เราจะทำตามสัญญา…

ทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุวันเลือกตั้งเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นเดือนสิงหาคม 2561

อีกเกือบ 1 ปีนับจากนี้

หรือประมาณ 4 ปี 3 เดือนนับจาก คสช. ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ออกมาเต้นฟุตเวิร์กทันที

“กกต. ก็กำหนดไป ไม่รู้ว่ากฎหมายลูกจะเสร็จเมื่อไร ต้องรอกฎหมายลูก”

ถามว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในปี 2561 หรือไม่

คำตอบหนักแน่นและชัดเจน

“ไม่รู้”

และวนกลับไปที่จุดเดิม

“ต้องยึดกฎหมายลูก”

ความสนุกของการติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ที่การค้นข่าวเก่าๆ

ใครพูดอะไร เมื่อไร

หมุนเข็มนาฬิกากลับไปที่เดือนมกราคม 2560

หรือเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา

หลังจาก นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หลุดคำทำนายออกมาว่าการเลือกตั้งที่เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นปี 2560

อาจจะเลื่อนไปเป็นปี 2561

5 มกราคม นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาโต้ทันทีว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแม็ปของรัฐบาล

“การเลือกตั้งต้องมีภายในปี 2560”

“บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา วิป สนช. คนสำคัญ คนสนิทของ “บิ๊ก คสช.” ก็ยืนยันเช่นกันว่าโรดแม็ปเป็นไปตามเดิม เลือกตั้งภายในปี 2560

“นโยบายของผู้ใหญ่สั่งการมาแล้วว่าเมื่อกรรมาธิการส่งร่างกฎหมายลูกมาให้ สนช. พิจารณา สนช. ต้องพิจารณาให้เสร็จเร็วที่สุด ดีที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามโรดแม็ป”

ถ้ายังไม่น่าเชื่อถือ ต้องอ่านข่าวนี้ต่อ

วันที่ 10 มกราคม 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหนึ่ง

“สิ่งที่ผมพูดขอให้จำไว้ด้วย ผมไม่เคยไปเลื่อนขั้นตอน ขั้นตอนยังมีเหมือนเดิมทุกประการ…

…ทุกอย่างเริ่มสตาร์ตเมื่อมีรัฐธรรมนูญถาวรลงมา เมื่อลงมาก็นับไปสิ คุณจะไปเลือกเมื่อไรก็ไปเลือกตามนั้น

…แต่ผมถามว่า ถ้ามีเหตุการณ์มาแทรกในขั้นตอนการเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้น ก็เรื่องงานพระราชพิธีพระบรมศพไง เข้าใจกันเสียบ้าง พอทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินต่อ

…หลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธี จะให้หาเสียง เลือกตั้งปลายปี 2560 และได้รัฐบาลต้นปี 2561″

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการพิสูจน์สัจธรรมของโลก

“ความไม่แน่นอน “คือ” ความแน่นอน”

อะไรที่บอกว่า “แน่นอน” มัก “ไม่แน่นอน”

และ “เพลง” ก็คือ “เพลง”

ไม่ใช่ “คำสัญญา”