Technical Timeout

จริงตนาการ

[email protected]

 

LGBTQ+ และวิถีกาตาร์

ความแตกต่างที่ต้องเคารพกันและกัน

 

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะแข่งขันกันแล้ว เจ้าภาพเลือกช่วงหน้าหนาวของประเทศตัวเองฟาดแข้ง ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน-18 ธันวาคม เพื่อให้สภาพอากาศเหมาะกับการแข่งขันมากที่สุด

ประเด็นที่จับจ้องกันในตอนนี้คือ ชาวรักร่วมเพศที่ห่วงกันว่าอาจจะถูกลงโทษหรือดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะกฎหมายของกาตาร์มีโทษระบุไว้สำหรับชาวรักร่วมเพศ หลายปีที่ผ่านมาได้มีการตั้งประเด็นในเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจนจากเจ้าภาพว่า ชาวรักร่วมเพศจะสามารถไปสนุกกับฟุตบอลโลกได้เหมือนกับที่ประเทศอื่นเป็นเจ้าภาพหรือไม่

ล่าสุด องค์กรเพศทางเลือก 16 องค์กรทั่วโลก ได้จี้คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ถึงการรับรองความปลอดภัยให้กับกลุ่ม LGBTQ+ ทั่วโลกที่อยากจะไปดื่มด่ำกับบรรยากาศเวิลด์คัพ ด้วยการส่งจดหมายขอคำชี้แจงในเรื่องนี้

“แนวทางการไปร่วมชมฟุตบอลโลกของชาวรักร่วมเพศที่ได้ประสานกับฟีฟ่าไปนั้นมีความคืบหน้าที่ช้ามาก ถ้าไม่สามารถการันตีความปลอดภัยที่กลุ่มเพศทางเลือกจะเดินทางไปกาตาร์ได้ ก็ถือได้ว่าการไปครั้งนี้ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือชมการแข่งขันก็มีความเสี่ยงสูงมาก หวังว่าการประชุมระหว่างฟีฟ่าและคณะกรรมการจัดการแข่งขันของกาตาร์ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ จะมีความคืบหน้าเรื่องนี้ด้วย”

ข้อความในจดหมายระบุ

 

ส่วนการที่แฟนบอลเพศทางเลือกจะถือธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ LGBTQ+ นั้น ถึงกาตาร์จะอนุญาตให้ทำได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีของผู้ถือธงสีรุ้งเช่นกัน

พล.ต.อับดูลาซิซ อับดุลเลาะห์ อัล อันซารี่ หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของเจ้าภาพ และประธานฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของการแข่งขัน อธิบายสาเหตุที่ไม่อยากให้มีการถือธงสีรุ้ง ว่า ถ้าแฟนบอลถูกตำรวจริบธงสีรุ้งขอให้รู้ไว้ว่า ตำรวจไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี หรือต้องการต่อต้าน แต่มันเป็นการช่วยปกป้องชาวรักร่วมเพศ

เนื่องจากการแสดงออกแบบนั้นอาจจะทำให้คนอื่นๆ ที่เห็นทำร้ายชาวรักร่วมเพศได้ ไม่สามารถรับประกันพฤติกรรมของคนท้องถิ่นทั้งหมดได้ จึงไม่อยากให้ถือธงสีรุ้งไว้กับตัว

“การที่คนเพศเดียวกันจองห้องเพื่อมาพักด้วยกัน มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวว่าคนสองคนทำอะไรกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนกฎหมายได้ และไม่สามารถเปลี่ยนศาสนาในช่วงเวลา 28 วันของฟุตบอลโลกได้หรอก” พล.ต.อับดูลาซิซกล่าว

นัสเซอร์ อัล-คาเทอร์ ซีอีโอของเวิลด์คัพ 2022 ยืนยันว่า กาตาร์เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และทุกคนจะได้รับการต้อนรับที่ดีแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ศาสนาอะไร

ลิส คลาเวเนส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนอร์เวย์ ซึ่งเป็นอดีตนักเตะทีมชาตินอร์เวย์ เป็นชาวรักร่วมเพศ และเป็นทนายความ แสดงความเห็นว่า กาตาร์ไม่ควรได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกหนนี้ด้วยซ้ำ เพราะการที่ใช้แรงงานอย่างหนักจนเสียชีวิต และไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของชาวรักร่วมเพศในการชมฟุตบอลโลกได้

แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษ ได้แสดงความเห็นไปก่อนหน้านี้ว่า การเปลี่ยนแปลงแนวทางและความคิดของวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไม่สามารถทำได้ในเวลาแค่ข้ามคืน แต่การที่ฟุตบอลโลกไปเตะที่กาตาร์ จะทำให้ได้มาขบคิดพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการยอมรับความหลากหลายทางเพศให้มากขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก

“เราไม่สามารถควบคุมเรื่องอื่นๆ ได้ แต่จะพยายามใช้เสียงที่มีในการช่วยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศให้ได้มากเท่าที่จะทำได้ เพราะรู้ดีว่าเสียงของนักเตะทีมชาติอังกฤษจะเป็นข้อความที่เสียงดังมากที่คนทั่วโลกจะได้ยืน” เคนกล่าว

 

กาตาร์ที่ถูกจับจ้องในเรื่องลบมาตลอด น่าจะมีแนวทางในการผ่อนคลายข้อบังคับและกฎหมายเกี่ยวเพศทางเลือกในช่วงเวลา 4 สัปดาห์ของฟุตบอลโลก เพราะกาตาร์เป็นประเทศที่ได้จัดกีฬาและอีเวนต์ระดับโลกมามากมาย การเปิดเข้าหาโลกมาตลอดหลายสิบปีหลัง น่าจะทำให้คนท้องถิ่นเข้าใจความหลากหลายของมนุษย์ได้มากขึ้นแล้ว

รสนิยมรักร่วมเพศไม่ใช่เรื่องผิด และควรได้รับความเท่าเทียมในสังคม เช่นเดียวกับวิถีชีวิต กฎหมาย ความเชื่อของชาวท้องถิ่น ก็ต้องได้รับการเคารพจากแขกที่มาเยือนเช่นกัน

เมื่อความแตกต่างมาเจอกัน และยอมรับซึ่งกันและกัน ทุกอย่างจะเดินหน้าไปด้วยดี •