เป็นภาระประชาชน/เมนูข้อมูล นายดาต้า

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

เป็นภาระประชาชน

 

สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่แทนประชาชน กำลังจะออก พ.ร.ป.ระกอบรัฐธรรมนูญ หรือที่เรียกว่ากฎหมายลูกเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง ส.ส.ที่รัฐธรรมนูญให้ใช้ 2 ใบ ส.ส.เขตใบหนึ่ง กับบัญชีรายชื่ออีกใบ

มีข่าวว่าจะออกมาในทางสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน

คือ ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน ผู้สมัคร ส.ส.เขตจะได้เบอร์คนละเบอร์กับของพรรคที่ตัวเองสังกัด

พรรคเบอร์หนึ่ง ผู้สมัครอีกเบอร์ ทำให้ประชาชนยุ่งยากที่จะต้องจดจำ

เหตุผลที่ทำเช่นนี้ตามที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ คือต้องหาทางสร้างความยุ่งยากให้ประชาชนเพื่อป้องกัน “พรรคเพื่อไทย” หาเสียงได้ง่าย หวังว่าจะให้พรรคการเมืองพรรคนี้ได้ ส.ส.น้อยลง

ว่ากันแบบตรงไปตรงมาคือ ใช้อำนาจที่เหนือกว่าเขียนกติกาเพื่อกีดกันคู่แข่งให้มากที่สุด หรือเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบที่สุด

แม้จะต้องสร้างความยุ่งยากให้ประชาชนซึ่งตัวเองพล่ามอยู่ตลอดเวลาว่า “มุ่งรับใช้”

ถ้าถามว่าทำไมต้องคิดแต่ใช้การสร้างกติกาเพื่อความได้เปรียบและกีดกันคู่แข่ง

คำตอบก็คือ เพราะสู้ในเรื่องความสามารถ และผลงานไม่ได้

สิ่งที่พิสูจน์ความจริงข้อนี้คือ

“ทักษิณ ชินวัตร” หมดอำนาจไปตั้งแต่ปี 2549 แต่จนป่านนี้ ยังไม่มีปัญญาที่จะลบล้างศรัทธาที่ประชาชนมีให้ “ทักษิณ”

คุยโม้โอ้อวดว่าไม่มีใครเก่งกว่า แต่ทั้งที่อำนาจเต็ม ครองอำนาจมายาวนาน แต่เหมือนไม่มีทางที่จะสร้างความเชื่อถือในหมู่ประชาชนได้

ซ้ำยิ่งนับวันยิ่งเสื่อมทรุด

 

อย่าง “นิด้าโพล” สำรวจล่าสุดในคำถาม “จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี”

ที่มากสุดคือร้อยละ 27.62 ตอบว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

หมายความอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากที่ทำๆ กันอยู่ทุกวันนึ้ ประชาชนไม่รู้สึกประทับใจ

สะท้อนถึงความสามารถ และผลงานในความรู้สึกของประชาชน

และเมื่ออันดับรองลงมา 13.42 เป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

และตามด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีปัจจุบัน ร้อยละ 12.76

ตามด้วย “แพทองธาร ชินวัตร” ร้อยละ 12.53

น้อยกว่า พล.อ.ประยุทธ์แค่นิดเดียว

ในความเป็นจริงคือ ทั้ง “พิธา” และ “แพทองธาร” ยังไม่ได้มีโอกาสในการสร้างผลงานในการบริหารประเทศอะไรเลย

ผิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่มีโอกาสมาแล้ว 8 ปี

แต่กลับไม่มีท่าอะไรที่จะเรียกศรัทธาประชาชนได้เลย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหัวหน้า หรือผู้นำพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ซึ่งทั้งที่มีวาสนาในอำนาจมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ผลโพลออกมาแทบมองไม่เห็นศรัทธาที่ประชาชนมอบให้

 

อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ เมื่อถึงเวลาต้องให้ประชาชนเป็นผู้เลือก ว่าจะให้ศรัทธาต่อใคร

นักการเมืองที่ไม่สามารถสร้างผลงานให้เกิดความนิยมชมชอบได้ จึงรวมหัวกันสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน โดยคิดว่าจะเป็นวิธีการที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบ และกีดกันผู้ที่ประชาชนศรัทธาได้ไม่มากก็น้อย

หาทางให้ตัวเองได้เปรียบ โดยไม่นึกสักนิดว่าทำให้ประชาชนยุ่งยาก