ขอ(หล่อ)ดูก่อน? : โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
———————–
ขอ(หล่อ)ดูก่อน?
———————–

โมเมนตัมการเมือง
ตอนนี้ น่าจะเหวี่ยงไปที่2 พี่น้องชินวัตร “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” และพรรคเพื่อไทย
เหวี่ยงตามความเชื่อว่า “ยุทธวิธีหนี” น่าจะทำให้ตระกูลชินวัตรและเพื่อไทยก้าวสู่ การอวสาน ทางการเมือง
ไม่ต้องดูอื่นไกล นักการเมืองประสบการณ์สูง อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ด้านหนึ่งบอกสังคม อย่าง”หล่อๆ “ว่า ไม่เคยคิดเยาะเย้ย หรือซ้ำเติมน.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย
แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ออกมายืนแถวหน้า ปลุกเร้าให้มีการถอนพาสปอร์ต น.ส.ยิ่งลักษณ์โดยฉับพลัน
และ”ชี้แนะ”อย่างปรารถนาดี แต่ประสงค์ร้ายหรือเปล่า ไม่ทราบ
ให้พรรคเพื่อไทยก้าวข้ามผลประโยชน์ของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง นำความนิยมของประชาชนมาทำงานการเมืองต่อไป
นอกจากนี้ ยัง ทำ “โพลมาร์ค” ถามชาวบ้านรู้สึกอย่างไรกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ “หนี” อีกด้วย
เป็นต้น
อาการเช่นนี้ แม้ไม่ใช่การเยาะเย้ย ซ้ำเติม อย่างที่นายอภิสิทธิ์ว่า แต่ก็ไม่น่าพ้นคำว่า “ขยายผล-ขยายแผล” สักเท่าไหร่
แล้วการ “ขยายผล-ขายแผล” ดังกล่าว ได้ผลหรือเปล่า
ไม่แน่ใจจริงๆ
เพราะ2 พี่น้องชินวัตร “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พากันกบดานเงียบ ส่วนพรรคเพื่อไทยมีแถลงการณ์แสดงความเป็นเอกภาพโชว์
แต่ที่เจี๊ยวจ๊าว กลับกลายเป็นฝ่ายที่ต้องการ “บดขยี้” เสียมากกว่า
“คนกันเอง”ชี้หน้า รัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ว่าเกี๊ยะเซี้ยกับฝ่าย”ชินวัตร”ด้วยการปล่อยให้หนี
มีการตั้งข้อสงสัยไปกันไกล ถึง “เงื่อนไขพิเศษ” ที่ถูกวางไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าสถานการณ์ถูกกำหนดให้เป็นเช่นนี้ เพื่อที่กระบวนการปรองดองจะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้
นักการเมือง พรรคการเมือง จะสามารถร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยเหตุผลแห่งความจำเป็น ของ “เงื่อนไขพิเศษ”
น่าประหลาดใจ ที่คำถามนี้น่าจะพุ่งเข้าหา พรรคเพื่อไทย เพราะเป็น”เงื่อนไขใหญ่”
แต่กลับกลายเป็น พรรคประชาธิปัตย์
และเราก็ได้ ฟังคำตอบหล่อๆจากนายอภิสิทธิ์
“พรรคจะเป็นตัวแทนชุดความคิด ชุดนโยบายในการแก้ปัญหาประเทศ และประชาชนจะเป็นตัวตัดสินว่าสนับสนุนพรรคมากน้อยแค่ไหน ถ้าสนับสนุนมากก็มีโอกาสไปทำงานผลักดันด้วยตัวเอง แต่ถ้าสนับสนุนไม่พอแล้วต้องจัดตั้งรัฐบาลก็จะยึดเนื้อหาสาระที่เสนอกับประชาชนเป็นหลัก จึงต้องดูว่าพรรคเพื่อไทย หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สนับสนุนแนวทางของพรรคหรือไม่ ถ้าแนวทางไปด้วยกันได้ก็ร่วมงานได้ แต่ถ้าแนวทางไปไม่ได้ก็ร่วมงานไม่ได้ ผมไม่สามารถตอบได้ว่าพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ หรือพรรคภูมิใจไทยจะมีท่าทีต่อแนวความคิดของพรรคอย่างไร จนกว่าสิ่งเหล่านี้จะชัดเจน”
คำตอบนี้ เรียกเสียงวิจารณ์อีกครั้ง จาก “คนกันเอง” ในแทบจะทันทีว่า
ประชาธิปัตย์ “แบะท่า”-อภิสิทธิ์ “แบะท่า”
เพราะจากเดิม นายอภิสิทธิ์ และประชาธิปัตย์ดูจะหัวเด็ดตีนขาด ที่จะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย
ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ นั้น แม้จะ “เคมี” เดียวกัน แต่การแสดงออกก็มากด้วยความระวัง
แต่คำพูดของนายอภิสิทธิ์ ครั้งหลังนี้ “ผ่อนคลาย”ลงมาก คึอจะไม่มีคำว่่า “ไม่”
แต่จะเป็นคำว่า “ต้องดู” ก่อนว่าจะร่วมทำงานได้ หรือไม่ได้
นำไปสู่การถูกวิจารณ์ว่า “เกี๊ยะเซี้ยะ”
และการเกี๊ยะเซี้ยะนั้น ประชาธิปัตย์ ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้กำหนดเกม
แต่เป็นไปตามการกำหนดของ “คสช.และรัฐบาล” มากกว่า
อันทำให้ ความคาดหวัง ที่เราจะเห็น นายอภิสิทธิ์ เดินหน้าหล่อนำพรรคประชาธิปัตย์ สู่การเลือกตั้งอย่างมีเป้าหมายว่าพรรคต้องชนะและ จะชูนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง อย่างองอาจ ไม่น่าจะเกิดขึ้น
มีแต่ว่า “ขอ(หล่อ)ดูก่อน”
———————

ติดตามรับชมบทวิเคราะห์เรื่องคุณอภิสิทธิ์ พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษ “พิชัย รัตตกุล” อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.ได้ในรายการมติชนสุดสัปดาห์ จากลิงก์ด้านล่างนี้