อาชญา ข่าวสด

 

สางต่อปมแตงโมดับ

นิติเวชโชว์ซีทีสแกน

ไม่มีแผล-ฟันไม่หัก

แม่คาใจ-ขอผ่ารอบ 2

 

ถือว่าใกล้เต็มทีแล้ว สำหรับบทสรุปของคดีดาราสาวแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่ตกจากสปีดโบ๊ต เป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิต

แม้จะยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ แต่จากกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก็เป็นไปตามลำดับ

พยายามคลี่คลายทุกอย่างโดยไม่เร่งรัด เพื่อตอบคำถามและชี้แจงสังคมให้ได้ว่าวันดังกล่าวเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทั้งข้อสังเกตต่างๆ ทั้งข้อมูลจากกู้ภัยว่าวันที่พบร่างนั้น แตงโมมีบาดแผลที่ใบหน้าและฟันหัก

จนต้องชี้แจงแถลงไขว่าข้อเท็จจริงเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งผลพิสูจน์บาดแผลที่ต้นขาขวา ว่าแม้เกิดก่อนจะเสียชีวิต แต่ก็ไม่ได้เป็นสเาหตุการตาย

อย่างไรก็ตาม มาถึงจุดที่ครอบครัวและทนาย ยุติงานฌาปนกิจไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อยื่นเรื่องให้ผ่าพิสูจน์อีกรอบ

ถือเป็นเรื่องดีที่ควรจะทำให้สิ้นสงสัย หมดความคลางแคลงใจในสังคม

เชื่อว่าคงไม่นาน จะสรุปผลได้อย่างเป็นทางการ

โชว์ซีทีสแกน-คลี่คดีแตงโม

หลังจากงานไว้อาลัยดาราสาว แตงโม นิดา ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม ที่คริตจักรเสรีภาพกรุงเทพ แขวงและเขตสะพานสูง กทม. โดยกำหนดการเดิมจะมีพิธีฌาปนกิจ ที่คริสตจักรเมธอดิสท์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในวันที่ 14 มีนาคม ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วยการตัดสินใจของนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม

โดยนางภนิดาประกาศกลางพิธีในวันที่ 12 มีนาคม ว่าจะเลื่อนพิธีฌาปนกิจไปก่อน

ทั้งนี้ เนื่องจากยังติดใจร่องรอยบาดแผลและรอบช้ำ พร้อมมอบหมายให้นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ปรึกษาทางคดี ทำหนังสือถึงพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ขอให้อายัดศพเพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง

ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม นางภนิดาพร้อมนายกฤษณะ และนายเดชา เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรับฟังรายละเอียดในการชันสูตรพลิกศพของแตงโม

หลังจากรับฟังคำชี้แจงนานกว่า 3 ชั่วโมง นางภนิดาพร้อมทีมทนายก็ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชน โดยนายเดชาระบุว่า ทุกข้อสงสัยทางตำรวจตอบทุกคำถาม ทั้งถูกตีหัว ฟันหลอ ถูกทำร้ายบนเรือ ไม่เป็นความจริง ตามที่สื่อโซเชียลสงสัย เพราะดูภาพถ่ายศพฟันยังอยู่ครบ

ซึ่งในการสืบสวน ตำรวจระบุว่าสอบปากคำไปแล้ว 95 ปาก มีกล้องวงจรปิดมากมาย และคลิปต่างๆ ในโซเชียล 160 คลิป กำลังสวบสวนอยู่ จะนำคลิปไปทำให้ชัดขึ้น และต้องรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน 19 ราย เช่น ชิ้นเนื้อ กล้องวงจรปิด ตำรวจยังไม่สรุปคดี ถ้ามีหลักฐานไปถึงใครบนเรือก็แจ้งข้อหาเพิ่ม

แต่ขณะนี้มีเพียงข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ส่วนประเด็นแผลต้นขาลึกถึงกระดูกก็ไม่เป็นความจริง ตรวจแล้วไม่พบเศษเหล็ก ทางนิติเวชบอกว่าแผลเกิดจากของมีคมและเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดบนเรือหรือหลังตกเรือ ส่วนการเน่าเปื่อยเป็นไปตามปกติ ภาพที่หลุดออกไปเกิดจากถ่ายก่อนทำความสะอาด

ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ ถ่ายทั้งก่อนและหลัง ทำความสะอาดเพื่อชันสูตรศพ ทำให้เห็นเหมือนเป็นรอยช้ำ ซึ่งมีการทำความสะอาด และลอกผิวหนังพบว่าไม่มีรอยช้ำใดๆ

สาเหตุการเสียชีวิตคือจมน้ำ ขาดอากาศหายใจ แผลที่ขาไม่ได้ลึกถึงกระดูก และไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เสียชีวิต ตามที่มีการแชร์ในโซเชียล

ทั้งนี้ แพทย์ได้นำผลซีทีสแกนศีรษะและใบหน้าของแตงโมมาแสดง ทั้งโครงสร้างกะโหลก ใบหน้า ช่องปาก รากฟันว่าไม่มีร่องรอยหัก กระดูกไม่มีรอยแตกใดๆ

เป็นอีก 1 ปมสงสัยที่คลี่คลาย

แม่ติดใจขอผ่าพิสูจน์รอบ 2

อย่างไรก็ตาม นายเดชาระบุว่า การชันสูตรศพครั้งที่ 2 ทางคุณแม่ยังขอให้ดำเนินต่อไป เพื่อไขข้อข้องใจของสังคม ขณะนี้ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบนเรือ แต่ตำรวจขอให้ปิดไว้เป็นเรื่องในสำนวน หลักฐานยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายบนเรือ เบื้องต้น เรื่องปัสสาวะท้ายเรือตามที่คนบนเรืออ้างนั้น ตำรวจไม่ได้ให้ความสำคัญลงลึกขนาดนั้น อาจถูกตัดทิ้งไป

ขณะที่นางภนิดากล่าวว่า ยังเชื่อมั่นตำรวจ แต่แม่เหนื่อย สำหรับ 5 คนบนเรือ ตำรวจจะต้องเรียกสอบอีกครั้งเพราะพูดไม่ตรงกัน ยังติดใจเรื่องกระติกโกหกว่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่กลับมีคลิปกระติกพาลูกไปว่ายน้ำ ส่วนเรื่องคดีขอให้เป็นเรื่องของตำรวจ ให้อภัยทุกคน ทั้งกระติก ไม่ขอเก็บมาให้รกสมอง แต่การให้อภัยไม่เกี่ยวกับเรื่องคดี

“ในสื่อโซเชียลก็อโหสิกรรม ให้อภัยโซเชียล 100 เปอร์เซ็นต์ อยากให้ทุกคนมองมุมใหม่ อย่ามองว่าแม่หิวเงิน หิวแสง แม่ทำเพื่อแตงโม”

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มีนาคม ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของนักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อขอหนังสือไปรับศพ น.ส.แตงโม นิดา จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ส่งไปตรวจชันสูตรรอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศตร์ กระทรวงยุติธรรม

ต่อมาวันที่ 15 มีนาคม นางภนิดาเดินทางมารับศพแตงโมที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อนำไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยจะดำเนินการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ในวันที่ 17 มีนาคมนี้

พร้อมระบุว่า สำหรับการคาดหวังในการผ่าพิสูจน์รอบ 2 นั้นก็ไม่ได้คาดหวัง ในส่วนของข้อสงสัยในบาดแผลของน้องนั้น เท่าที่ดูในวิดีโอจากที่ประชุม หากมีจุดไหนที่สงสัย ทางเจ้าหน้าที่ก็จะขยายให้ดูจุดต่างๆ อย่างละเอียดพร้อมกับตอบข้อสงสัยทุกจุดอย่างมีเหตุผลทุกเรื่อง

ขณะที่กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ประเด็นสงสัยที่ขอให้ผ่าใหม่ คือ รอยไหม้บริเวณหน้าอก เรื่องฟัน ศีรษะ และบาดแผลที่ขา รวมทั้งการตรวจเลือดหาสารตกค้าง โดยคณะกรรมการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 15 ท่าน มีมติเอกฉันท์ให้ผ่าพิสูจน์อีกครั้งในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 14.00 น.

โดยจะเชิญคณะกรรมการจากภายนอกที่เป็นแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาร่วมกันประชุมก่อนการชันสูตร และจะเชิญแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ในครั้งแรกมาร่วมสังเกตการณ์

ยืนยันว่าทุกอย่างจะโปร่งใสเชื่อถือได้

จี้รับผิดชอบแพร่เฟกนิวส์

ทั้งนี้ การนำไปสู่การพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนหนึ่งเกิดจากกรณีที่ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ อดีตพระเอก เปิดเผยในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ระบุว่า วันเกิดเหตุที่พบศพของแตงโมนั้นมีบางสิ่งบางอย่างบนในหน้าน้อง มีบาดแผล ดวงตาข้างซ้ายถลนออกมา แต่ข้างขวาช้ำเลือดช้ำหนองไม่เท่ากัน ขณะที่เห็นว่าฟันของแตงโมหลอไปซี่หนึ่ง ซึ่งไม่ได้พูดเพราะรอให้กระบวนการตรวจสอบเกิดขึ้น แต่หลังจากผลการชันสูตร ไม่มีเรื่องราวดังกล่าว จึงต้องออกมาเปิดเผยเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบผลชันสูตรศพของแตงโม ไทด์ เอกพันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า รู้สึกเฉยๆ เพียงแต่ให้กำลังใจครอบครัวของน้องแตงโม ซึ่งตนเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในครั้งนี้ เห็นว่าแม่ของแตงโมแฮปปี้ก็โอเค และขอยืนยันว่า ตนพูดไปตามที่เห็น เห็นฟันแตงโมหักไปครึ่งซี่ และมีแผลบวมช้ำที่ใบหน้า ตาทั้ง 2 ไม่เท่ากัน

ยืนยันไม่เคยพูดว่าฟันคู่หน้าของน้องหัก และที่พูดก็ไม่ได้ลบล้างคดี หรือลบล้างผลชันสูตรของแตงโม พร้อมยอมรับและเคารพผลการชันสูตรของนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ

ด้านนายเดชาโพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” ระบุว่า เรียนพี่น้องสื่อมวลชน บุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีแตงโม และได้มีการแสดงความคิดเห็นที่เป็นเท็จ หรือนำเสนอข้อมูลเท็จผ่านโซเชียล จะรับผิดชอบอย่างไรต่อสังคม?

ส่วน ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรรมการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า อยากถามว่าอาสาสมัครกู้ภัยมีจริยธรรมของอาสาสมัครกู้ภัยหรือไม่ เพราะเห็นอาสาท่านหนึ่งพูดอธิบายวินิจฉัยเกี่ยวกับศพเหมือนอย่างเป็นแพทย์นิติเวช

อีกข้อขอตำหนินักข่าวที่ไปทำข่าวเรื่องนี้กับอาสาท่านนั้นด้วย คือท่านคิดว่าการสัมภาษณ์ผลการตรวจศพควรทำกับอาสา มากกว่าแพทย์นิติเวชที่ผ่าเหรอ

จริงๆ ตนเคารพอาสามาก ขอบคุณอาสาหลายๆ คน ที่เวลาไปตรวจที่เกิดเหตุช่วยในการตรวจศพและขนศพออกมา บางเคสก็ยากลำบากมากจริงๆ นับถือความมีน้ำใจในหลายๆ ครั้ง แต่ตนไม่เห็นด้วยกับอาสาที่ทำแบบนี้ ขอให้ฝากช่วยๆ เตือนกันหน่อย

เป็นเหตุที่เกิดจากข้อมูลที่สับสน ซึ่งหวังว่าแนวทางคลี่คลายคดีของตำรวจจะสามารถอธิบายทั้งหมดแก่สังคมได้

ไม่ให้ต้องพึ่งพาข่าวลือที่ห่างไกลข้อเท็จจริงเช่นนี้อีก