ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 เมษายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | คุยกับทูต |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ
ชนัดดา ชินะโยธิน
eku7575@gmail.com
คุยกับทูต ระห์หมัด บูดีมัน
สัมพันธ์อินโดฯ-ไทย
72 ปี แห่งความเข้าอกเข้าใจ (จบ)
ไทยกับอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์มายาวนาน พระมหากษัตริย์ไทยเคยเสด็จดินแดนที่เป็นประเทศอินโดนีเซียปัจจุบันถึงสามพระองค์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยือนสามครั้งในปี พ.ศ.2414 (1871), พ.ศ.2439 (1896) และ พ.ศ.2444 (1901)
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เยือนในปี พ.ศ.2472 (1929)
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ เยือน (State Visit) ในปี พ.ศ.2503 (1960) โดยได้เสด็จไปกรุงจาการ์ตา เมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก จังหวัดยอกยาการ์ตา และจังหวัดบาหลี
เอกภาพท่ามกลางความหลากหลาย
(Bhinneka Tunggal lka)
ดินแดนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เต็มไปด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ ท่ามกลางภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะนับหมื่นเกาะ แต่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวโดยการปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐ ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จากการประนีประนอม ให้เกียรติและรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
อินโดนีเซียมีวันหยุดราชการที่เป็นวันสำคัญของศาสนาอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นอิสลามอยู่ด้วย
เช่น วันวิสาขบูชาของศาสนาพุทธ วันคริสต์มาสของศาสนาคริสต์
และวันดิวาลี เทศกาลแห่งแสงสว่างของศาสนาฮินดู ฯลฯ
ความร่วมมือกับอาเซียนประเด็นทะเลจีนใต้
ขณะที่โลกเผชิญกับโรคระบาด ปักกิ่งกลับขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้อย่างกว้างขวาง ทะเลจีนใต้ ถือเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในภูมิภาค และหลายประเทศ ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะและแนวปะการังเพื่อเข้าไปใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในน่านน้ำแถบนี้
นายระห์หมัด บูดีมัน (HE. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ชี้แจงว่า
“อินโดนีเซียมีจุดยืนร่วมกับอาเซียนเกี่ยวกับทะเลจีนใต้เพื่อรักษาความสงบสุขในภูมิภาค และยินดีต่อการเจรจาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามปฏิญญา (Code of Conduct : COC) ว่าด้วยแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน-จีนในฐานะคู่เจรจา อินโดนีเซียเล็งเห็นถึงความสำคัญของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ด้วยการมีความยับยั้งชั่งใจและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดความขัดแย้งอย่างสันติ”
“อาเซียนและจีนต่างมีเอกสารที่เรียกว่าปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration of the Conduct of Parties in the South China Sea : DOC) แล้ว ตั้งแต่ปี 2002 โดย DOC มีเป้าหมายเพื่อการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างอาเซียนและจีน เป็นการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ตลอดจนความร่วมมือการปฏิบัติทางทะเล”
“ในทางปฏิบัติ อ้างถึง DOC อาเซียนและจีนได้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังและให้คำมั่นในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (The United Nations Conference on the Law of the Sea : UNCLOS) ปี 1982 ซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานประการหนึ่งในการบริหารเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 บรรดาผู้นำอาเซียนและจีนเห็นพ้องต้องกันอย่างมากว่า COC จะต้องได้รับการสรุปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึง 1982 UNCLOS”
“นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือทางทะเลระหว่างอาเซียนและจีนอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคทะเลจีนใต้ เพื่อมาตรการในการสร้างความเชื่อมั่นและอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วจากการประชุมเชิงปฏิบัติการอาเซียน-จีนว่าด้วยการสื่อสารและนำทางอย่างปลอดภัยในทะเลจีนใต้เมื่อปี 2018”
“อินโดนีเซียยังได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการจัดการความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ในปี 2019 ซึ่งมุ่งพัฒนาความร่วมมือให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ในการสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในทะเลจีนใต้”
“การประชุมเชิงปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทูตแบบไม่เป็นทางการ เพื่อสนับสนุนความพยายามในการเจรจาในแนวทางแรก (ระหว่างรัฐบาล) ให้เกิดความวางใจ (มาตรการสร้างความมั่นใจ) ระหว่างฝ่ายต่างๆ ในภูมิภาค”
ความท้าทายที่นายระห์หมัด บูดีมัน กำลังเผชิญนับตั้งแต่เป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย
“แน่นอนที่สุด การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ได้สร้างความท้าทายอย่างมาก ไม่เพียงแต่สำหรับผมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนอื่นๆ ของโลกด้วย”
“ผมมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สอง และไม่นานหลังจากนั้น ประเทศไทยก็ประสบกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สาม ซึ่งทำให้รัฐบาลไทยต้องออกมาตรการที่เข้มงวด รวมถึงการล็อกดาวน์สถานประกอบการบางแห่ง สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ การชุมนุมในที่สาธารณะ และขอให้ประชาชนทำงานที่บ้าน (WFH)”
“สถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ ทำให้เราต้องมีการปรับเปลี่ยน ใช้นโยบายการทำงานที่บ้าน 100% โดยมีการประเมินเป็นครั้งคราว และติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างใกล้ชิด”
“การปรับเปลี่ยนอีกประการหนึ่งคือ โปรแกรมที่หลากหลายของเราได้ดำเนินการแบบเสมือนจริง เช่น การพบปะกับชุมชนของเราในประเทศไทยและเมืองหลวงของเรา ที่ประเทศอินโดนีเซีย ตลอดจนกับคู่ค้าของเราที่นี่”
“ผมเป็นประธานการประชุม UNESCAP โดยมีการจัดกิจกรรมบางอย่างบนแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย เช่น การส่งเสริมวัฒนธรรมชาวอินโดนีเซีย หรือการสัมมนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ”
“เริ่มรู้สึกโล่งใจเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นมากในไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งทำให้เราสามารถจัดประชุมและกิจกรรมจริงๆ โดยไม่ต้องออนไลน์ได้บ้าง”
“อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดการแพร่ระบาดและการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดโอไมครอนอย่างรวดเร็ว ทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการปรับกิจกรรมของเรากันใหม่ ซึ่งผมเชื่อว่าความท้าทายนี้จะไม่ยุติไปในเร็ววัน แต่เราต้องสามารถอยู่กับมันได้โดยปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านสุขภาพอย่างเข้มงวด”
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในหน้าที่การงาน
“ผมมีชีวิตในฐานะนักการทูตมากว่า 30 ปี งานที่ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติ มีทั้งที่สถานทูตและสถานกงสุลอินโดนีเซีย ประจำกรุงเฮก เมืองเพิร์ธ กรุงเวียนนา และนครนิวยอร์ก”
“ได้พบว่าการเดินทางจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่ผมได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต แตกต่างกันไปตามแบบฉบับของแต่ละประเทศ ได้เกิดความคิดใหม่ๆ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย เช่น วัฒนธรรม ศิลปะ อาหาร และภูมิทัศน์”
“ผมมีโอกาสได้พบผู้คนใหม่ๆ และสร้างมิตรภาพกับคนเหล่านั้น ประสบการณ์ที่ได้รับเกินกว่าคำบรรยาย อันยากที่จะลืมเลือน และได้หล่อหลอมให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้”
“มาตอนนี้ ผมก็ตั้งตารอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆ ในประเทศไทย เพื่อเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน เช่นเดียวกัน” •
ประวัติ
นายระห์หมัด บูดีมัน
(H.E. Mr. Rachmat Budiman)
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย
เกิด : 23 ธันวาคม 1959 ที่เมือง Tasikmalaya ในจังหวัดชวาตะวันตก
สถานภาพ : สมรสกับนาง Reitanty Budiman มีธิดา 1 คน
ประสบการณ์การทำงาน
2020-ปัจจุบัน : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำราชอาณาจักรไทย
2017-2019 : ผู้ตรวจการทั่วไป กระทรวงต่างประเทศ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
2012-2017 : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สถานทูต/คณะผู้แทนถาวรของอินโดนีเซียประจำกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
2008-2012 : ผู้อำนวยการฝ่ายสนธิสัญญาและกฎหมายทางดินแดน ความมั่นคง และการเมืองระหว่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ
2007-2008 : เลขานุการ อธิบดีกรมสารนิเทศและการทูตสาธารณะ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ
2007-2007 : ผู้ประสานงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะผู้แทนถาวรอินโดนีเซียประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
2004-2006 : ผู้ประสานงานฝ่ายการเมือง สถานทูต/คณะผู้แทนถาวรของอินโดนีเซีย ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
2002-2004 : รองผู้อำนวยการฝ่ายการเจรจาทางทะเล กรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ
1997-2001 : เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล สังคม-วัฒนธรรม สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย
1995-1997 : หัวหน้าฝ่ายกฎหมายอากาศและอวกาศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ
1991-1995 : เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล สังคม-วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
1989-1991 : หัวหน้าฝ่ายกิจการทั่วไป ฝ่ายข้อมูล สังคม-วัฒนธรรม กรมพหุภาคี
การศึกษาและฝึกอบรม
1985 : นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยแห่งอินโดนีเซีย (University of Indonesia)
1986 : การฝึกอบรมนักการทูตระดับต้น
1997 : การฝึกอบรมนักการทูตระดับกลาง
2002 : การฝึกอบรมนักการทูตอาวุโส ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรม กระทรวงต่างประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย