การศึกษา/เจาะปมร้อน…ตั้งแม่ทัพ ศธ. “หมอธี” เฟ้นเด็กปั้นหลังบ้าน คสช.?

การศึกษา

เจาะปมร้อน…ตั้งแม่ทัพ ศธ. “หมอธี” เฟ้นเด็กปั้นหลังบ้าน คสช.?

ทันทีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดทัพผู้บริหาร ศธ. ใหม่

โดยย้าย นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ จากตำแหน่งปลัด ศธ. ไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)

โยก นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ออกจากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มาเป็นปลัด ศธ. แทน

และแต่งตั้ง นายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการ กพฐ. ขึ้นมาเป็นเลขาธิการ กพฐ.

ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งในด้านบวก ด้านลบ

ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือเรื่องความโปร่งใส ประสบการณ์การทำงานของผู้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ กพฐ.คนใหม่ที่อาจจะยังมือไม่ถึง

และว่ากันว่า ได้แรงหนุนจากหนึ่งในทีมงานคนสำคัญของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. แรงถึงขั้นลือหึ่งว่ามีหลังบ้าน “บิ๊ก” คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นแรงดันหลัก ที่ส่งให้ต้องผลัก “นายการุณ” ขึ้นนั่งเก้าอี้ปลัด ศธ. เพื่อหลีกทางให้ “นายบุญรักษ์” ทำให้ “หมอธี” ต้องส่ง “นายชัยพฤกษ์” ไปนั่งในตำแหน่งเลขาธิการ สกศ. ซึ่งยังว่างอยู่

ซึ่งก็มีเสียงเล็ดลอดออกมาอีกว่า เพราะนายชัยพฤกษ์สนองงานไม่ได้ดั่งใจเจ้ากระทรวงหลายเรื่อง โดยเฉพาะการสรรหาศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และผู้บริหารระดับต้น ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ หลายตำแหน่ง!!

เรื่องนี้ นพ.ธีระเกียรติ ชี้แจงทันควันว่า คนที่กล่าวหาก็พูดลอยๆ มีหลักฐานหรือไม่ มีมูลไหม ต้องดูการกระทำของคนเป็นหลัก รวมถึงทีมงานของตนก็ไม่มีเข้าไปล้วงลูกแน่นอน มีคนชอบหาว่า เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นเจ้าแม่ หรือที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ศธ. ไปล้วงลูกในการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับต่างๆ ก็ไม่มี เพราะตนปรามไว้หมดแล้ว

แต่ถ้ามีก็เป็นความผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจ อาจไปคุยกับคนโน้น คนนี้ เพื่อหาข้อมูลเท่านั้น ตนไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีใครเข้ามามีอิทธิพลกับตนได้ ใครก็สั่งไม่ได้ วันนี้ถ้านายกรัฐมนตรีสั่งให้ตนไป ตนก็พร้อมไป

ส่วนที่มีคนบอกว่า นายบุญรักษ์ไม่เหมาะสม และมีปัญหาการทุจริตนั้น หากนายบุญรักษ์ไม่ดีจริงตามที่มีการกล่าวหากันทางโซเชียลก็ขอให้ขุดมาว่า ผิดอย่างไร ตนตั้งได้ก็ปลดได้ ตอนนี้มีการสาดโคลนกันมาก และส่วนใหญ่ก็จะมาจากผู้ที่เสียประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนกลาง การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ถือว่ามีธรรมาภิบาล และโปร่งใสที่สุด

“สาเหตุหลักที่แต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 3 ตำแหน่ง เพราะผมอยากให้การทำงานในยุคนี้มีความเป็นมืออาชีพ หรือโปรเฟสชันนอล มากที่สุด ซึ่งก่อนการเสนอรายชื่อได้เรียกนายชัยพฤกษ์มาคุยว่า ถ้าจะมีการย้ายระดับ 11 ปลัด ศธ. อยากอยู่ที่ไหน ซึ่งนายชัยพฤกษ์ ก็ตอบว่า อยู่ที่ สกศ. ซึ่งผมก็ดีใจเพราะ สกศ. ต้องดูแลคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ดูแลแผนการศึกษาชาติ และในบรรดาซี 11 ทั้งหมด คนที่เก่งวิชาการที่สุดคือ นายชัยพฤกษ์”

“เมื่อตำแหน่งปลัดว่าง ก็มองไปข้างหน้าว่า ใครควรทำงานอย่างไร โดยสาเหตุที่ให้นายบุญรักษ์มาเป็นเลขาธิการ กพฐ. เพราะดูแลการพัฒนาการศึกษาที่สำคัญหลายเรื่อง เช่น คูปองอบรมพัฒนาครู อิงลิช บู๊ธแคมป์ การพัฒนาครูแกนนำภาษาอังกฤษ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และที่สำคัญคือ การปฏิรูปการศึกษาในส่วนภูมิภาค ที่มีการแตกแยกกัน ดังนั้น เมื่อให้นายการุณมาเป็นปลัด ศธ. และให้นายบุญรักษ์มาเป็นเลขาธิการ กพฐ. ก็เชื่อว่าการบูรณาการการทำงานในพื้นที่จะดีขึ้น ทั้ง 2 คนทำงานด้วยกันมาก่อน รู้ว่าฝ่าย สพฐ. คิดอย่างไร ฝ่ายปลัด ศธ. คิดอย่างไร และงานบูรณาการก็เป็นงานหลัก ปีหน้าที่จะเริ่มทำงบประมาณปี 2562 จะให้หน่วยงานระดับพื้นที่ตั้งงบฯ ขึ้นมา ดังนั้น หากทั้งปลัด ศธ. และเลขาธิการ กพฐ. ไม่ประสานงานกันดีๆ จะขัดแย้งกันหนักขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าจากนี้จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีทางแย่ลง”

นพ.ธีระเกียรติกล่าว

ขณะที่นายบุญรักษ์บอกว่า ถ้าจะมานับอายุงานในส่วนกลางที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ.) ทุกคนอาจเข้าใจว่าผมยังอ่อนกว่าเพื่อน

แต่ถ้านับความเป็น สพฐ. ก็มั่นใจว่าประสบการณ์ตลอดชีวิตของการทำงาน ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าใคร และเป็นประสบการณ์ที่จะดูแล สพฐ. ได้อย่างดี

ส่วนข่าวลือเรื่องความโปร่งใสนั้น ยอมรับว่า ได้ยินมาเหมือนกัน ว่าอย่างนั้น อย่างนี้ มีความพยายามจะโยงไปถึงอดีต ว่าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการทุจริตสนามฟุตซอล ซึ่งขณะนั้นตนไปเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ก็ไม่ได้เซ็น ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น และก็ชี้แจงกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ปช.) แล้ว

“ผมก็ทำงานได้ดีไม่แพ้ใคร ไม่เคยมีเรื่องการสอบสวนทางวินัย ไปดูไปถามกันได้ว่าที่ผ่านมาการบริหารงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ของผมเป็นอย่างไร พวกเขารับผมได้หรือไม่ ผมมั่นใจว่าประสบการณ์ที่มีอยู่จะดูแล สพฐ. ได้ เพราะผ่านมาแล้วทุกรูปแบบ ทั้งเป็นครูอยู่บนเขาบนดอยก็เป็นมาแล้ว และตอนนี้ก็ยังเป็นผู้รับผิดชอบ “ศูนย์การศึกษาธิการส่วนหน้าภาคใต้” ด้วยก็รู้ดีว่าครูภาคใต้ เป็นอยู่ในสภาพไหน และเราจะช่วยกันได้อย่างไร คนเราอย่าดูกันผิวเผิน อย่าฟังแต่ที่เขาเล่ามา ต้องมาพิสูจน์กันด้วยตัวเอง” นายบุญรักษ์กล่าว

ขณะที่นายชัยพฤกษ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการถือเป็นดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ซึ่งในส่วนของตน เป็นข้าราชการ พร้อมที่จะปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย และตนสามารถทำงานได้ทุกที่ ส่วนเหตุผลในการโยกย้ายนั้นตนไม่ทราบ ต้องถามรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เอาเอง

ด้านนายการุณกล่าวว่า เมื่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ไว้วางใจให้ตนมาทำหน้าที่ปลัด ศธ. ตนก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสหนึ่งในการทำหน้าที่ข้าราชการ ให้ไปอยู่ที่ไหนจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

หลังแต่งตั้งโยกย้ายซี 11 เรียบร้อย สัปดาห์หน้า จับตาโผซี 10 ของ ศธ. ซึ่งแว่วว่า ชื่อล็อตแรกส่งถึง ครม. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีล็อตต่อๆ ไป ซึ่งก็ต้องมาดูว่า จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อะไรออกมาอีก…

แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องรอดูว่า แม่ทัพใหม่ ที่ “หมอธี” เฟ้นมาเองครั้งนี้ จะสามารถแก้ปัญหาการศึกษาได้ดังใจหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปการศึกษาในส่วนภูมิภาค ที่ยังไม่ลงตัว!!