ความเยาะเย้ยของยูเครน/โลกทรรศน์ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

 

ความเยาะเย้ยของยูเครน

 

ในขณะที่ติดตามสงครามยูเครนซึ่งมีมุมมองหลากหลายและข้อมูลมหาศาล

ผมได้อ่านบทความชิ้นหนึ่งลงในวารสาร Foreign Affairs ที่อยู่ในออนไลน์ เขียนโดยชาวอเมริกัน Gedeon Rose, “The Irony of Ukraine : We have met the enemy, and It is us”1 Foreign Affairs 29 March 2022

ข้อเขียนนี้สะท้อนมากกว่าผู้เขียนเขายืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง

แต่เขาอธิบายความเยาะเย้ยสงครามยูเครนกับสงครามเวียดนาม สงครามอิรักและสงครามในอัฟกานิสถาน ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาล้มเหลว แล้วรัฐบาลรัสเซียที่นำโดยประธานาธิบดีปูตินทำสงครามยูเครน แม้ด้วยเหตุผลต่างกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา แต่ทั้งคู่แพ้สงคราม ติดกับดักอุดมการณ์ ความลุ่มหลง เสียหน้า และหาทางออกไม่ได้เหมือนกัน

ที่น่าสนใจ เขาอธิบายการรักษาหน้าให้ปูตินโดยชี้ว่า ผู้นำสหรัฐอเมริกาควรทำอย่างไรได้น่าสนใจ

ผมจะขอเรียบเรียงมานำเสนอดังนี้

 

สงครามยูเครน

1เดือนกว่าผ่านไปแล้วสำหรับสงครามยูเครน ฉันทามติกว้างๆ ได้ก่อตัวขึ้นในบรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์ชาวอเมริกันว่า ทำไมรัสเซียล้มเหลวในความสำเร็จต่อเป้าหมายของตัวเอง

กับดัก ของอารมณ์และอุดมการณ์ที่เฟื่องฟูเกิดขึ้น มีข้อโต้แย้งมากมายเกิดขึ้น

เช่น ประธานาธิบดีปูตินทำไม่ชัดเจนทางยุทธศาสตร์หลายอย่าง เขาโน้มน้าวตัวเองอย่างทื่อๆ ว่า สงครามจะรวดเร็วและง่ายๆ กองกำลังต่างชาติจะได้รับการต้อนรับ เป็นผู้ปลดปล่อย ซึ่งพวกเขาชาวยูเครนตกใจไม่รู้จะทำอะไร

หรือกองทัพรัสเซียจะบดขยี้การต่อต้านต่างๆ และนั่นจะสามารถตั้งรัฐบาลท้องถิ่นที่เป็นมิตรเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกชาวรัสเซียได้ เมื่อการสู้รบยุติลงในไม่ช้า

ทั้งหมดนี้คือ ความคิดของผู้นำรัสเซียอย่างปูตินและมิตรสหายใกล้ชิด หลังจากนั้น การรุกรานยูเครนก็เริ่มต้นขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมองว่า ทั้งหมดนี้คือ จินตนาการ

จินตนาการเหล่านี้เมื่อมาสู่ ความเป็นจริง กลับกลายเป็นว่า กองกำลังยูเครนลุกขึ้นสู้และต่อสู้อย่างได้ผล และกองทัพรัสเซียพบกับความยุ่งยากมากมาย

และตอนนี้ กองทัพรัสเซียและผู้นำมีความโกรธแค้น กองทัพรัสเซียได้รับบาดเจ็บ ติดอยู่กับโคลนตม เป็นตัวกระตุ้นความผิดหวัง แทนที่จะหันกลับมาต่อสู้อย่างมีเหตุผล

ผู้เขียนคนนี้เขาอธิบายว่า การวิเคราะห์ทั้งความไม่ชัดเจนทางยุทธศาสตร์ของปูตินและความเป็นจริงในสนามรบและเวทีการเมืองระหว่างประเทศในสงครามยูเครน ที่คนอเมริกันครุ่นคิดดูมีเหตุผลดี

แต่ผู้เขียนนำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งคือ สงครามยูเครน มี เรื่องน่าเยาะเย้ย มากมายและน่าสนใจทีเดียว

สำหรับคำอธิบายความผิดพลาดของปูติน กล่าวคือ ไม่ใช่แค่เป็นประสบการณ์ของรัสเซีย แต่มีความผิดพลาดคล้ายกันในนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในหลายทศวรรษที่ผ่านมา รวมทั้งในสงครามเวียดนาม อัฟกานิสถานและสงครามในอิรัก

สหรัฐอเมริกาแทรกแซงทางการทหารซ้ำๆ ด้วยการคาดการณ์อย่างฟุ่มเฟื่อย ไร้ความเป็นจริง ประเมินสูงเกินไปในสมมรถนะทางทหารและการเมืองระหว่างประเทศของตัวเอง และประเมินต่ำเกินไปต่อศัตรูของตัวเอง

ผู้กำหนดนโยบายอเมริกันเชื่อว่า ที่รัฐบาลอเมริกันเข้าแทรกแซงทางทหารนี่เป็นความรัก มากกว่าความเกลียดชัง จึงรุกรานทำสงครามในเวียดนาม อัฟกานิสถาน อิรัก และต่อจากนั้น พวกเขาใส่ความคิดและความนิยมลงไปว่า ท้ายที่สุด พวกเขาจะถอนตัวออกจากสงครามอย่างง่ายๆ

กลับมาที่ปูติน เมื่อกลับมาสู่ความเป็นจริงในแบบกระด้างเหมือนกันของปูติน ในการสงครามยูเครน เขามีความพยายามเข้าไปใจกลางเป้าหมายทางทหารและการเมืองเลย ก่อนตัดสินใจกลับลำและถอนตัวออกมา

ใช่แล้ว แรงจูงใจของสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามดูสูงส่ง

ใช่แล้ว สหรัฐอเมริกาใช้วิธีการทำสงครามดูป่าเถื่อนน้อยกว่า

ใช่เลย สงครามในเวียดนาม อัฟกานิสถานและอิรัก และยูเครนมีความแตกต่างอื่นๆ มากมายในช่วงความขัดแย้ง

แต่ในระดับยุทธศาสตร์ ความเหมือนต่างๆ กำลังชี้ออกมาให้เห็น นั่นหมายความว่า มีบทเรียนสำคัญมากมายให้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์การสงครามของสหรัฐอเมริกา

แต่เป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่มองจากทัศนะของศัตรู ไม่ใช่จากคนอเมริกัน

คนอเมริกันไม่ได้สรุปบทเรียน แล้วผู้นำนโยบายอเมริกันก็ไม่สรุปบทเรียน

 

กลับบทบาทกัน

สหรัฐอเมริกาเคยคิดว่า ตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นของมหาอำนาจทางทหาร สหรัฐอเมริกาใช้แนวคิดโจมตี ยึดครองและควบคุม

อย่างไรก็ตาม สงครามยูเครนมีด้านอื่นๆ ด้วย ทำให้เรามองเห็นส่วนที่จะช่วยให้เห็นด้านตรงกันข้ามของการทำสงคราม

นั่นคือ การใช้ การป้องกัน (defensive) ง่ายกว่า และถูกกว่าการใช้ การรุก (offensive) ซึ่งมันใช้เวลานานกว่าและต้องการวิธีคิดที่แตกต่าง

ในบริบทนี้ ความล้มเหลวของสหรัฐอเมริกาในการยึดครองหลายประเทศเมื่อไม่นานมานี้ช่วยให้เราเข้าใจว่า สหรัฐอเมริกาสามารถเปลี่ยนแปลงการเล่น และใช้ยุทธวิธีต่างๆ ได้แก่ เพาะเลี้ยงเครื่องมือที่ระเบิดได้ไม่สิ้นสุด ผิดหวังแต่ไม่รุกราน แต่มีบางความหวังยึดครองอย่างมั่นคง

ผู้กำหนดนโยบายอเมริกันควรคิดอย่างชาวยูเครน คือ การเล่นและใช้บางส่วนอย่างพวกคอมมิวนิสต์เวียดนาม ทหารทาลิบันและคนอิรัก ควรยอมรับด้วยว่า รัสเซียกำลังแสดงบทบาทเก่าของสหรัฐอเมริกา

เมื่อมองแบบคู่ขนาน น่าทำให้ง่ายขึ้นสำหรับผู้กำหนดนโยบายอเมริกันในความเข้าใจรัสเซีย นั่นคือ ใช้การเจรจา

สงครามต้องมีผลต่อคนยูเครนแน่นอน แต่ก็เป็นทางเลือกสำหรับรัสเซียด้วย ปูตินได้คำนวณผิดแน่ๆ และตอนนี้ค้นพบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่น่าคลื่นไส้ มีทางเลือกดีๆ น้อยลง

ซึ่งก็เหมือนที่สหรัฐอเมริกาตกอยู่ในสภาพเดียวกันในเวียดนาม อัฟกานิสถานและอิรัก

ควรยอมรับด้วยว่า การพ่ายแพ้หรือความอับจนในสนามรบเป็นเงื่อนไขจำเป็นต่อการถอนกำลังทหารของรัสเซีย แต่สหรัฐอเมริกาได้เรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมาแล้วว่า มันต้องใช้เวลาสำหรับอภิมหาอำนาจที่จะต้องผ่านเส้นทางของความคับข้องใจ และการยอมรับในผลลัพธ์ของมัน

ดังนั้น แทนที่จะตัดเยื่อใยกันเลย และขับเน้นไปที่ปัญหาต่างๆ ของรัสเซีย ไปมีจินตนาการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (regime change) สหรัฐอเมริกาควรรักษาการสื่อสารระหว่างกัน และอนุญาตต่อข้อเสนออื่นๆ ที่รักษาหน้า การออกจากสงครามยูเครนที่อนุญาตให้ปูตินถอยออกมา ขณะที่รักษาความมีเกียรติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

คุณกำลังพูดกับตัวเอง

เมื่อเริ่มทำสงครามยูเครน เกิดคำถามหลายคำถามต่อสุขภาพจิตของปูติน ตอนนี้ดูเหมือนประสบการณ์จะช่วยเน้น และความระแวดระวัง ผู้กำหนดนโยบายสหรัฐอเมริกาไม่ให้ตกไปอยู่ในกับดักเดียวกันอีกครั้งเหมือนในยูเครนหรือที่อื่นๆ

ด้านที่ช็อกของสงครามยูเครนที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันคือ ช่างโง่เหลือเกิน อะไรช่างอีเดียดขนาดนี้ จึงรุกรานประเทศโดยไม่มีแผนการว่าจะสิ้นสุดอย่างไร

บทเรียนนี้ สหรัฐอเมริกาควรนอบน้อมเรียนรู้ เพราะการทำสงครามโดยไม่มีแผนยุติมัน เป็นสิ่งที่สหรัฐอเมริกาทำในอดีต

จุดเริ่มต้นการยุติสงครามเวียดนามคือ ตีกระหน่ำศัตรูให้หนักกว่าเดิม และหวังว่าพวกศัตรูจะยกเลิกทำสงคราม สงครามอ่าวเปอร์เชีย แผนที่วางไว้หลังสงครามอิรักคือ หวังว่าการล้มซัดดัมโดยการรัฐประหาร ทั้งนี้ คำที่มีชื่อเสียงตอนนี้เป็นคำกล่าวที่มาจากนายพลสหรัฐผู้บัญชาการรบสงครามอิรักที่ว่า

“…บอกผม จะยุติสงครามอย่างไร…”

บางที เหล่านายพลคู่กายของปูติน คงอยากจะถามปูตินท่านผู้นำของเขาเหมือนกันว่า…บอกผม จะยุติสงครามยูเครนอย่างไร… ผู้นำอเมริกันอย่าเยาะเย้ยปูตินและผู้นำรัสเซียเลย สหรัฐอเมริกาทำสงคราม ติดกับดัก เสียหน้า หาทางออกจากสงครามไม่ได้มาหลายสนามรบ หลายยุคมาก่อนรัสเซียแล้ว

เราเรียนรู้อะไรบ้างจากสงครามยูเครนและที่อื่นๆ

1หรือ การเยาะเย้ยยูเครน : เราได้พบศัตรู มันคือพวกเราเอง