ครูพันธุ์เหมาะ นักเรียนพันธุ์ใหม่ (1)

สมหมาย ปาริจฉัตต์

8/12/2557
13.33 น.

ถึงนักเรียนเพาะพันธุ์ปัญญาอันเป็นที่รักทุกคน

ครูตัดสินใจส่งความในใจผ่านจดหมายฉบับนี้ถึงพวกเราทุกๆ คน เพราะบางครั้งครูรู้สึกว่าการเขียนมันสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ครบถ้วน มากกว่าการพูด ครูก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงจุดไหนดี แต่ที่ตัดสินใจส่งจดหมายฉบับนี้เพราะต้องการขอบใจสำหรับกำลังใจที่หลายๆ คนส่งถึงครูและอยากจะขอโทษที่ช่วงนี้ครูรู้สึกท้อแท้กับอะไรหลายๆ อย่าง การทำงานหนักมันไม่ได้ทำให้ครูรู้สึกท้อ แต่การทำงานโดยมองไม่เห็นจุดหมายปลายทางและปราศจากความสุขมันทำให้ครูเริ่มเหนื่อยกับการต่อสู้

ครูยังเชื่อมั่นว่าเพาะพันธุ์ปัญญากับ RBL เป็นเครื่องมือทางการศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่ครูเคยใช้มา เพราะสามารถสร้างทักษะการเรียนรู้และทักษะชีวิตให้กับนักเรียนได้มากที่สุด แต่ครูรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่ครูจะทำให้ทุกคนเชื่อในแบบที่ครูเชื่อได้ การเปลี่ยนระบบจากความเคยชินไปสู่ระบบใหม่ที่เป็นสิ่งใหม่ ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับใครอีกหลายๆ คน จึงเห็นได้ว่าหลายคนยังคงพันธนาการตัวเองให้ยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคย มากกว่ากล้าออกไปเผชิญความเปลี่ยนแปลง

การเริ่มต้นกับเพาะพันธุ์ปัญญา ครูเริ่มต้นมันด้วย “ใจ” และพลัง “ศรัทธา” ครูดำเนินการด้วยความเชื่อ ความอดทน และความรัก ทุกอย่างขับเคลื่อนผ่านการเสียสละ และยึดผลประโยชน์ส่วนรวมและนักเรียนเป็นหลัก ครูทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ เพื่อต้องการให้หลายๆ คนได้เห็นว่าผลที่เกิดขึ้นมันคุ้มค่ากับการเหนื่อยจริงๆ แต่สุดท้ายครูก็ได้พบว่า การเปลี่ยนระบบของความเคยชินเป็นเรื่องยากเกินกำลังครูตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะทำได้ เมื่อพลังกายและพลังใจเริ่มลดลง ความเหน็ดเหนื่อยท้อแท้ก็เกิดขึ้น หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ครูพยายามต่อสู้กับความคิดทั้งทางบวกและลบของตัวเองอย่างหนัก ณ ตอนนี้ครูตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าครูจะพยายามสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาในตัวเองกลับมาอีกครั้ง

ครูจะยึดมั่นในสิ่งดีๆ ที่ครูทำอีกครั้ง เพราะอาชีพครูคือสิ่งที่ครูเลือกเอง ครูคงจะมาท้อถอยแบบนี้ไม่ได้ เพราะมีนักเรียนอีกหลายคนที่รอครูอยู่ ถ้านักเรียนคนใดเชื่อมั่นในตัวครู และเชื่อมั่นในเพาะพันธุ์ปัญญา ขอให้สู้ไปพร้อมกันอีกครั้งนะคะ

รักทุกคนมากค่ะ

 

ภาพข้อความในจดหมายค่อยๆ ปรากฏขึ้นในจอวิดีทัศน์หน้าเวที พร้อมเสียงบรรยายเนื้อหาเรียงไปตามลำดับ สะกดผู้เข้าร่วมประชุมเต็มห้องให้ติดตามตั้งแต่บรรทัดแรก

เป็นจดหมายที่ครูเขียนถึงนักเรียนของเธอ เพื่อปลุกปลอบ ให้ความคิด ให้ขวัญกำลังใจให้พวกเขาเดินหน้าสู้ต่อไปกับการทำโครงงานเพื่อเพาะพันธุ์ปัญญา พัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดผลบรรลุเป้าหมาย เกิดความเปลี่ยนแปลงในตัวเองให้จงได้

ครูตรีนุช เพชรแสนงาม ครูเพาะพันธุ์ปัญญาแห่งปี 2557 ครูแกนนำรุ่นที่ 2 ของโรงเรียนแจ้ห่มวิทยา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เจ้าของจดหมายฉบับนั้น

การดำเนินงานโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาประจำปีที่ 3 จัดประชุมแสดงผลงานของ ปี 2558 ระดับประเทศ ที่ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2559 ครูตรีนุชมีภารกิจที่โรงเรียน ไม่ได้เดินทางมาร่วม

แต่สาระในจดหมายถึงนักเรียนของเธอ สอดรับเข้ากับหัวข้อหลักในเวทีประชุมประจำปีที่ 3 ครูพันธุ์เหมาะ นักเรียนพันธุ์ใหม่ ได้อย่างกลมกลืน

 

ครับ เป็นรายการประชุมวิชาการทางการศึกษาระดับชาติที่จัดติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี จนถึงครั้งที่ 3 ปีนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งนักเรียน ครูแกนนำเพาะพันธุ์ปัญญาจากกว่า 80 โรงเรียนทั่วทุกภาค อาจารย์มหาวิทยาลัย คนหนุ่มคนสาวจากศูนย์พี่เลี้ยง 8 ศูนย์ คณะทีมประสานงานกลางจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ผู้บริหารองค์กรพันธมิตร ธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยอื่นๆ รวมนับพันคน

เสียดายก็แต่ ผู้บริหารนโยบายการศึกษา ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารสถานศึกษาอีกมากมาย ที่พลาดโอกาสการเข้าร่วมรับรู้ ร่วมฟัง ร่วมคิด ร่วมเสนอแนะ ปีแล้วปีเล่า

การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพัฒนาต่อยอดคุณภาพครู คุณภาพโรงเรียน ด้วยกระบวนการใหม่ๆ ที่เห็นผลชัดเจนจึงยังเป็นไปในวงจำกัด เท่าที่กำลังความสามารถของผู้ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับนักเรียน ครู และโรงเรียน จะทำเท่าที่ทำได้

อย่างกลุ่มคนที่ยังยืนหยัดเดินหน้าผลักดันกระบวนการเพาะพันธุ์ปัญญาให้ก้าวรุดหน้าต่อไป จากเด็กและครู รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 3 จนถึงรุ่นที่ 5 ก่อนปิดโครงการ โรงเรียน องค์กรพันธมิตร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ใครจะสานต่อเพาะพันธุ์อย่างไร คำตอบอยู่ในอนาคต

 

แต่ที่แน่นอน ผลที่เกิดขึ้นแล้วจากรุ่นแรกถึงรุ่นล่าสุด ครูแกนนำ นักเรียนห้องเพาะพันธุ์ปัญญาและห้องอื่นๆ ในทุกโรงเรียนที่ดำเนินกิจกรรม ปรับเปลี่ยนวิธีคิด จิตปัญญา ปรับกระบวนการเรียนการสอนของครู จากการทำโครงงาน นักเรียนเป็นผู้ปฏิบัติ ครูเป็นผู้สนับสนุน กระตุ้น ปลุกเร้า ปลอบขวัญให้กำลังใจ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพวกเขายังดำรงคงอยู่ต่อไป กลายเป็นครูพันธุ์เหมาะ นักเรียนพันธุ์ใหม่

สะท้อนจากรายการบนเวทีนำเสนอผลงาน ใช้การแสดงละครเป็นเครื่องมือสื่อความหมาย ทั้งเนื้อหาสาระและบรรยากาศ แสดงถึงพัฒนาการของผู้ร่วมโครงการในการพัฒนาการศึกษา การเรียนรู้ของครู นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้อง รุ่นแล้วรุ่นเล่า

ดังคำกล่าวในวิดีทัศน์ “ไม่มีอะไรยั่งยืนเท่ากับก่ารเพาะปัญญา” ของ ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ประธานกรรมการกำกับกิจการ ธนาคารกสิกรไทย

และคำพูดของหัวหน้าหน่วยจัดการกลางโครงการ รศ.ดร.สุธีระ ประเสริฐสรรพ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

“การดำเนินงานปีที่ 3 พบพัฒนาการของครูที่ดีมาก ครูยอมรับกระบวนการของเรา สามารถพัฒนาทั้งทักษะชีวิต ให้นักเรียนคิดได้ด้วยตัวเอง แสวงหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง”

แต่เมื่อครูสุธีระก้าวขึ้นเวทีอีกครั้ง ครูบอกว่า การประชุมปีนี้มีผู้คนเข้ามาร่วมเยอะ ทีวียังคงมีคำถาม เพาะพันธุ์ปัญญา มันคือะไร

คืออะไร และเนื้อหาการประชุมตั้งแต่รายการแรก และรายการต่อๆ ไป น่าสนใจ น่าฟัง เรียกเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและน้ำตา ของผู้เข้าร่วมได้เหมือนทุกปีที่ผ่านมาอย่างไร ไว้เล่าตอนต่อไป