ส่องทัพเรือ ยุค ‘ผบ.ทร อิมพอร์ต’ จาก ‘บิ๊กเฒ่า’ สู่ ‘บิ๊กจอร์จ’ วางสเป๊กทายาท ศึก ผช.ทูต ยก ‘บิ๊กโต้ง’ สุภาพบุรุษ/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

ส่องทัพเรือ ยุค ‘ผบ.ทร อิมพอร์ต’

จาก ‘บิ๊กเฒ่า’ สู่ ‘บิ๊กจอร์จ’

วางสเป๊กทายาท

ศึก ผช.ทูต

ยก ‘บิ๊กโต้ง’ สุภาพบุรุษ

 

กองทัพเรือยังคุกรุ่น หลังบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. เสนอย้ายบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผช.ผบ.ทร. ข้ามไปเป็นรองเสธ.ทหาร บก.ทัพไทย สลับกับบิ๊กจอร์จ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ เพื่อให้กลับมาเป็น ผบ.ทร.คนต่อไป

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ปฏิกิริยาของ พล.ร.อ.สุทธินันท์ ที่แม้จะมาประชุมร่วมกับ พล.ร.อ.สมประสงค์ตามปกติ แต่ก็เลี่ยงที่จะพูดคุย หรือรับประทานอาหารร่วมด้วย

ส่วนในวันประชุม ผบ.เหล่าทัพเมื่อ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ที่มีนายทหารระดับ 5 เสือต้องมาร่วมด้วยนั้น พล.ร.อ.สุทธินันท์ขอลาประชุม เพราะต้องกักตัวจากสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด ที่ก็ทำให้ได้เก็บตัว ไม่พบเจอใคร จนกระทั่งคำสั่งโยกย้ายได้ประกาศออกมาเมื่อค่ำ 16 มีนาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ในการประชุมเดียวกัน พล.ร.อ.เชิงชาย ว่าที่ ผบ.ทร.คนต่อไป มาประชุมด้วย โดยมีนายทหารเรือหลายนายมาแอบแสดงความยินดี บรรยากาศชื่นมื่น

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังพุ่งไปที่ พล.ร.อ.สมประสงค์ ว่าการตัดสินใจโยกย้ายครั้งนี้เป็นการโยกย้ายที่ไม่เหมาะสม เพราะตำแหน่ง ผช.ผบ.ทร. อาวุโสกว่ารองเสธ.ทหาร จึงไม่ควรย้ายสลับกัน และเป็นการโยกย้ายกลางปี

แต่มีรายงานว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ได้ชี้แจงเหตุผลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมแล้ว และพูดคุยกับแกนนำ ตท.20 เพื่อนร่วมรุ่นที่สนิทสนมใกล้ชิดกับนายกฯ เพิ่อเคลียร์ทางสำหรับการโยกย้ายครั้งนี้แล้ว รวมทั้งกับบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุดด้วย

เพราะการโยกย้ายในลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นในกองทัพเรือมาก่อนแล้ว เมื่อครั้งที่บิ๊กตั้ม พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ (ตท.13) เป็น ผบ.ทร. ได้เด้งบิ๊กต๊อก พล.ร.อ.ธนะรัตน์ อุบล เพื่อนร่วมรุ่น ตท.13 ที่จบนายเรือญี่ปุ่น จากเสธ.ทร. ข้ามไปเป็นรองเสธ.ทหาร มาแล้ว ซึ่งสร้างความฮือฮาอย่างมากในเวลานั้น เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร และเป็นโยกย้ายกลางปีเช่นกัน

แต่เป็นที่รู้กันว่า เพื่อจัดวางทายาทอำนาจในเวลานั้น โดยมีการดึงบิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง (ตท.14) รองเสธ.ทหาร ที่จบนายเรือเยอรมนี กลับมาเป็น ผช.ผบ.ทร. จนถูกมองว่า พล.ร.อ.ณรงค์พลจะกลับมาเป็น ผบ.ทร. และทำโครงการเรือดำน้ำที่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมในเวลานั้น สั่งปัดฝุ่นใหม่

โดยมีการขยับบิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ (ตท.15) จาก ผช.ผบ.ทร. ลงมาเป็นเสธ.ทร.เลยด้วยซ้ำ เพื่อเปิดทาง พล.ร.อ.ณรงค์พลนั่ง ผช.ผบ.ทร.

แต่ท้ายที่สุดแล้ว จากที่ พล.ร.อ.ณรงค์พลเป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ทร.คนใหม่ ก็มีเหตุพลิกผัน เพราะ พล.ร.อ.ไกรสรได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนตัว ผบ.ทร.คนใหม่ จาก พล.ร.อ.ณรงค์พลเป็น พล.ร.อ.ณะแบบฉิวเฉียด ก่อนนำโผทหารขึ้นทูลเกล้าฯ

ทำเอา พล.ร.อ.ณรงค์พลอกหัก และไม่อาจล้างอาถรรพ์ตระกูลบางช้าง ที่พลาดเก้าอี้ ผบ.ทร.มา 2 เจเนอเรชั่น สมัยบิ๊กต้อม พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง พี่ชาย มาแล้วครั้งหนึ่ง

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเขิงแพทย์

เมื่อเคยมีการโยกย้ายเช่นนี้มาแล้วในอดีต พล.ร.อ.สมประสงค์จึงทำบ้าง และไม่ใช่ครั้งแรกที่ย้ายตำแหน่งหลัก และอิมพอร์ตทหารเรือจากกองบัญชาการกองทัพไทย กลับมาในโผกลางปี

แต่ทว่า การโยกย้ายครั้งนั้น เป็นระดับพลเรือเอก ที่มีอาวุโสเท่ากัน ต่างจาก พล.ร.อ.เชิงชาย ที่อาวุโสน้อยกว่า พล.ร.อ.สุทธินันท์ ทั้งยศและตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม อาจเรียกได้ว่า พล.ร.อ.สมประสงค์กำลังสร้างประเพณีในการดึงทหารเรือที่ถูกย้ายไปอยู่นอก ทร. ให้กลับมาเป็น ผบ.ทร. เหมือนเช่นที่ตนเองได้ย้ายจากรองปลัดกลาโหม ข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทร. มาแล้ว ด้วยพลังเพื่อน ตท.20

เพราะในอดีตก็เคยมีบิ๊กอุ๊ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ (ตท.6) ได้โยกจากรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กลับมาเป็น ผบ.ทร.มาแล้ว ด้วยพลังรุ่น และพลังทางการเมือง

จนเกิดการเรียกขานถึง ผบ.ทร.อิมพอร์ต นำเข้ามาจาก บก.ทัพไทย และกลาโหม และในระดับ บก.ทัพไทย บิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ก็มีไอเดียที่ว่า ให้นายทหารเรือที่จะเป็น ผบ.ทร.ในอนาคต ไปเติบโตที่ บก.ทัพไทย เพื่อเรียนรู้งาน 3 เหล่าทัพ และงานในระดับบน ก่อนที่จะส่งกลับไปเป็น ผบ.ทร. เหมือนมีตำแหน่งที่เหล่าทัพหมุนเวียนส่งมาอยู่ บก.ทัพไทย และจะต้องส่งกลับ ทร.เมื่อครบเทอม อยู่หลายตำแหน่งมาก่อนแล้ว

แต่ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่มีหลักประกันใดที่จะรับประกันได้ว่า ถูกเอ็กซ์พอร์ตส่งออกไปแล้วจะได้ถูกอิมพอร์ตกลับมา เพราะทุกอย่างเป็นเพาเวอร์เพลย์ เมื่อใครขึ้นมามีอำนาจ ก็ย่อมใช้อำนาจ จัดวางตัวทายาทตามที่เห็นว่าเหมาะสม

พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์

ทว่า ครั้งนี้เป็นการย้ายสลับเก้าอี้แบบข้ามห้วย ครั้งแรกระหว่างรองเสธ.ทหาร กับ ผช.ผบ.ทร. และถูกมองว่า เป็นการล้างบางบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร.

เนื่องจาก พล.ร.อ.สุทธินันท์คือน้องรักของ พล.ร.อ.ลือชัย และถูกมองว่า พล.ร.อ.ลือชัยดันขึ้นมาอย่างไม่เหมาะสมนัก คือ จาก ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 มาเป็น ผบ.กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ตัดหน้าบิ๊กเคี่ยม พล.ร.อ.สุรชา เคี่ยมทองคำ รุ่นพี่ ตท.19 ที่เป็นรอง ผบ.กร. อยู่ ส่วน พล.ร.อ.สุทธินันท์เป็นรุ่นน้อง ตท.22

จึงมีรายงานว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ได้ยกมาเป็นอีกเหตุผลในการโยกย้ายคราวนี้ และยังมองว่า คุณสมบัติ พล.ร.อ.สุทธินันท์ไม่เหมาะสมที่จะเป็น ผบ.ทร. เพราะไม่ได้เป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือในต่างประเทศ เพราะ พล.ร.อ.สมประสงค์เองก็เคยเป็น ผช.ทูตทหารเรือ ประจำกรุงโรม อิตาลี

เพราะธรรมเนียมทหารเรือนั้น คนที่จะเป็น ผบ.ทร. จะต้องพรรคนาวินเท่านั้น และเคยเป็นผู้การเรือ ยิ่งเรือลำใหญ่ เรือสำคัญ ยิ่งทำให้โปรไฟล์ดี เพราะเรือใหญ่ก็ต้องคุมกำลังพลมาก การบริหารจัดการยากกว่าเรือเล็ก และต้องเคยเป็น ผช.ทูตทหารในต่างประเทศมา และเป็น ผบ.หน่วย ทั้งหน่วยรบ และฝ่ายอำนวยการ ก่อนขึ้น 5 ฉลามทัพเรือ

แต่ในอดีต ก็มี ผบ.ทร.หลายคนที่ไม่เคยเป็น ผช.ทูตทหาร เช่น พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ และ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่ ผบ.ทร.ต้องเคยเป็น ผช.ทูตทหารมาก่อน

 

พล.ร.อ.สุทธินันท์นั้นเคยเป็นผู้บังคับการเรือหลวงกูด แต่ต่อมาเติบโตบนฝั่งเป็นส่วนใหญ่ ที่หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ที่ทำให้ใกล้ชิด พล.ร.อ.ลือชัย ที่เคยอยู่ สอ.รฝ.

หากย้อนดูเส้นทางเติบโตของ พล.ร.อ.สุทธินันท์ จะพบว่า เป็นสายบู๊บนบก เคยเป็นผู้บังคับกองพันรักษาฝั่งที่ 11 กรมรักษาฝั่งที่ 1 ผู้บังคับการกองขนส่งฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 เสนาธิการ สอ.รฝ. รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 ผอ.สำนักอำนวยการ ปร.มน.กองทัพเรือ เจ้ากรมการเงินทหารเรือ ก่อนกลับคุมกำลังทางเรือ เป็นผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1

แต่คนไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ ในเมื่อ พล.ร.อ.สมประสงค์ต้องการจะดึง พล.ร.อ.เชิงชายกลับมา เพื่อรอเป็น ผบ.ทร.ต่อในตุลาคมนี้ไว้แล้ว จึงต้องมีเหตุผลประกอบ แม้จะมีแคนดิเดต ผบ.ทร.อยู่เดิมถึง 4 คนก็ตาม

ดังนั้น แคนดิเดต ผบ.ทร.ที่มีอยู่จึงถูกมองข้าม แม้แต่บิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ (ตท.21) รอง ผบ.ทร. ที่อาวุโสสูงสุด เพราะเป็นพลเรือเอกพิเศษแล้ว และเคยได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร.มาครั้งที่แล้ว แต่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นชื่อ พล.ร.อ.สมประสงค์ แต่บิ๊กโต้งก็เงียบ ไม่เคยปริปากบ่น

จนน้องๆ ทหารเรือและเพื่อน ตท.21 ชมว่าเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ

พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ

หากย้อนประวัติ พล.ร.อ.ธีรกุล ก็ผ่านการอยู่เรือมาหลายลำ ทั้ง ร.ล.สุครีพ และ ร.ล.หาญหักศัตรู และเป็นผู้บังคับการเรือ เรือ ต.15 และเรือ ต.97 ก่อนขึ้นฝั่งเป็นรองผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาการผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 สอ.รฝ. เคยเป็นรองเสนาธิการ ฐานทัพเรือพังงา ผู้อำนวยการกองส่งกำลังบำรุง ทัพเรือภาคที่ 3 ก่อนมาเติบโตในสำนักปลัดบัญชีทหารเรือ จนเป็น ผอ.สำนักงบประมาณ และปลัดบัญชีทหารเรือ และเสธ.ทร.

ด้วยเหตุที่ถูกมองเป็นสายตรง พล.ร.อ.ลือชัยที่ผลักดันขึ้นมาจากปลัดบัญชี ทร. เป็นเสธ.ทร. แถมไม่ได้เป็น ผช.ทูตทหารด้วย จึงถูกปิดโอกาส แม้จะมีความชอบธรรมหากยึดหลักอาวุโส แบบที่ พล.ร.อ.สมประสงค์ได้กลับมาเป็น ผบ.ทร.

โยกย้ายปลายปีนี้ พล.ร.อ.ธีรกุล (ตท.21) จะถือว่าอาวุโสสูงสุด แต่คาดว่า พล.ร.อ.สมประสงค์จะต้องเตะออกไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด เปิดทางให้ พล.ร.อ.เชิงชายขึ้น ผบ.ทร.

และสร้างตำนาน รอง ผบ.ทร. ที่ไม่ได้เป็น ผบ.ทร.อีกคน

 

จนกล่าวกันว่า เก้าอี้รอง ผบ.ทร.อาถรรพ์ น้อยคนนักที่จะได้ขึ้น ผบ.ทร. มีแค่บิ๊กเข้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย เท่านั้น ที่ขึ้นจากรอง ผบ.ทร. แต่ก็ด้วยพลังของ ตท.13 ที่ส่งต่อเก้าอี้ ผบ.ทร.กันมาตั้งแต่บิ๊กหรุ่น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ต่อด้วย พล.ร.อ.ณรงค์ และ พล.ร.อ.ไกรสร

เพราะส่วนใหญ่ตำแหน่งรอง ผบ.ทร.นี้มักจะเอาคนที่เกษียณพร้อม ผบ.ทร.ขึ้นมานั่ง แล้วเกษียณไปพร้อม ผบ.ทร. แต่คนที่จะเป็น ผบ.ทร. มักจะมาจาก ผช.ผบ.ทร. ดังนั้น พล.ร.อ.สมประสงค์จึงวางตัว พล.ร.อ.เชิงชายให้มาเป็น ผช.ผบ.ทร. เพื่อขึ้น ผบ.ทร.

โดยเฉพาะเสธ.แจ๊ค พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ (ตท.23) เสธ.ทร. ที่ทำงานอย่างเต็มที่ ทุ่มเท ได้รับมอบหมายจาก พล.ร.อ.สมประสงค์เองในการดูแลโครงการสำคัญ รวมทั้งเรือดำน้ำจีน แถมประวัติก็ไม่ธรรมดา เคยเป็น ผช.ทูตทหารเรือ ประจำกรุงนิวเดลี อินเดีย เติบโตมาในกรมยุทธการ ทร. จนเป็นเจ้ากรมยุทธการ ทร. รองเสธ.ทร. และเสธ.ทร. แต่ก็ถูกมองข้าม

ส่วน พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผบ.กองเรือยุทธการ ด้วยความที่เป็นรุ่นน้อง ตท.25 จึงถูกมองข้าม เพราะยังมีอายุราชการถึงปี 2568 แม้โปรไฟล์จะตรงปก เพราะเคยเป็น ผช.ทูตทหารเรือ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ แถมโตมาสายกำลังรบ ทั้งเคยเป็นผู้การเรือหลวงสุโขทัย และเรือหลวงจักรีนฤเบศร ผบ.กองเรือลำน้ำ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพ ก็ตาม แต่ก็คงไม่ใช่ตัวเลือกของ พล.ร.อ.สมประสงค์

โดยคาดว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ ที่แม้จะเป็น ผบ.ทร.แค่ปีเดียว แต่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายได้ 2 ครั้ง จะต้องเล่นใหญ่ ทั้งโผเมษายน และโผตุลาคม ทิ้งทวนก่อนเกษียณ ในการวางทายาทที่จะต่อจาก พล.ร.อ.เชิงชาย

พล.ร.ท.ชลธิศ นาวานุเคราะห์

พล.ร.อ.เชิงชาย หรือจอร์จ 4 ช. เป็น ตท.22 และเคยเป็นหัวหน้านักเรียน และเคยเป็น ผช.ทูตทหารเรือประจำ วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ เติบโตในสายบุ๋น ฝ่ายอำนวยการ ในกรมยุทธการทหารเรือ เคยเป็น ผอ.สํานักกิจการความมั่นคง และรองเจ้ากรมยุทธการ ทร.

แม้ พล.ร.อ.ลือชัย ผบ.ทร.ในขณะนั้น จะตั้งเป็น ผบ.ทัพเรือภาคที่ 3 แต่ พล.ร.อ.เชิงชายไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเด็กบิ๊กลือ เพราะรู้จักสนิทสนมกับ พล.ร.อ.สมประสงค์มาก่อน และเป็น ผช.ทูตทหาร รุ่นเดียวกัน ครอบครัวจึงสนิทกัน

ครั้งนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์จึงดึง ตท.23 ที่เคยเป็น ผช.ทูตทหาร ขึ้นมาจ่อชิงเก้าอี้ในอนาคต ทั้งบิ๊กดุง พล.ร.ท.อะดุง พันธุ์เอี่ยม เจ้ากรมสื่อสารทหารเรือฯ และบิ๊กโอ๋ พล.ร.ท.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เจ้ากรมข่าวทหารเรือ เพื่อเตรียมขึ้น 5 ฉลามทัพเรือ และชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.ในตุลาคม 2566

พล.ร.ท.อะดุง พันธุ์เอี่ยม

พล.ร.ท.อะดุงเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือ ประจำแคนเบอร์รา ออสเตรเลีย พร้อมทำหน้าที่รองผู้ช่วยทูตทหารไทย แคนเบอร์รา และรักษาการผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ ด้วย ส่วน พล.ร.ท.ชลธิศเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำวอชิงตัน ดี.ซี. และทำหน้าที่รองผู้ช่วยทูตทหารด้วย จึงกลายเป็นสเป๊กค ผบ.ทร. ของ พล.ร.อ.สมประสงค์

แต่ที่มากกว่าสเป๊ก หรือคุณสมบัติ คือคอนเน็กชั่น สายสัมพันธ์ของ พล.ร.อ.สมประสงค์ กับ พล.ร.อ.เชิงชาย และ พล.ร.ท.อะดุง และ พล.ร.ท.ชลธิศ ที่เป็นสายเดียวกัน เพราะมีอดีต ผบ.ทร.ที่สนับสนุน เป็นสายอำนาจเดียวกัน และครอบครัวก็สนิทสนมกันด้วย

แต่อยู่ที่ว่า เมื่อ พล.ร.อ.เชิงชายขึ้นมาเป็น ผบ.ทร.แล้ว ในปลายปี 2566 จะทำตามแผนวางทายาทของ พล.ร.อ.สมประสงค์หรือไม่ จะให้ พล.ร.ท.อะดุงเป็น ผบ.ทร.ต่อ 1 ปี หรือว่าให้ พล.ร.ท.ชลธิศขึ้นเป็น ผบ.ทร. 2 ปีเลย เพราะมีความสนิทสนมใกล้ชิดกันมากกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในกองทัพเรือ จึงมองเห็นตัวกันแล้วว่าใครจะเป็น ผบ.ทร.คนต่อไป แล้วใครจะรับไม้ต่อ โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ รมว.กลาโหม ก็ไม่ได้แทรกแซง ล้วงลูกใดๆ จึงเรียบร้อยโรงเรียนสมประสงค์