อำนาจที่หอมหวน | ลึกแต่ไม่ลับ : จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

อำนาจที่หอมหวน

 

“การช่วงชิงอำนาจนั้นยาก แต่การรักษาอำนาจยากกว่าหลายเท่า เพราะอำนาจเป็นสิ่งที่หอมหวนที่สุดในโลก” ข้อคิดคำคมจากสามก๊ก ซึ่งตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

ที่ศรัทธา เสื่อมทรุด ลดน้อยถอยลง “รายจ่ายท่วมรายรับ” จากหัสเดิม “ระยะที่ 1” หลังปฏิวัติยึดอำนาจเมื่อปี 2557 มีเสียงชื่นชม เยินยอ ให้กำลังใจ “ระยะที่ 2” ก่อนเลือกตั้งปี 2563 บ่น มีปฏิกิริยา “ระยะที่ 3” เอ๊กซ์ปาย คล้ายนมบูด ถูกด่า ถล่มสารพัดเรื่อง กระแสนิยมตกต่ำ

จับสัญญาณเสียงสะท้อนได้จาก “นิด้าโพล”… งวดล่าสุด ที่เผยผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาสครั้งที่ 1/2565 ทำการระหว่างวันที่ 10-15 มีนาคม กับคำถามที่ว่า

“บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้” จากประชาชนที่มีอายุเข้าเกณฑ์เลือกตั้ง 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา สาขา อาชีพ

“อันดับ 1” แชมป์ยังเป็น “สุญญากาศ” หาบุคคลที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 27.62 “อันดับ 2” ระบุว่า “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 13.42 “อันดับ 3” เป็น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ร้อยละ 12.67 “อันดับ 4” ระบุว่า “น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร” ร้อยละ 12.57 “อันดับ 5” ระบุว่า “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 8.22

เมื่อเทียบกับคะแนนนิยมทางการเมืองไตรมาสสุดท้ายปี 2564 ที่ “นิด้าโพล” สำรวจไว้เมื่อเดือนธันวาคม มีจุดเปลี่ยนหลายประการ แม้คำตอบยังหาบุคคลที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 36.54 “ครองอันดับ 1”

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยึดหัวหาด “อันดับ 2” แน่นิ่งมาตลอด ร้อยละ16.93 “นายพิธา” ตามมาห่างๆ “อันดับ 3” ร้อยละ 10.55 และ “อุ๊งอิ๊ง” ร้อยละ 10.55

ช่วงเวลาแค่ 3 เดือน เรตติ้ง “บิ๊กตู่” สลับฟันปลาอันดับกับ “พิธา” ก้าวไกล ขณะที่ “มือใหม่” เพิ่งเปิดตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ยังไร้เดียงสาทางการเมืองอยู่มาก อย่าง “แพทองธาร” จี้ตูด “ทั่นผู้นำตู่” มาติดๆ ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่เมื่อเอาคำถาม “พรรคการเมืองใดที่ประชาชนจะให้การสนับสนุนในวันนี้” ที่ทำการสำรวจในโอกาสเดียวกัน “คำตอบ” เค้กก้อนใหญ่ยังดุจเดิม คือ อันดับ 1 “ไม่สนับสนุนพรรคใดเลย” 28.86 เปอร์เซ็นต์

อันดับ 2 สนับสนุน “พรรคเพื่อไทย” ร้อยละ 25.89 อันดับ 3 “ก้าวไกล” ร้อยละ 16.24 อันดับ 4 “ประชาธิปัตย์” ร้อยละ 7.97 อันดับ 5 “พลังประชารัฐ” ร้อยละ 7.03

ยก “ส่วนต่าง” คะแนนนิยมจากผลสำรวจของ “ตัวบุคคล” กับ “พรรคการเมือง” ที่ได้รับการสนับสนุน เอ็กซเรย์ดีเอ็นเอ แล้วนำมารวมเข่ง มัดเข้าด้วยกัน เพื่อจำหน่าย ขายพ่วง

ยังหาที่เหมาะสมไม่ได้ คือยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร “ตัวบุคคล” ถูกละไว้ ร้อยละ 27.62 กับ “พรรคการเมือง” ร้อยละ 28.86 เท่ากับว่า มีพื้นที่ช่วงชิงที่จะมีมาตรวัด เพื่อชี้ขาดอยู่ประมาณร้อยละ 30

“แพทองธาร ชินวัตร” + เพื่อไทย ฐานคะแนนนำ ตามมาด้วย “พิธา” + ก้าวไกล ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังลัลล้า ไม่ประกาศให้แน่ชัดว่าสังกัดค่ายไหน ใครเป็นผู้ชงส่งเป็นบัญชีรายชื่อกันแน่ “พลังประชารัฐ” หรือ “รวมไทยสร้างชาติ”

เบื้องต้นเอาฐานที่มั่นเดิมคือ “พลังประชารัฐ” เมื่อนำมามัดแบบพ่วงเหล้าแถมเบียร์กับ “พล.อ.ประยุทธ์” แพ้ป่าราบทั้ง 2 เบอร์ข้างต้น

ถือว่า ถนนสายการเมืองของ “พล.อ.ประยุทธ์” มีเมฆหมอกมืดทะมึนทึบปกคลุม มองไม่เห็นเส้นทางเลยก็ว่าได้ เท่ากับมีปัญหาแล้วซิเรา ย่อมอยู่เฉยไม่ได้

“โพล” คือการสำรวจความคิดเห็น จึงเป็นความคิดเห็นแค่ประชาชน “บางกลุ่ม” จะนำมาเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเป็นความคิดเห็นของประชาชนทั้งหมดย่อมไม่ได้ ดั่งที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ให้คำนิยาม “ไปถามเด็กก็ได้เด็ก ถามผู้ใหญ่ก็ได้ผู้ใหญ่”

ซึ่งก็ถูกของ “ลุงป้อม”…เพราะผลสำรวจของ “นิด้าโพล” หรือสำนักอื่นๆ ที่น่าแปลกประหลาดมากก็คือ ในส่วนของ “พรรคภูมิใจไทย” กับ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค

ซึ่งปรากฏว่า จากผลสำรวจทั้ง 2 ไตรมาส “เสี่ยหนู” ไม่ติดทำเนียบนามเป็น 1 ใน 10 ขณะที่ “พรรคการเมือง” รั้งอยู่โซนท้ายตาราง “อันดับ 9”

ทั้งๆ ที่ว่า “ภูมิใจไทย” เป็นพรรคร่วมรัฐบาล “ลำดับที่ 2” ด้วยฐานเสียง 61 ที่นั่ง และ “นายอนุทิน” ยืนค้ำถ่อในฐานะ “นายกรัฐมนตรีบัญชีรายชื่อ” ที่เหลืออยู่ ถูกต้อง ตรงกฎ-กติกา ตามไฟต์บังคับรัฐธรรมนูญ 2560 เพียงผู้เดียว หากว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องหลุดเฟรมไปไม่ว่าด้วยเงือนไขใด

อะไหล่เสริมรายอื่นๆ ทั้ง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประชาธิปัตย์ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-ชัยเกษม นิติสิริ” จากเพื่อไทย ล้วนแล้วแต่ยาก เหลือแต่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” จากภูมิใจไทย เพียงผู้เดียวที่ยังอยู่ในไลน์

เหนือสิ่งอื่นใด ศึกเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 “ภูมิใจไทย” ได้รับเลือกตั้งเข้ามา 51 ที่นั่ง จากบัญชีรายชื่อ 12 คน แบบเขตเลือกตั้ง 39 คน อันดับที่ 5

แต่ด้วยการเดินหมากการเมืองอันแพรวพราว ฉลาด เก๋าเกม ตอนนี้มียอด ส.ส.เพิ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เป็นจำนวน 64 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่อยู่ 3 ราย เลยเหลือ 61 ที่นั่งก่อนหน้านี้

แต่ล่าสุด หลัง “พลังประชารัฐ” แตกดังโพละ มี 3 ส.ส.จากอีสานไหลมาเติมเต็ม ประกอบด้วย “เอกราช ช่างเหล่า-วัฒนา ช่างเหล่า” จากขอนแก่น “สมศักดิ์ พันธ์เกษม” จากนครราชสีมา หน้าตักจึงเท่ากับ 64 เสียงเต็มสูบ

มี “กองทัพงูเห่า” จาก “ก้าวไกล-เพื่อไทย-ประชาชาติ” ไหลมานอนแผ่แม่เบี้ยอ้วนเอาพีเอาอยู่อีก 15 ตัว เท่ากับว่าหาก “เสี่ย 2 น.” ดีดนิ้ว สั่งกดปุ่ม ยอดแน่นอน ชัวร์ป้าบของ “ภูมิใจไทย” ขณะนี้คือ 77-79 ที่นั่ง

ขณะที่ “พลังประชารัฐ” ยอดเมื่อก่อนเก่า 118 ที่นั่ง หลังขับกลุ่ม “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ไป 21 คน กระโดดลงกลางทาง มุดรั้ว “ภูมิใจไทย” ซะ 3 ราย ทำให้ยอดพรรคแกนนำเหลือ 97 เสียง

มากกว่า “ภูมิใจไทย” เพียง 10 ที่นั่ง แต่เล่นการเมือง ไม่ใช่ทำการค้า “พรรคเสี่ย น.” วางอุเบกขาตีบทกำนันเฉย ไม่ยอมเจรจาต่อรองใหม่ ตามสัดส่วน ส.ส.ที่งอกเพิ่มขึ้นมาใหม่

เหนือสิ่งอื่นใด “ภูมิใจไทย” ยืนถูกทื่ถูกเวลา ได้กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม-สาธารณสุข-การท่องเที่ยวและกีฬา “อู่ข้าว-อู่น้ำ” อุดมสมบูรณ์

การเมืองมองขาดทะลุแก่น คัดค้านการต่อขยายสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู สนับสนุนส่งเสริมการปลูกกัญชา

เพียบไปทุกองค์ประกอบ ทั้ง “กระสุน-กระแส”

เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่า “บิ๊กตู่” จะยุบสภาวันนี้ วันพรุ่ง หรืออยู่ครบเทอม

“ภูมิใจไทย” วางตัวเลขกลมๆ ไว้ที่ 100 ที่นั่งบวก-ลบ เป็นรองแค่ “เพื่อไทย”

ใครต่อใครจึงพากันแปลกประหลาดใจว่า ทำไม “ภูมิใจไทย-อนุทิน ชาญวีรกูล” ไม่มีชื่ออยู่เบอร์ต้นๆ ของ “นิด้าโพล”