หน้า 8 : คาบลูกคาบดอก

เหลือเพียงอีกแค่ 3 สัปดาห์ก็จะถึงวันที่ 7 สิงหาคม

วันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย ฤชุพันธุ์”

แต่จนถึงวันนี้รายละเอียดของรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศที่คนไทยต้องลงประชามติยังไม่ถึงมือประชาชนเลย

มีคนบอกว่าเป็นการสนองนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของรัฐบาล

“ไทยแลนด์ 4.0” คือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย “นวัตกรรม”

แต่การลงประชามติ 4.0

คือ การขับเคลื่อนประชาธิปไตยด้วย “นวัตกรรม”

ไม่ต้องอ่านร่างรัฐธรรมนูญ

ลงมติไปเลย

เป็นการลงประชามติที่คล้ายๆ กับการซื้อของออนไลน์

ไม่ต้องเห็นสินค้า

…โอนเงินเลย

ทันสมัยจริงๆ

 

มีคำถามว่าทำไมช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจึงโกรธง่ายผิดปกติ

เพราะตามปกติท่านนายกฯ จะออกอาการโมโหเมื่อนักข่าวยิงคำถามไม่เข้าหู

แต่ช่วงนี้ “บิ๊กตู่” มีพัฒนาการใหม่

ยังไม่ถามก็โมโหแล้ว

ระเบิดทั้งที่ยังไม่ได้จุดชนวน

ขนาดเป็นประธานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นประจำปี 2559

แทนที่จะพูดเรื่อง “ทุน”

กลับปราศรัยเรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่

ประกาศเลยว่าถ้าประชามติใหม่ไม่ผ่าน

“เดี๋ยวผมจะร่างเองเลย”

อยู่บนเวทีเหยียบคันเร่งจมเท้า

แต่คงมีคนเตือนว่าคำพูดของคนระดับผู้นำประเทศมีความสำคัญ

พูดแบบนี้ ต่างชาติอาจช็อกได้

พอลงเวทีปั๊บก็เลยเหยียบเบรกชนิดนักข่าวหัวคะมำ

ให้เหตุผลใหม่ว่าเป็นการพูดแบบ “เทศน์คาบลูกคาบดอก”

…อมิตตพุทธ


ไม่แปลกที่ช่วงหลังการใช้ “อำนาจ” จัดการกับกลุ่มที่คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ

หรือกลุ่ม “โหวตโน” ทั้งหลายจะสะเปะสะปะอย่างยิ่ง

ขนาดยังไม่ได้แจกเอกสารใดๆ เลย

มีเอกสารอยู่ในรถก็ยังโดนจับ

นักข่าวของสำนักข่าวประชาไทที่ติดรถไปด้วยก็ถูกจับ

วันต่อมายังบุกไปค้นสำนักข่าวประชาไทอีก

เป็นการใช้กฎหมายแบบ “ริว จิตสัมผัส” อย่างแท้จริง

ว่ากันว่าตอนนี้ตำรวจกำลังสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่

แค่เห็นแนวทาง “คาบลูกคาบดอก” ของท่านผู้นำก็เดินตามทันที

“คาบลูกคาบดอก” ในภาษาพระอาจตีความอย่างหนึ่ง

แต่ถ้าเป็นภาษามวย

“คาบลูกคาบดอก”

ก็คือ ล้มแล้วซ้ำ

เป็นการต่อสู้แบบ “ลูกผู้ชาย” ยุคใหม่

…ไทยแลนด์ 4.0