ศก.ไทยในภาวะช็อก จากสงครามยูเครน/เทศมองไทย

เทศมองไทย

 

ศก.ไทยในภาวะช็อก

จากสงครามยูเครน

 

สงครามยูเครน ซึ่งไม่เพียงยังไม่ยุติเท่านั้น แต่ยังส่อเค้าทวีความรุนแรงและมีแนวโน้มจะขยายวงมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย ส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก ผ่านทางราคาน้ำมันดิบที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรง

ยิ่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา อังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศแซงก์ชั่นรัสเซียเพิ่มเติม โดยพุ่งเป้าไปที่ภาคพลังงานของรัสเซีย ซึ่งรวมทั้งการห้ามนำเข้าน้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน เมื่อ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ทุกฝ่ายก็คาดการณ์ตรงกันว่า น้ำมันดิบอาจพุ่งถึง 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือกว่านั้น

การแซงก์ชั่นทำให้บริษัทชิปปิ้งขนาดใหญ่ของโลก อย่าง Maersk และ CMA CGM เลิกข้องแวะกับท่าเรือในรัสเซียไปโดยสิ้นเชิง

ทั้งหมดนั่นทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วเอเชีย ที่ส่วนใหญ่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและการส่งออก พลิกกลับจากการโงหัวขึ้นจากวิกฤตโควิด กลายเป็นวกดิ่งลงอีกครั้งแบบกะทันหัน เมื่อสงครามของวลาดิมีร์ ปูติน สร้างภาวะช็อกแผ่กระจายออกไปทั่วโลก

ทอมมี่ วู นักวิเคราะห์ของออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ เชื่อว่าราคาพลังงานที่พุ่งพรวดกับระบบการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัวลง จะถ่วงให้การขยายตัวชาติในเอเชียชะลอลง แม้จะไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับที่เกิดขึ้นกับรัสเซียเองหรือในยุโรปก็ตามที

 

ในส่วนของประเทศไทย รายงานของอัลจาซีรา เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ระบุเอาไว้ว่า ภาวะช็อกจากการบุกยูเครนของรัสเซีย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคเศรษฐกิจจำเพาะบางส่วน นั่นเนื่องเพราะการส่งสินค้าออกไปยังรัสเซียคิดสัดส่วนเป็นเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดเท่านั้น

เพย์ตัน เอ็นโล ผู้ส่งออกชาวอเมริกันที่เข้ามาปักหลักส่งออกสินค้าจากไทยไปยังรัสเซีย อเมริกาและยุโรปมานานกว่า 10 ปี บอกกับอัลจาซีราว่า บริษัท ปูรีไทย โปรดิวซ์ ที่ตนเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่แทบจะเสียตลาดรัสเซียไปโดยสิ้นเชิง

“ลูกค้าในรัสเซียบอกกับผมว่า คนที่นั่นไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวของเครื่องใช้จำเป็น จะเหลืออะไรสำหรับผลไม้หายากอย่างมะม่วง ทุเรียน หรือเงาะ”

ในขณะเดียวกัน เครื่องบินแอโรฟล็อตก็เต็มไปด้วยชาวรัสเซียที่แห่กันกลับจากประเทศไทยจนแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับส่งสินค้าเหมือนอย่างเคย

นั่นหมายความด้วยว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งกำลังจะฟื้นเมื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นปัญหาไปด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากรัสเซียคือนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางมาไทยในช่วงเวลานี้

หลังปูตินสั่งบุกยูเครน นักท่องเที่ยวเหล่านี้จำนวนมากพากันยกเลิกโปรแกรมที่เหลือ เพื่อกลับไปจัดการธุรกิจหรือภารกิจอื่นๆ ที่บ้านเกิด หรือไม่ก็ต้องตัดการท่องเที่ยวตามแผนที่เหลือไปทั้งหมดหลังจากค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลง ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในไทยแพงขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ในชั่วข้ามคืน

ส่วนที่ยังอยู่ในรัสเซียและต้องการมาพักผ่อนที่ไทยก็แทบเป็นไปไม่ได้ เมื่อต้องเผชิญกับความยุ่งยากในการชำระเงิน หลังจากธนาคารในรัสเซียถูกตัดขาดจาก “สวิฟต์” ระบบชำระเงินระหว่างธนาคารนานาชาติ

 

อัลจาซีราอ้างคำบอกเล่าจากบริษัทชิปปิ้งรายย่อยที่ท่าเรือแหลมฉบังว่าลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าออก ถูกเรียกเก็บค่าเซอร์ชาร์จเพิ่มขึ้นอีก 4 เปอร์เซ็นต์แล้วจากปัญหาราคาน้ำมัน ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้แน่นอนว่าต้องถูกผลักไปให้ผู้บริโภคที่กำลังต่อสู้กับภาวะข้าวของแพงมาเป็นแรมเดือนแล้ว

อัลจาซีราบอกว่า กระทรวงพาณิชย์เพิ่งประกาศว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.8 เปอร์เซ็นต์ สูงเกินคาด และสูงที่สุดในรอบ 13 ปี ก่อนที่จะย้ำว่าตัวเลขที่ย่ำแย่กว่านี้จะยังรออยู่ข้างหน้า และทำให้ความคาดหวังที่ว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวหดหายไปจนหมดสิ้นแล้ว

ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นปิดท้ายกับอัลจาซีราไว้ว่า ด้วยสถานการณ์เชิงภูมิรัฐศาสตร์, ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก, ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดในไทยที่ยังไม่สิ้นสุด และค่าระวางส่งสินค้ายังคงอยู่ในระดับสูงเอามากๆ สร้างความเสียหายให้กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยแน่ๆ

เขาย้ำไว้ว่า เราจะยังเจ็บปวดกันต่อไปตลอดทั้งปีนี้ และมีแนวโน้มว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าอีกด้วย