโจรทุกวัน แม้คุณหมอจะบอกว่าฟ้าทะลายโจรป้องกันไม่ได้

ต้องติดก่อนจึงจะรักษาได้

แม้จะเข้าใจเหตุผล แต่ตอนนี้ “ฟ้าทะลายโจร” กลายเป็น “ของขลัง”

เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

เผื่อเจ้าโอมิครอนเพิ่งโผล่หัวขึ้นมา ATK ยังตรวจยังไม่พบ

ฟ้าทะลายโจรที่กินไปจะได้จัดการมันก่อน

ครบ 5 วัน

…รอดครับ

 

พอรอดปั๊บก็มีภารกิจต้องไปงานเลี้ยง

เป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน

ทุกคนที่เข้างานจะต้องตรวจ ATK ก่อน

มีน้องคนหนึ่งเป็นแฟนหนังสือ พาลูกและภรรยามาร่วมงานด้วย

เขานั่งติดกับผม เราคุยกันอย่างสนุกสนาน

ประมาณ 2 ชั่วโมง

วันรุ่งขึ้น ภรรยาของเขาโทรมาบอกทีมงานว่าน้องคนที่นั่งติดกับผม ตรวจ ATK ตอนเช้า

2 ขีดครับ

น้องส่งข้อความมาขอโทษผมด้วย เพราะนั่งติดกันเลย กลัวจะแพร่เชื้อให้ผม

ผมบอกว่าไม่เป็นไรเลย เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ

น้องไม่ได้อยากเป็นโควิด

ตัวเขาไม่รู้ และไม่ได้ตั้งใจแกล้งผม

ทุกอย่างเป็นเรื่องโชคชะตา

ครับ ผมกลับมาเริ่มต้นกิน “ฟ้าทะลายโจร” อีกครั้งหนึ่ง

ครั้งนี้ออกไปซื้อยาทุกอย่างเตรียมพร้อม

กะว่าครั้งนี้คงติดโควิดแน่ๆ

ผมเฝ้าดูอาการตัวเอง

เป็นไข้ไหม

เจ็บคอไหม ฯลฯ

ปรากฏว่าไม่เป็นอะไรเลย

…รอดครับ

 

เว้น “ฟ้าทะลายโจร” ได้ 1 วัน ผมก็มีงานเลี้ยงตอนกลางคืนอีก

เหมือนเดิมครับ

ทุกคนตรวจ ATK เรียบร้อยก่อนเข้างาน

งานสนุกมากครับ

ยิ่งดึก บรรยากาศยิ่งสนุก

แต่ผมเป็นคนดื่มน้อย และดื่มอย่างระมัดระวัง

ในชีวิตไม่เคยเมาเลยครับ

เพราะเป็นคนไม่ชอบอาการตัวเองตอนเมา

พอเริ่มคิดช้า พูดช้า มึนๆ

ผมก็ซัดแต่น้ำเปล่าเลย

ใครจะแซวยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจ

“น้ำเปล่า” อย่างเดียว

จนอาการเริ่มดีขึ้นจึงเริ่มดื่มต่อแบบจิบๆ

คืนนั้น ต่อให้บรรยากาศสนุกแค่ไหน แต่ผมก็ไม่เมา

มีน้องหลายคนเข้ามาชนแก้ว

พอได้ที่ก็กอดคอผมคุยแบบเมามัน

เสียงดนตรียิ่งดัง ก็ยิ่งเปล่งเสียงสู้

มีอยู่คนหนึ่ง สู้กับเสียงดนตรีอย่างเต็มที่

ลมจากปากของเขาผ่านจมูกของผมแบบรู้สึกได้

คิดในใจว่าถ้าน้องคนนี้ติด

ผมไม่รอดแน่

ผ่านคืนนั้นได้ 2 วัน

น้องคนนั้นติดโควิดครับ

ผมกลับมาเริ่มต้นนับ 1 ใหม่

…ฟ้าทะลายโจร

เฝ้าดูอาการอย่างละเอียด

ตรวจ ATK ทุกวัน

ครบ 5 วัน

…รอดครับ

แม้จะผ่านวิกฤติมา 3 ครั้ง แบบไม่น่ารอด

แต่ผมคิดว่าเทศกาล “โอมิครอน” ครั้งนี้ ไม่น่าจะรอด

มันใกล้ตัวเหลือเกิน

ไม่ได้กลัว

แฮ่ม..แต่ไม่จำเป็นก็ไม่อยากเป็น

น้องๆที่รู้เรื่องการแคล้วคลาดของผมบอกว่าน่าจะเข้าพิธีปลุกเสกเหรียญได้แล้ว

ตั้งชื่อง่ายๆ เหรียญ “หลวงพ่อตุ้ม”

“จะใช้ชื่อรุ่นว่าอะไรดี” น้องถาม

“แฮตทริก” ผมบอก

เพราะแคล้วคลาดโควิดมาแล้ว 3 ครั้ง

เหรียญนี้จะเป็นรูปผมชู 3 นิ้ว

แต่ไม่ชู 3 นิ้วแบบกลุ่มราษฎร หรือแบบ I LOVE YOU

แต่จะชูแบบ OK

นิ้วโป้งติดกับนิ้วชี้เป็นรูปตัวโอ

ย่อมาจาก “โอมิครอน”

ส่วน 3 นิ้ว คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

สวดมนต์ภาวนาขอให้รอด

จงพึ่งตัวเอง

อย่าพึ่งหลวงพ่อเลย •