ควรถือว่าเรื่องทุจริตจำนำข้าว “จบ” แล้ว เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกนักการเมือง นักธุรกิจและข้าราชการยกพวง คนละหลายสิบปีลดหลั่นกันไป โดยอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์โดนจำคุกถึง 42 ปี

ส่วนในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลย ฐานละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาศาล ศาลเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 27 กันยายน และศาลสั่งยึดเงินประกันตัวเต็มจำนวนพร้อมออกหมายจับจำเลย

งาน “จำนำข้าว” เรื่องนี้จึงถือว่า “จบ”

ที่จะต้องทำกันต่อไปก็เพียงแต่ติดตามจับกุมจำเลย ตามหมายจับของศาล กับยึดทรัพย์ที่อายัดไว้ (ถ้าหากศาลพิพากษาว่าให้ยึดทรัพย์) ซึ่งทั้ง 2 งานที่ว่านี้ก็เป็นเพียงงานของระดับเจ้าหน้าที่เท่านั้น “บิ๊ก” ทั้งหลายในคณะรัฐบาลไม่จำเป็นต้องสั่งการอะไรก็ได้

นอกจากนั้น ยังไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหว ไม่ต้องให้สัมภาษณ์ตอบโต้หรือให้ความเห็นอะไรก็ได้ ปล่อยให้บรรดาสารพัดสื่อและสารพัดฝ่ายเขาว่ากันไป ฟัดกันไปตามถนัดของเขาดีกว่า เพราะข่าวฟาดฟันกันนี่ขายดีมาก อย่างน้อยก็ขายดีกว่าข่าวปรองดอง

ผมเชื่อว่าชาวบ้านเจ้าของประเทศที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับใครโดยเฉพาะ เขาไม่สนใจหรอกครับว่า อดีตนายกฯ ปูหนีไปได้อย่างไร มีใครเปิดทางให้หรือไม่ ไปอยู่ที่ไหน ต่างประเทศจะรับให้ลี้ภัยหรือไม่ ในฐานะอะไร ลี้ภัยการเมืองหรือแค่เป็นอาชญากรธรรมดา

ชาวบ้านเขาสนใจแต่ว่าจะเรียกคืนความเสียหายมหาศาลกลับมาได้อย่างไรหรือไม่? มากกว่า หลังจากนั้นก็ตั้งตาคอยดูชมคดีทุจริตคอร์รัปชั่นเรื่องใหม่ต่อไป

รายละเอียดที่ดำเนินไปในเรื่อง “จำนำข้าว” ถ้าเป็นหนังสือก็เหมือนนวนิยายเล่มหนาหลายตอนจบ ถ้าเป็นภาพยนตร์ก็หลายซีเควนช์และหลายภาค แต่ละภาคความยาวไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง

เรื่องจบแล้วก็อาจจะแตกดอกออกช่อเป็นสะเก็ดข่าว เป็นฟุตโน้ต เป็นซับ-พล็อต หรือเป็นเรื่องสั้นเรื่องใหม่อีกเรื่องหรือหลายเรื่องก็ได้ เช่น…

เรื่องของศิลปินแห่งชาติ ไพฑูรย์ ธัญญา ถูกวิพากษ์ว่าเขียนกวีคำผวนหยาบคายและเหยียดเพศ ขณะเดียวกันก็ได้รับคำวิจารณ์จากอีกฝ่ายว่าเป็นเพียงอารมณ์ขันจากบทกวีคำผวนแบบคนโบราณ พร้อมกันนั้น มีเรื่องคำผวน “คิดคึกรวย” จากอารมณ์หงุดหงิด ของอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวอย่างยืนยัน

จอม เพ็ชรประดับ ตำหนิยิ่งลักษณ์ ที่หนีศาล ซึ่งเท่ากับเป็นสัญลักษณ์ของการยอมแพ้เผด็จการ แล้วต่อมาจอมเปลี่ยนใจเป็นยกย่องที่หนี

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอแผนทำโพลเจตนาจะใช้ตีนประชาชนเหยียบย่ำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยคำถาม “รู้สึกอย่างไร?” เป็นที่สะใจฝ่ายที่เชียร์ว่าเป็น “คนดี” …ฯลฯ

ทั้งหมดล้วนถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งสิ้น ทั้งเชิงบวกและลบไปพร้อมกัน

ในห้วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้ (29 สิงหาคม) มีเรื่องคดีทุจริตคอร์รัปชั่นทยอยกันจบ 2 เรื่อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก 13 ปี 4 เดือน นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวคนดังกับพวก กรณีทุจริตเงินค่าโฆษณา บมจ.อสมท

อีกเรื่องคือคดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ธรณีสงฆ์มรดกยายเนื่อม” ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดอ่านคำพิพากษาจำคุกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ 2 ปี ในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ฟ้องนายยงยุทธ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย จากกรณีการจดทะเบียนโอนมรดกและโอนสิทธิขายธรณีสงฆ์ของที่ดินวัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ปทุมธานี จำนวน 730 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา

นายยงยุทธได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน โดยมีเจตนาช่วยเหลือบริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท และบริษัทกอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ

เสียดายที่คดีทุจริตที่ดินอัลไพน์ซึ่ง ป.ป.ช. ฟ้อง นายเสนาะ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ในขณะนั้น) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องเพราะหมดอายุความเสียก่อน

ถ้าจะถามผมว่าคดีทุจริตคอร์รัปชั่นเรื่องต่อไปที่ผมอยากดูมากที่สุดคือเรื่องอะไร ผมย่อมตอบได้ทันทีว่าอยากดูเรื่อง “สร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง 5,848 ล้านบาท” ควบเรื่อง “สร้างที่พักอาศัยหรือแฟลตตำรวจ 163 หลัง 3,700 ล้านบาท”

เพราะเมื่อครั้งยังเป็นตำรวจ ผมมีปัญหาเรื่องที่ทำงานกับบ้านพัก และมีไปจนเกษียณอายุ และเมื่อเกษียณมา 20 ปีก็ทราบว่าปัญหานี้ยังคงอยู่

อาคารที่สร้างค้างคากำลังจะกลายเป็นอนุสาวรีย์ทำนองเดียวกับตอม่อที่ประจานการคอร์รัปชั่นติดอันดับโลก

เรื่องโครงการ สน. 396 แห่ง กับแฟลตที่พักตำรวจ เป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนกว่ามหากาพย์ ตัวละครคนดังมากมาย หลายรัฐบาล หลายพรรคการเมือง และหลายยุคของบิ๊กตำรวจ

ผมอยากจะทบทวนเรื่องนี้ เพื่อฟื้นความจำ แต่เกรงจะสับสนเขียนผิดเขียนถูก อาจจะผิดพลาดและถูกฟ้องร้องฐานหมิ่นประะมาทได้ ตัวละครคนดังในเรื่องนี้ล้วนได้ชื่อว่าเป็นคนเก่ง มีประวัติเชี่ยวชาญในเชิงกฎหมาย ชำนาญการฟ้องร้องหรือถูกฟ้องร้องทั้งสิ้น

อันที่จริง เรื่องที่เป็นเรื่องสั้น ไม่สับสนซับซ้อน เป็นแบบที่ผมชอบมีหลายต่อหลายเรื่อง เช่น เรื่องกล้องวงจรปิดปลอม เรื่องเรือเหาะหรือบอลลูนใช้งานไม่ได้ เรื่องไม้วิเศษ จีที 200 เรื่องสินบนโรลส์-รอยซ์ ฯลฯ และ ฯลฯ น่าติดตามทั้งสิ้น

หลายเรื่องกำลังถูกลืมและหมดอายุความ หลายเรื่องกำลังจะเป็นเรื่องสั้นชนิดทวิสต์ เอ็นดิ้ง เป็นเรื่องสั้นหักมุมจนเอวเคล็ด