หน่อโอ่ : ล้านนาคำเมือง

อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “หน่อโอ่”

 

 

หน่อโอ่ คือ หน่อไม้ดองชนิดหนึ่ง ที่เรียก “หน่อโอ่” เพราะเรียกตามกลิ่น “โอ่” ซึ่งมีความหมายว่าเหม็น หรือมีกลิ่นฉุนรุนแรง

“โอ่” แปลว่า มีกลิ่นฉุนแรง และเหม็น เนื่องจากเมื่อดองแล้วหน่อไม้จะมีกลิ่น”โอ่”

คนล้านนานิยมนำหน่อไม้บางพันธุ์เท่านั้นมาดอง เช่น

หน่อไม้รวก Thyrsostachys siamensis Gamble

หน่อไร่ Gigantochloa albociliat (Munro) Kurz

หน่อไม้บง Bambusa nutansWall. ex Munro และ

หน่อไม้ซาง Dendrocalamus strictus (Roxb.) Nees

หน่อไม้ ที่กล่าวมานี้เป็นสมาชิกวงศ์ไผ่ มีลักษณะนิสัยขึ้นเป็นกอและแทงหน่อจำนวนมากอย่างพร้อมเพรียงเวลาฝนตก จึงก่อให้ปัญหาอย่างหนึ่งกับชาวบ้าน คือกินไม่ทัน

คนล้านนาจึงต้องหาวิธีถนอมหน่อไว้ให้กินได้นานๆ

เล่ากันว่าที่มาของ “หน่อโอ่” มาจากการที่คนโบราณล้านนาตัดหน่อไม้มาได้มากเกินไป ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน จึงนำหน่อไม้ที่ยังไม่ได้แกะเปลือกออก โยนลงในน้ำบ้าง โยนลงน้ำโคลน น้ำปลักควายบ้าง โยนลงไปในภาชนะรองน้ำมวกที่ได้จากการแช่ข้าวเหนียวบ้าง

หลังจากนั้น เมื่อกินหน่อไม้สดหมดแล้ว จึงไปเก็บเอาหน่อไม้ที่ทิ้งๆ ไว้ นำมาปอกเปลือก ตัดเอาส่วนที่สกปรกออก ล้างให้สะอาด แล้วต้มกิน

ปรากฏว่าได้รสชาติอร่อยของหน่อไม้ไปอีกแบบหนึ่ง นับเป็นแนวคิดแรกๆ ในการถนอมอาหารสำหรับหน่อไม้

ทุกวันนี้ คนล้านนาก็อาศัยหลักการเดิม และดองหน่อโอ่แบบง่ายมาก คือ นำหน่อไม้ที่ได้มาแกะเปลือกแข็งด้านนอกออกให้หมด ตัดส่วนโคนที่แก่และยอดทิ้งไป

จากนั้นใช้มีดหรือส้อมตามแต่ถนัดมากรีดหน่อเป็นเส้นๆ โดยกรีดจากโคนไปขึ้นไปทางปลายหรือหางหน่อแล้ว เว้นส่วนปลายไว้เพื่อที่ถูกกรีดเป็นเส้น ให้ยังอยู่ติดกันเป็นกระจุก เสร็จแล้วก็นำมาดองด้วยน้ำเปล่าตั้งทิ้งไว้ ง่าย ๆ แบบนี้ ไม่ได้ใช้น้ำโคลน น้ำสกปรกแบบโบราณ

สมัยไม่นานมานี้ คนล้านนายังนิยมใช้น้ำฝนในตุ่มมาทำการดอง ที่สำคัญและแตกต่างจากการดองหน่อไม้แบบอื่นคือ ไม่มีการใส่เกลือแต่อย่างใด โดยทิ้งไว้ 1-2 คืน แล้วแต่ว่าชอบให้เปรี้ยวมากหรือน้อย

หากชอบเปรี้ยวหน่อยก็ดองให้นานหน่อย

เมื่อดองได้ที่แล้วก็นำมาต้มจนสุก สำหรับขั้นตอนนี้สามารถทำได้สองแบบคือ ถ้าไม่ชอบเปรี้ยวให้เทน้ำดองทิ้งแล้วต้มด้วยน้ำเปล่าธรรมดา หากอยากให้เปรี้ยวหน่อยก็ต้มด้วยน้ำที่ใช้ดองได้เลย

การเลือกขนาดของหม้อให้เหลือพื้นที่สำหรับให้ฟองที่ผุดขึ้นมาขณะเดือด และให้หมั่นช้อนฟองทิ้ง การต้มหน่อไม้จะกินเวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เมื่อหน่อไม้สุกดีให้ตักใส่ภาชนะบรรจุ ที่เตรียมไว้แล้ว ปิดปากภาชนะให้สนิททันที ไม่ให้อากาศเข้า ด้วยวิธีนี้จะสามารถเก็บหน่อไม้ดองไว้กินได้อีกนานหลายเดือน

วัตถุประสงค์ในการต้มหน่อก็เพื่อใช้ความร้อนฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และทำลายสารไซยาไนด์

ยาพิษที่หากกินเข้าไปแล้วจะก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว

การกินหน่อโอ่นั้น คนล้านนานิยมกินกับ “พริกดำ”

วิธีทำพริกดำ คือ การนำพริกแห้งเม็ดใหญ่นำมาย่างไฟจนกรอบดีแล้วโขลกกับเกลือ หรือจะใส่ข่าด้วยก็ได้ตามชอบ

สำหรับประโยชน์ของหน่อไม้ นับว่าหน่อไม้เป็นผักที่มีสารเส้นใยสูงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

ในทางยาถือเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายได้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ

สำหรับ “หน่อโอ่” ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ วิธีทำหน่อโอ่เป็นการถนอมอาหารที่ไม่ใช้เกลือจึงไม่มีโซเดียมเหมือนอาหารหมักดองชนิดอื่นๆ

แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับคนเป็นโรคเก๊าต์และโรคไตเนื่องจากหน่อไม้มีกรดยูริกสูงซึ่งไม่เป็นผลดีกับโรคทั้งสอง