Samsung Neo QLED TV Gen-II / เครื่องเสียง : พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

Samsung Neo QLED TV Gen-II

 

ว่างเว้นแบบห่างเหินจากการพูดถึงจอภาพหรือเครื่องรับโทรทัศน์มาพอประมาณ แต่หลายวันก่อนเห็นข่าวจากทางยุโรปบอกว่าช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา Samsung ทางแถบโน้นได้เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในการสั่งจองทีวีรุ่นใหม่ของเขา ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ของจอภาพแบบ Neo QLED ที่เป็นเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ อันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของค่ายกิมจิแบรนด์นี้ โดยจะเปิดรับจองอย่างเป็นทางการตั้งแต่กลางเดือนนี้เป็นต้นไป จนถึงช่วงต้นๆ ของเดือนเมษายน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีกำหนดส่งมอบพร้อมๆ กับยังไม่มีราคาออกมาให้ทราบด้วย มีแต่เพียงรายละเอียดของซีรีส์ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 4K และ 8K พร้อมกับขนาดของจอภาพในแต่ละซีรีส์เท่านั้นเอง

โดยจอภาพแบบที่ว่านั้นได้เปิดตัวไปครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้ว (มกราคม 2021) ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้คนในวงการได้เอาการอยู่ และตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็มีข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ว่าได้พัฒนารุ่นใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ประสบปัญหาความล่าช้าในด้านการผลิต ก็เลยยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ออกมา กระทั่งก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณสัปดาห์ จึงมีข่าวออกมาดังที่ได้แจ้งไว้ข้างต้น

เมื่อคราวที่เจเนอเรชั่นแรกของจอภาพแบบ Neo QLED ปรากฏสู่ตลาดนั้น ได้รับคำชื่นชมอย่างมากทั้งจากผู้บริโภค และบรรดาสื่อสายตรงแขนงนี้ ที่ส่วนใหญ่เมื่อนำไปรีวิวแล้วมักจะให้คำวิพากษ์ทำนองเต็มสิบไม่หัก หรือยกให้เป็นทีวีระดับห้าดาว อะไรแถวๆ นั้น

พร้อมกับตั้งความหวังว่าเมื่อมีพัฒนาการใหม่ออกมา น่าจะสร้างความตื่นตาให้น่าทึ่งยิ่งขึ้นไปได้อีก

กระทั่งมาได้คำตอบแบบเห็นกับตาชัดๆ ก็เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในงานมหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของโลก คือ Consumer Electronics Show หรืองาน CES ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา นั่นละ ทุกสายตาที่เห็นต่างก็ยอมรับกันว่ามันแจ่มจริง แจ๋วจริง ไปตามๆ กัน

แต่ในงานโชว์ที่ว่าก็มีเพียงสินค้ามาจัดแสดงเท่านั้นเอง ไม่มีรายละเอียดอะไรอื่นให้รู้ โดยเฉพาะในแง่ของกำหนดการลงตลาดและราคาค่าตัวที่เป็นประเด็นหลัก

 

แต่ก่อนจะไปถึงเจเนอเรชั่นที่เป็นพัฒนาการล่าสุดดังที่จ่าหัวเอาไว้ ขอย้อนกลับไปถึงที่มาที่ไปของ QLED กันก่อน เพราะเชื่อว่าหลายๆ ท่าน คงรู้จักและได้ยินคำว่า LED TV กันมานานช้าแล้ว และคงสงสัยว่าไอ้เจ้าตัว Q มันคืออะไร มาจากไหน คำตอบก็คือ Q นั้น มาจากคำว่า Quantum Dot ซึ่งซัมซุงนำมาใช้กับพัฒนาการหนึ่งของจอภาพที่ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้กับจอภาพแบบ LED เพราะใช้แหล่งกำเนิดแสง หรือ Backlight แบบเดียวกับ LED ส่วน Neo QLED เป็นพัฒนาการที่ก้าวไปอีกขั้นที่เป็นล่าสุดของค่ายในเวลานี้

โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสำคัญก็คือ แหล่งกำเนิดแสง โดยเปลี่ยนจาก LED : Light-Emitting-Diode ทั่วๆ ไปเป็น Mini LED ซึ่งเป็นหลอดแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม

และด้วยความที่มีขนาดเล็กลงนี่เองทำให้สามารถจัดเรียงเข้ากับแผงจอได้ด้วยความถี่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังวางชิดติดกับแผงจอได้อีกด้วย ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เลนส์กระจายแสงมาช่วยด้วยการครอบหลอดเหมือนแต่ก่อน

ส่งผลให้การรังสรรค์สีสันและแสงเงาของจอภาพสามารถให้ออกมาได้ด้วยความละเอียดมากกว่าจอภาพแบบเดิมๆ ว่างั้นเถอะ

โดยเทคโนโลยีหลักที่ใช้นั้น ซัมซุงเรียกว่า Quantum Matrix Technology ซึ่งสามารถควบคุมการทำงานของแหล่งกำเนิดแสงหรือ Mini Quantum LED ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

คือนอกจะได้ความละเอียดของภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังได้ความคมชัด รวมทั้งได้ค่าคอนทราสต์ (Contrast Ratio) ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ส่งผลให้การแสดงสีดำทำออกได้ดำสนิทยิ่งกว่าเดิมนั่นเอง

 

สําหรับ Neo QLED ที่เป็นพัฒนาการล่าสุดซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่จะลงตลาดในปีนี้ ได้ใช้ Processor หรือชุดประมวลผล Neo Quantum รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภาพได้มากยิ่งขึ้น (ด้วยการใช้จำนวนหน่วยแบ๊กไลต์ที่เพิ่มมากขึ้น) แล้ว ยังเป็นการช่วยไล่ระดับความละเอียดของภาพจากแต่เดิมที่เป็นแบบ 12 bit ขึ้นไปเป็น 14 bit ซึ่งช่วยควบคุมการทำงานของ Mini LED แต่ละตัวได้ดีขึ้น ทั้งยังสามารถปรับความสว่างทั่วแผงหน้าจอได้สูงถึง 16,384 โซน ขณะที่เจเนอเรชั่นแรกที่ออกตลาดเมื่อปีก่อนนั้นทำได้เพียงแค่ 4,096 โซน เท่านั้นเอง

นอกจากนั้น ซอฟต์แวร์ในชุดประมวลผลยังใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Shape Adaptive Light ที่ซัมซุงกล่าวว่าจะทำหน้าที่วิเคราะห์เส้น รูปร่าง และพื้นผิว เพื่อควบคุมแสงที่ปล่อยออกมาจาก Mini Quantum LED ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้ภาพที่มีความสว่างและมีสีสันที่ถูกต้องแม่นยำเพิ่มมากขึ้นด้วย

อีกทั้งยังมีคุณสมบัติใหม่ที่เรียกว่า Real Depth Enhancer ซึ่งเป็นอัลกอริธึ่มชั้นสูงในการช่วยแยกวัตถุภาพออกจากพื้นหลัง แล้วนำมาประมวลผลเพื่อรังสรรค์ภาพด้วยการให้มีมิติทางด้านลึกที่สมจริงมากขึ้น

นอกเหนือไปจากการยกระดับทางด้านภาพแล้ว Neo QLED TV เจนใหม่ ของซัมซุงยังได้เพิ่มประสิทธิภาพทางด้านเสียงควบคู่กันไปด้วย จากรุ่นก่อนที่ใช้ระบบเสียงแบบ OTS : Object Tracking Sound เป็นแบบ OTP : Object Tracking Pro ด้วยการจัดวางตำแหน่งลำโพงเพื่อให้ได้เสียงที่สอดประสานกันดีขึ้น

และที่สำคัญคือเป็นเสียงที่เคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับภาพที่ปรากฏบนจอได้สอดคล้องกลมกลืนกันเป็นอย่างดี เป็นการเพิ่มอรรถรสให้การชมได้ความสุนทรีย์ที่สมจริงยิ่งขึ้นในทุกมิติ ทั้งยังเพิ่มพลังเสียงให้รับรู้ได้ถึงความหนักแน่นมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และยังได้เพิ่มลำโพงที่ยิงเสียงขึ้นด้านบนเข้ามา ซึ่งนั้นหมายความว่ามันรองรับฟอร์แม็ตเสียงแบบ Dolby Atmos ได้ด้วย

 

ทีวีแผงจอภาพเจนใหม่ของซัมซุง ยังมาพร้อมคุณสมบัติในการอัพเกรดการเชื่อมต่อต่างๆ ด้วยตัวเลือกที่มากขึ้น รวมทั้งการตั้งค่าเฉพาะของแต่ละบุคคลตามรูปแบบการใช้งานได้อย่างสะดวก รวมทั้งบางรุ่นของบางซีรีส์ยังเอื้อความสะดวกในการใช้เล่นเกมผ่าน Cloud ได้ และสามารถให้อัตรา Refresh Rate สูงขึ้นถึงระดับ Ultra-High คือ 4K@144Hz

สำหรับจอภาพที่ให้ความละเอียดและความคมชัดแบบ 8K มีอยู่ด้วยกัน 3-Series ที่เป็นรุ่นเรือธงอยู่ในอนุกรม QN900B มีให้เลือก 3 ขนาดจอภาพ คือ 65, 75 และ 85 นิ้ว ตามมาด้วยอนุกรม QN800B มีสามขนาดจอภาพเหมือนรุ่นเรือธง อนุกรมสุดท้ายคือ QN700B มีขนาดจอภาพ 55, 65 และ 75 นิ้ว

ส่วนจอภาพแบบ 4K Neo QLED มี 3-Series เช่นกัน คือ อนุกรม QN95B, QN85B และ QN75B ซึ่งขนาดของจอภาพ 4K มีให้เลือกแบบแยกย่อยมากกว่า เพราะมีตั้งแต่ขนาดเริ่มต้น 43 นิ้ว ไปจนถึงใหญ่สุดที่ขนาด 85 นิ้ว

สำหรับความเคลื่อนไหวของ Neo QLED TV ในบ้านเราที่น่าสนใจก็คือ เมื่อช่วงหลังปีใหม่ไม่นาน ซัมซุงได้นำเข้าทีวีจอภาพเจนแรก ที่มีขนาดใหญ่พิเศษ คือ 98 นิ้ว มาทำโปรโมชั่นโดยลดราคาไปถึงสี่แสนบาท จาก 899,990 บาท เหลือเพียงครึ่งล้าน (ทอนสิบบาท) เท่านั้นเอง

ใครสนใจก็ลองติดต่อสอบถามไปดูกันได้ครับ

รับรองว่าหากฝาบ้านท่านใดใหญ่พอรองรับได้ มันให้ภาพออกมาเต็มตาแบบน่าตื่นตะลึงจริงๆ •