สงครามรัสเซียบุกยูเครน วาจาสะท้านโลกของไบเดน ‘ปูตินคืออาชญากรสงคราม’ (War Criminal)/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

สงครามรัสเซียบุกยูเครน

วาจาสะท้านโลกของไบเดน

‘ปูตินคืออาชญากรสงคราม’ (War Criminal)

 

16 มีนาคม 2022 บีบีซีรายงานว่านายกรัฐมนตรียุโรปตะวันออก 3 ชาติ ได้แก่ โปแลนด์, สโลเวียเนีย และเช็ก ยอมเสี่ยงอันตรายนั่งรถไฟจากโปแลนด์เข้ามาที่กรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครน เพื่อแสดงพลังสนับสนุนจากทั้ง 3 ประเทศต่อยูเครน

นายกรัฐมนตรี 3 ประเทศได้ร่วมหารือกับประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนเมื่อเย็นวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ขณะมีการประกาศเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟ และได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องในกรุงเคียฟตลอดเวลา นับเป็นผู้นำต่างประเทศคณะแรกที่มาเยือนกรุงเคียฟนับจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022

นายกรัฐมนตรีเช็กได้บอกกับชาวยูเครนว่า “พวกคุณไม่ได้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง พวกเราชื่นชมความกล้าหาญของพวกคุณ พวกเรารู้ว่าคุณกำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเรา คุณไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ประเทศของพวกเราจะยืนเคียงข้างคุณ”

นายกรัฐมนตรีโปแลนด์บอกว่า ได้แจ้งการเดินทางให้รัสเซียรับรู้ล่วงหน้าแล้ว

ข่าวใหญ่อีกข่าวคือการปราศรัยของประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ ส่งมาทางวิดีโอลิงก์จากเคียฟ เมื่อ 16 มีนาคม 2565

ผมติดตามการปราศรัยครั้งนี้ เปิดทีวีดูการถ่ายทอดสดที่เริ่มตั้งแต่ราว 9 โมงเช้าเวลาในสหรัฐ แล้วเก็บรายละเอียดจาก The New York Times 17 มีนาคม 2565 มารายงานดังนี้

ครึ่งแรกของการปราศรัย เซเลนสกีกล่าวเป็นภาษายูเครเนียน มีการดร๊าฟคำพูดเป็นภาษาอังกฤษ

คั่นกลางด้วยการส่งภาพวิดีโอการทำลายล้างของกองทัพรัสเซียต่อเมืองต่างๆ ในยูเครน เป็นภาพใหม่ที่ไม่เคยปรากฏต่อสายตาชาวโลกมาก่อน ภาพประชาชนที่บาดเจ็บและล้มตายจากการโจมตีของรัสเซีย เรียกน้ำตาจากสมาชิกรัฐสภา ล้วนเป็นภาพที่เห็นแล้วหัวใจสลาย (heart breaking)

ส่วนครึ่งหลังเป็นการปราศรัยของเซเลนสกีเป็นภาษาอังกฤษโดยตรง ไม่ต้องใช้ล่าม

เซเลนสกีในชุดเสื้อคอกลมสี olive green นั่งเคียงข้างกับธงชาติยูเครน เขาเริ่มต้นคำปราศรัยด้วยการกล่าวอ้างถึงการที่อเมริกาเคยถูกรุกรานกรณี Pearl Harbor ในสงครามโลกครั้งที่สอง “เมื่อท้องฟ้าของพวกคุณปกลุมด้วยสีดำของฝูงบินที่เข้าโจมตี” และกรณี 9/11/2011 “เมื่อผู้บริสุทธิ์ถูกโจมตีทางอากาศ” เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ยูเครนถูกรัสเซียโจมตี

เซเลนสกีขอให้อเมริกาและพันธมิตรช่วยทำหน้าที่เพื่อมนุษย์ธรรม (a moral duty) ช่วยปกป้องผู้บริสุทธิ์ด้วยการประกาศเขต “ห้ามบิน” “a no-fly zone” เหนือน่านฟ้าประเทศเขา เพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศจากรัสเซีย

“ผมขอร้องให้คุณทำมากขึ้น” (I call on you to do more) เซเลนสกีเรียกร้องจู่โจมไปยังหมู่ประเทศศิวิไลซ์ของโลก

เซเลนสกีส่งสารตรงถึงไบเดนว่า

“ผมหวังว่าคุณจะเป็นผู้นำของโลก การเป็นผู้นำของโลกหมายความว่า เป็นผู้นำของสันติภาพ”

จบคำปราศรัยของเซเลนสกี สมาชิกรัฐสภาทั้ง 2 พรรคต่างยืนขึ้นปรบมือ (standing ovations) ยาวนาน ให้ผู้นำยามสงครามคนนี้

ใครกล่าวหาว่า เซเลนสกีเป็นประธานาธิบดีที่โง่เขลา เขาจบปริญญาโทจาก Kyiv National Economic University (LLB) ฟังจากคำปราศรัยแล้วต้องยอมรับว่า เซเลนสกีนั้น “ไม่ธรรมดา”

 

ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ไบเดนกล่าวปราศรัยระบุถึงเซเลนสกีว่า “โดดเด่นด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวในการเผชิญหน้ากับการรุกรานที่โหดร้าย”

ไบเดนบอกว่า ได้ปรึกษากับเหล่านายพลแล้ว อเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือยูเครน 650 ล้านเหรียญตั้งแต่ก่อนเกิดสงคราม โดยส่งให้ในรูปอาวุธประเภทต่างๆ (ระบุชนิด) พอเกิดสงครามก็ให้ความช่วยเหลือทันที 350 ล้านเหรียญ เมื่อวันเสาร์ 12 มีนาคม 2565 ให้ความช่วยเหลือเพิ่ม 200 ล้านเหรียญ และจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มอีก 800 ล้านเหรียญ พร้อมจับปากกาเซ็นอนุมัติความช่วยเหลืออีก 800 ล้านเหรียญ

ความช่วยเหลือรอบล่าสุดเป็นอาวุธขนาดเล็ก (small arms) 7,000 กระบอก, กระสุนและลูกระเบิด 20 ล้านชุด, อาวุธต่อต้านยานเกราะขนาดเบา 1,000 ชุด, ชุดประจำกายต่อต้านรถถัง 25,000 ชุด และหมวกเหล็กนิรภัย (helmets) 25,000 ใบ พร้อมแพ็กเกจความช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ

รวมความช่วยเหลือให้ยูเครนขณะนี้ 2,000 ล้านเหรียญ เป็นความช่วยเหลือจากอเมริกาล้วนๆ พันธมิตรยังไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรมากมายนอกจากการส่งอาวุธจาก 17 ประเทศเมื่อเริ่มสงคราม

สัปดาห์นี้ ไบเดนจะเดินทางไปร่วมประชุมกับผู้นำนาโตที่สำนักงานใหญ่นาโตที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ต้องติดตามดูว่า ไบเดนจะโน้มน้าวนาโตได้อย่างไรบ้าง

สิ่งที่เซเลนสกียังไม่ได้จากการปราศรัยครั้งนี้คือ เครื่องบินมิกซ์ 29 หนึ่งฝูงที่โปแลนด์จะมอบให้ผ่านอเมริกา ทั้งนี้ อเมริกายังไม่อยากจะเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรงเพราะเรื่องฝูงบินนี้ จึงยังไม่อนุมัติ แต่ก็มีเสียงจากสมาชิกวุฒิสภาว่า อเมริกาต้องแสดงความกล้าหาญมอบฝูงบินให้ยูเครนไว้ป้องกันตัวเองได้แล้ว

อีกสิ่งที่เซเลนสกียังไม่ได้จากอเมริกาคือการประกาศให้ยูเครนเป็นเขตห้ามบิน (no – fly zone) ชึ่งหมายความว่ายูเครนจะไม่ถูกโจมตีทางอากาศจากรัสเซียอีกต่อไป อเมริกาหลีกเลี่ยงการประกาศเขตห้ามบิน เพราะไม่ต้องการเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง

 

ไบเดนกล่าวว่า ปูตินก่อให้เกิดความน่าสะพรึงกลัวในการบุกทำลายล้างยูเครนอย่างน่าสยองขวัญ (horror on Ukraine)

“ทิ้งระเบิดอาคารอพาร์ตเมนต์, แผนกสูติกรรม, โรงพยาบาลต่างๆ อย่างน่าสยดสยอง”

“ผมคิดว่า เขา (ปูติน) คืออาชญากรสงคราม” (I think he is a war criminal)

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารระดับสูงกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีรัสเซียคืออาชญากรสงครามจากการบุกยึดยูเครน – The New York Times 17 มีนาคม 2565

วันศุกร์ 18 มีนาคม 2565 ไบเดนประชุมออนไลน์สายตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ไบเดนเตือนสีและประเทศบริวารว่า อย่าให้ความสนับสนุนทางทหารต่อรัสเซียในสงครามบุกยูเครน มิฉะนั้นจีนจะต้องร่วมรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

สี จิ้นผิง ตอบไบเดนว่า “วิกฤตยูเครนเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการเห็น”

ตามการระบุของสำนักข่าวซิงหัว บอกว่า “ความขัดแย้งและการเผชิญหน้า ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะได้รับความสำคัญจากใคร”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปักกิ่ง วางจีนไว้ที่ตำแหน่งผู้ประสานสันติภาพ (peacemaker) และลดความขัดแย้งในระหว่างเหล่าผู้นำกรณียูเครนให้ลดน้อยที่สุด

ในการประชุม videoconference ร่วม 2 ชั่วโมง เน้นเรื่องวิกฤตยูเครน ไบเดนได้ชี้แจงให้สี จิ้นผิง ทราบชัดเจนถึงจุดยืนกรณีรัสเซีย, การแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจ, การประณามจากทั่วโลกเรื่องการรุกรานยูเครนและการถอนธุรกิจต่างชาติจากการลงทุนในตลาดรัสเซีย

เป็นที่น่าสังเกตว่าในการลงมติประณามรัสเซียใน UN จีนไม่ได้ออกเสียงสนับสนุนรัสเซีย เพียงแต่มีมติไม่ออกเสียง แสดงว่าจีนสงวนท่าทีไม่สนับสนุนรัสซียออกนอกหน้า

ก่อนหน้านั้น ในระหว่างการแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง ขณะที่ NBC ถ่ายทอดสดการเดินพาเหรดของนักกีฬายูเครนเข้าสนาม กล้องจับที่ใบหน้าของปูตินที่นั่งดูอย่างเฉยเมย

Fox News บอกว่า สี จิ้นผิง ขอร้องให้ปูตินเลื่อนการบุกยูเครนออกไป รอให้จีนปิดโอลิมปิกฤดูหนาวก่อน

จีนปิดโอลิมปิกฤดูหนาว 20 กุมภาพันธ์ รัสเซียบุกยูเครน 24 กุมภาพันธ์

 

ขอเล่าถึงความย่อยยับของเมือง Mariupol ในยูเครน

เมืองนี้เป็นเมืองท่าและเมืองตากอากาศริมทะเล Azov Sea เมื่อรัสเซียยึดไครเมียในปี 2014 เหล่าศิลปินและนักธุรกิจต่างหลบหนีจากไครเมียย้ายมาตั้งหลักที่เมือง Mariupol

Mariupol มีประชากร 300,000 คน ความสำคัญเหมือน Virginia Beach ในอเมริกา

เมื่อรัสเซียยึดเมืองนี้ไม่ได้ จึงทำลายเมืองนี้ให้ย่อยยับ 80% ของตัวเมืองถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดวันละ 50-100 เที่ยว ที่โรงละครมีคนหลบภัยอยู่ห้องใต้ดิน 1,000 คน เขียนป้ายที่พื้นดินหน้าโรงละครเป็นภาษารัสเซียนมองเห็นจากบนอากาศว่า “เด็ก-อย่าทิ้งระเบิด” ก็ยังถูกทิ้งระเบิด คนล้มตายจำนวนมาก

วันจันทร์ 14 มีนาคม 2565 นักจัดรายการทีวีช่อง Chanel 1 State TV ของรัสเซียจัดรายการสด มีการชูป้ายประท้วงสงครามยูเครน No War เป็นภาษาอังกฤษและภาษารัสเซียนออกอากาศ

สตรีรัสเซียนผู้กล้าหาญนี้ชื่อ Marina Ovsyannikova เธอให้สัมภาษณ์ CNN ว่า “เป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะอยู่ในความเงียบเฉยอีกต่อไป ฉันต้องการบอกให้โลกรู้ว่า ชาวรัสเซียนไม่ต้องการสงคราม คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการสงคราม ชีวิตเราเปลี่ยนชั่วข้ามคืนเมื่อเกิดสงคราม ถึงแม้ว่าเราจะต้องอยู่ภายใต้การบัญชาของเครมลินก็ตาม”

“สำหรับฉัน ชีวิตฉันเปลี่ยนไปตลอดกาลนับแต่วันที่ออกอากาศ”

เธอโดนปรับเป็นเงิน 300 เหรียญจากการละเมิดออกอากาศครั้งนั้น

ขอปรบมือให้ Marina Ovsyannikova สตรีรัสเซียนผู้กล้าท้าทายเครมลิน