“ผมขอย้ำว่าหากใครทำผิดกฎหมาย ไม่ต้องมาถาม ผมจับหมด เอาอย่างนี้เลย ถ้าใครออกมาเคลื่อนไหว จับหมด”

“เอาแบบนี้แหละ ผมตัดสินใจแล้ว”

แม้จะไม่ใช่ “นายกรัฐมนตรี”

แต่เสียงคำรามของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ทรงความหมาย

ก็มากบารมีไม่ยิ่งหย่อนกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เพราะอะไร ใครๆ ก็รู้

ความต่อเนื่องจากการจับกุมนักศึกษาที่รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ที่ตามมาด้วยการออกแถลงการณ์ของนักวิชาการจำนวนมาก

ในเชิง “ปริมาณ” อาจไม่เห็นอะไรมากนัก

แต่เชิง “คุณภาพ” แล้ว การเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลสะเทือนอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะกับภาพลักษณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลไทย

ทั้งสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และอียู ย่อมรู้สึกกับไทยในแง่ลบ

แต่เมื่อ พล.อ.ประวิตร ประกาศชัดเจนว่า “เอาแบบนี้แหละ ผมตัดสินใจแล้ว”

ย่อมหมายความว่าเขาเลือก “แบบ” เรียบร้อยแล้ว

“แบบ” ที่ว่านั้นก็คือ ต้องไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวของมวลชนในเรื่อง “ประชามติ”

ต้องกดฝ่ายคัดค้านไม่ให้โงหัวขึ้นมา

ส่วนผลสะเทือนที่จะเกิดจากแรงกดดันของต่างชาติ

…ว่ากันทีหลัง

“แบบ” ที่เลือกสะท้อนถึง “เป้าหมาย” ทางการทหารของผู้มากบารมีตัวจริงที่กำหนดทิศทางการเมืองของรัฐบาล

…ต้องชนะในเกมประชามติให้ได้

ว่ากันว่าทีม เสธ. ทั้งหลายประเมินแล้วว่าหากการลงประชามติครั้งนี้

คสช. แพ้

จะเป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะเกิด “โดมิโน” ทางการเมือง

เพราะสถานะของ คสช. จะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

อย่าลืมว่า กระบวนการลงประชามติจะแสดงให้เห็นว่า “คนไทย” ส่วนใหญ่มีความเห็นทางการเมืองอย่างไร

เป็น “เสียงส่วนใหญ่” ที่แท้จริงอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

ไม่ใช่ “คำกล่าวอ้าง” ถึง “เสียงส่วนใหญ่” หรือ “ประชาชน” ที่พิสูจน์ไม่ได้แบบ GT 200 ของใครบางคน

ยิ่งการลงประชามติของไทยเกิดขึ้นหลังการลงประชามติของอังกฤษ

ผลสะเทือนทางการเมืองในเชิงเปรียบเทียบจะยิ่งแรงขึ้น

เพราะที่อังกฤษเมื่อผลประชามติออกมาไม่ตรงกับแนวทางของ “นายกรัฐมนตรี”

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เขาเลือกรับผิดชอบแบบลูกผู้ชายด้วยการลาออก

วันนี้ แม้ผลสะเทือนจะยังไม่เกิดขึ้น

แต่ถ้าถึงวันที่ 7 สิงหาคม แรงกระเพื่อมเหมือนคลื่นในทะเลในวันนี้

อาจแปรเปลี่ยนเป็น “แผ่นดินไหว” ได้

นั่นคือ เหตุผลที่ คสช. แพ้ไม่ได้ในเกมประชามติ

และเป็นที่มาของประโยคนี้

“เอาแบบนี้แหละ ผมตัดสินใจแล้ว”

แต่จะเกี่ยวกับเรื่อง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ออกเฟซบุ๊กไลฟ์ “ยอวาที” ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่

…ไม่รู้