ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 เมษายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | เอกภาพ |
ผู้เขียน | พิชัย แก้ววิชิต |
เผยแพร่ |
เอกภาพ
พิชัย แก้ววิชิต
การสะดุดล้มของเวลา
นาฬิกาหยุดเดิน เวลาไม่ได้หยุดตาม เวลายังคงเดินต่อไป
การมีอยู่ของเวลาไม่จำเป็นต้องอาศัยนาฬิกา
เมื่อที่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น นั่นหมายถึงก้าวแรกของเวลาได้เริ่มก้าวเดิน และเมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดสิ่งจบลง ก้าวเดินสุดท้ายของเวลาก็จะหยุดลงทันทีเช่นกัน
มันเป็นเหตุและผลของการเกิดขึ้นและจบลงของเวลา
เรื่องราวของเวลาไม่ได้เรียบง่ายไร้ซึ่งมิติ มันไม่ง่ายที่จะเล่าสรุปเพียงถ้อยคำไม่กี่คำ เรื่องราวของเวลาดูจะซับซ้อนมากมายหลายแง่มุม ทั้งสิ่งที่จับต้องได้ และกับสิ่งที่รู้สึกถึง ก็จะเกี่ยวข้องด้วยเวลาเสมอ
เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำมืด ไปจนถึงดึกดื่น ช่วงเวลาของวันที่ถูกแยกย่อยขึ้นมาอย่างง่ายๆ ที่อ้างอิงจากดวงอาทิตย์ในตอนกลางวันและดวงจันทร์ในตอนกลางคืน
รูปแบบของการบอกระยะก้าวเดินของเวลาในระหว่างวัน ที่จะทำให้เราเข้าใจได้ไม่ยาก จากภาษาปากที่ใช้กันมายาวนานจากอดีต จนถึงปัจจุบัน และจะยังคงใช้กันไปจนถึงอนาคต ไปจนสุดประมาณกาล
เราทุกคนล้วนมีเวลาเป็นของตัวเอง ยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อคนต่อวัน เวลาจะถูกใช้ไปกับกิจกรรมของชีวิตในแต่ละวัน หากแต่รูปแบบการใช้เวลาของแต่ละคนส่งผลกระทบต่อความเร็วและช้าของเวลาที่ก้าวเดิน
ในหนึ่งวันการบอกเวลาถูกแบ่งออกเป็นช่วงๆ เป็นวงกลมตามระยะห่างของเข็มสั้นยาวบนหน้าปัดนาฬิกา เพื่อที่จะบอกให้รู้ระยะก้าวของเวลาว่าจะต้องทำในสิ่งใดบ้างเมื่อเวลานั้นๆ เดินทางมาถึง
รูปแบบชีวิตกับการสะดุดล้มของเวลา เมื่อชีวิตต้องเร่งในเวลาที่ต้องรีบ ทุกสิ่งอย่างดูจะวิ่งวุ่นรวดเร็ว ราวกับเป็นการแข่งกับเวลา ระหว่างเจ้าของผู้ใช้เวลากับเวลาที่ถูกใช้ ที่ทั้งสองกำลังอยู่ในลู่วิ่งของภาระและหน้าที่ และด้วยความเร็วที่เกินพอดี
บางครั้ง บางคนก็อาจพลาดที่จะได้เห็นสิ่งที่สำคัญกับใครสักคนที่มีความหมายในชีวิต
บางคนสูญเสียระยะเวลาที่ดีกับครอบครัว และเวลามันไม่เคยถอยหลังย้อนกลับไปสู่เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น มันเป็นเงื่อนไขที่น่าเศร้าของเวลา
หากแต่รูปแบบชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่มิติเดียว ยังมีอยู่อีกหลายมิติให้เราเลือกใช้ และสามารถที่จะสร้างจุดเริ่มต้นของเวลาขึ้นมาใหม่ ในอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมาแทน
จุดเริ่มต้นที่มาจากใจ ครั้งแรกของความรู้สึกที่ได้เกิดขึ้น ความรู้สึกนั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจากการเป็นจุดเริ่มต้นของเวลา มันเป็นก้าวเดินก้าวแรกของเวลา
กับความรู้สึกที่ได้สังเกตเห็นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องราวของความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อคนที่รัก ครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง และมักจะเกิดขึ้นกับก้าวเดินของเวลาที่ไม่เร่งรีบ ที่ทำให้เห็นคุณค่าและความหมาย แม้จะเป็นเพียงก้าวช้าๆ ของเวลา แต่จะเป็นก้าวเดินที่สง่างาม ไว้ใจได้
สําหรับผม รูปแบบชีวิตกับก้าวเดินของเวลา จำเป็นต้องปรับจังหวะการเดินของเวลาให้เข้ากับภาระและหน้าที่ เร็วบ้าง ช้าบ้าง ตามความเหมาะสม แต่โดยรวมแล้วเวลาของผมจะเดินไม่เร็วมากนัก ก้าวช้าๆ ของเวลาช่วยให้ผมได้สังเกตเห็นอะไรได้อีกมาก การได้สังเกตตัวเอง สังเกตสิ่งรอบข้าง สังเกตในสิ่งที่ทำ และอีกมากมายหลายสังเกต “เพราะทุกสิ่งมีเวลาอยู่ในตัวมันเองแม้แต่ตัวเราก็เช่นกัน”
“เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเวลาอยู่ในตัวเอง แม้ตัวเราก็เช่นกัน” ชีวิตและเวลาเกิดจุดเริ่มต้นที่พร้อมกัน ในที่เดียวกัน มีเวลาอยู่ในชีวิตและในชีวิตก็มีเวลา เมื่อชีวิตเร่งรีบจนสะดุดล้ม มันก็ไม่ต่างอะไรไปกับ “การสะดุดล้มของเวลา”
ขอบคุณมากมายครับ •