‘ชิลชิล’ กับ ‘โตโยต้า VELOZ’ 7 ที่นั่งขับสบาย-เด่นที่ช่วงล่าง / ยานยนต์ สุดสัปดาห์ : สันติ จิรพรพนิต

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

‘ชิลชิล’ กับ ‘โตโยต้า VELOZ’

7 ที่นั่งขับสบาย-เด่นที่ช่วงล่าง

 

ประสบความสำเร็จอย่างสูงงาน “มอเตอร์โชว์” 2022 กวาดยอดจอง 33,936 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 31,896 คัน จักรยานยนต์ 2,040 คัน เพิ่มขึ้น 13.6% จากปีที่ผ่านมา

ต้องถือว่าไม่ธรรมดาท่ามกลางสถานการณ์โควิด ที่ยังมีผู้ติดเชื้อสูงระดับหมื่นคนต่อวัน

ที่น่าสนใจไม่พ้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรืออีวี ที่มีส่วนแบ่งในงานสูงถึง 10% หรือราวๆ 3 พันคัน

ส่วนภาพรวม “โตโยต้า” ครองความเป็นเต้ยตามเดิม กวาดยอดจองสูงสุด 5,128 คัน

ตามมาด้วยฮอนด้า 3,019 คัน, มาสด้า 2,906 คัน, อีซูซุ 2,594 คัน และมิตซูบิชิ 2,553 คัน

“โตโยต้า เวลอซ” (VELOZ) มินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง เป็นแชมป์ของค่ายซัดไปกว่า 900 คัน

ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมมีโอกาสทดสอบ “เวลอซ” ในช่วงจัดงานพอดี และมีคิวเขียนลง “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” อย่างเหมาะเหม็ง

เราไปดูกันว่าการขับขี่รถมินิเอ็มพีวี รุ่นนี้ เป็นอย่างไร จุดเด่นมากน้อยขนาดไหน ทำไมถึงกลายเป็นแชมป์ยอดจองของ “โตโยต้า” ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งล่าสุดนี้

รวมถึงเป็นการยืนยันกระแสรถครอบครัวของเมืองไทย ยังมาแรงต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี

“เวลอซ” เป็นรถครัวครัว 7 ที่นั่ง พร้อมประกาศว่าใช้งานได้จริงทุกที่นั่ง จากที่ผมเข้าไปลองนั่งแถว 3 บอกเลยว่านั่งได้จริงแม้เป็นผู้ใหญ่ ส่วนถ้าเป็นเด็กยิ่งสบายเข้าไปอีก

เบาะแถวสุดท้ายจะยกสูงกว่าเบาะแถว 2 เล็กน้อยทำให้ดูไม่อึดอัด สามารถมองไปด้านหน้าได้โล่งๆ แถมพนักสามารถปรับได้อีก 1 สเต็ป ทำให้เอนหลังได้ดีขึ้น

ส่วนที่นั่งแถว 2 หากปรับถอยหลังมาสุดอาจลำบากกับคนแถว 3 ได้ ต้องขยับไปอยู่กลางๆ ซึ่งที่นั่งแถว 2 ก็นั่งได้สบายอยู่แล้ว

แต่ถ้าไม่มีผู้นั่งแถว 3 แล้วขยับเบาะแถว 2 ถอยหลังจนสุด จะเพิ่มพื้นที่วางเท้าสบายยิ่งขึ้น

ส่วนถ้าผู้โดยสารอยากสบายกว่านั้นให้พับพนักแถว 2 ลง สามารถปรับได้ระนาบ แล้วไปนั่งแถว 3 เพื่อยืดขาได้สุดๆ พาดไปกับพนักของเบาะแถว 2

ช่องใส่ของ ใส่แก้ว ทุกที่นั่งรวม 15 จุด

ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ มีให้ครบทุกแถว แต่อาจต้องแบ่งๆ กันใช้สักหน่อย

ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V ช่องต่อ USB 2 ช่อง สาหรับผู้โดยสารแถว 2

เรื่องความเย็นไม่ต้องห่วงเพราะเจาะช่องแอร์บนเพดานมาให้ด้วย

ภาพรวมแล้วการนั่งของผู้โดยสารค่อนข้างสะดวก

จะมีตรงแถว 2 ของที่นั่งตรงกลางอาจคับแคบไปสักนิด ถ้าให้เหมาะนั่งแค่ 2 คนจะสบายกว่าหากต้องเดินทางไกล

อีกจุดเด่นคือกระจกประตูแถว 2 ทำมาให้กว้างดี มองวิวได้เต็มตา

แม้ภายในจะใช้สีโทนดำแต่ดูไม่อึดอัด

ส่วนเบาะคนขับนั่งแถวกระชับลำตัวได้ดี แต่ที่นั่งค่อนข้างสูงแต่มีข้อดีตรงที่ได้ทัศนวิสัยมากขึ้น

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นจับกระชับมือดี

มาตรวัดแบบเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว มีดีไซน์ให้เลือก 4 แบบ

เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto และ Bluetooth

ระบบแอร์ออโต้ แบบดิจิตอล

คันเกียร์ขนาดกระชับมือ ปรับเป็นแบบแมน่วลได้ด้วย

มีปุ่มสตาร์ต/สต็อป เบรกมือไฟฟ้า และออโต้เบรกโฮล ใกล้กันเป็นแท่นชาร์จไร้สาย

ทำให้ต้องย้ายที่วางแก้วของผู้ขับขี่ไปอยู่บริเวณช่องแอร์ด้านขวาสุด

กดปุ่มสตาร์ตเสียงเครื่องยนต์คำรามเข้ามาพอได้ยิน

ขุมกำลังเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Dual VVT-i 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิด 138 นิวตัน-เมตร

ทำงานควบคู่กับอัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift

การขับขี่มี 4 โหมดหลักๆ ให้เลือกคืออีโค นอร์มอล สปอร์ต และสปอร์ต+อีโค

อีโค อัตราเร่งอืดอาดเกินไปนิดหนึ่ง หากเป็นช่วงรถติดๆ ไหลตามกันไป จะใช้โหมดนี้พอไหวอยู่

สปอร์ต และสปอร์ต+อีโค ทำได้กระชับดีที่สุด แต่เสียงเครื่องยนต์เวลากดหนักๆ เอาเรื่องอยู่ แถมยังเปลืองน้ำมันด้วย

“นอร์มอล” กลางๆ เพราะไม่ถึงกับอืด แต่ก็ไม่ปรู๊ดปร๊าดมากนัก

สรุปหลังจากลองครอบทุกโหมด ผมเน้นไปสปอร์ตเพราะกระชับฉับไว แต่ถ้าเป็นคนใช้งานทั่วไป โหมดนอร์มอลเพียงพอแล้วครับ

อัตราเร่งตีนต้นพอไหวไม่ถึงกับอืดมาก ความเร็วกลางมาได้เร็วพอสมควรหากมองว่านี่คือรถเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แต่ด้วยผมทดสอบเพียงลำพัง หากนั่ง 5-6 คน อาจจจะอืดกว่านี้

ความเร็วปลายบดบี้กันหนักหน่อยกว่าจะไปถึง 150-160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ถ้าให้เหมาะวิ่งทางยาวสัก 110-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังสวย

เวลาเร่งแซงคิกดาวน์แล้วรอจังหวะนิดๆ ถ้าไม่มั่นใจแนะนำให้ดึงคันเกียร์เข้าตัวเพื่อปรับเป็นแมน่วลเพื่อเชนจ์เกียร์ จะกระชับมากขึ้นทั้งการเร่งแซง หรือใช้เอนจิ้นเบรกช่วยเข้าโค้ง

เสียงลมอู้เอาเรื่องอยู่เมื่อความเร็วปริ่มๆ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เช่นเดียวกับเสียงเครื่องยนต์ที่เข้ามาให้รถพอสมควร

เครื่องเสียงถือว่าปานกลาง แต่พอกลบเกลื่อนเสียงรบกวนจากภายนอกได้ประมาณหนึ่ง

ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง

แม้จะเป็นเซ็ตยอดนิยมแต่ปรับตั้งมาได้ดี ความนิ่มนวลใช้ได้เลยแม้จะขับคนเดียว ยิ่งหากมีผู้โดยสารเพิ่มน้ำหนักน่าจะหนึบมากกว่านี้

ตัวช่วยต่างๆ จัดว่าเด็ดพอตัวหากเทียบกับราคาที่ตั้งมา ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ทำงานโดยกล้องติดที่กระจังหน้ารถ และกล้องอีก 2 ตัวที่ติดบริเวณกระจกหน้า

อาทิ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว, ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี เครื่องยนต์จะตัดกำลังทันทีหากตรวจพบการเหยียบคันเร่งแรงผิดปกติ

ส่วนระบบอื่นๆ เช่น กล้องมองรอบคัน ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้า ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ถุงลม SRS 6 ตำแหน่ง ฯลฯ

ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกมีความสปอร์ตพอตัว ทั้งกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED เต็มระบบ เปิด-ปิดไฟหน้า และเปิด-เปิดไฟสูงอัตโนมัติ พร้อมด้วย Light Guiding

ไฟเลี้ยวแบบ Sequential ดูหรูหรามากขึ้น

ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding และมีเส้นไฟสีแดงพาดตรงกลาง

สปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม

ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว

ประตูท้ายมีโช้กอัพช่วยผ่อนแรง

โดยภาพรวมถือว่าเนรถครอบครัวที่ขับแบบชิลชิล ไปคนเดียวก็คล่องตัว หรือขนไปทั้งครอบครัวก็ไม่อึดอัด แม้อัตราเร่งจะไม่ปรู๊ดปร๊าด แต่ไม่ถึงกับอืดจนน่ารำคาญ เรียกว่าเหมาะกับรถครอบครัว หรือกลุ่มเอสเอ็มอี พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์

“โตโยต้า เวลอซ” มีให้เลือก 2 รุ่น SMART 795,000 บาท และ PREMIUM 875,000 บาท •