ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ทั่วโลกตายจากโควิดทะลุ 6 ล้าน/บทความต่างประเทศ

เครดิตภาพ AP

บทความต่างประเทศ

 

ย่างเข้าสู่ปีที่ 3

ทั่วโลกตายจากโควิดทะลุ 6 ล้าน

 

ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ตัวเลขของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก ดูจะยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก ได้ทะลุ 6 ล้านรายไปเรียบร้อย

เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า โควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ แม้ว่าตอนนี้ผู้คนจะมีความระมัดระวังกันมากขึ้น ใส่หน้ากากกันมากขึ้น และโลกกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาใช้ชีวิตปกติ มีการเดินทางมากขึ้น และธุรกิจต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งทั่วโลก

ในวิถีใหม่ แบบที่เรียกว่า “นาวนอร์มอล”

แต่ด้วยความแพร่กระจายอย่างง่ายดายของสายพันธุ์ “โอมิครอน” ทำให้แม้แต่ดินแดนแห่งสุดท้ายในโลก ที่รอดจากโควิด-19 มาได้ตลอด 2 ปี อย่างประเทศคิริบาส ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งปิดชายแดนไปตั้งแต่แรกๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเล็ดลอดเข้าไปได้

ล่าสุด เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากคิริบาสเปิดประเทศ ก็พบรายงานผู้ติดเชื้อในทันที

 

โดยทันทีที่เปิดประเทศ คิริบาสก็อนุญาตให้กลุ่มคนกลุ่มแรกเข้าประเทศ 54 คนส่วนใหญ่จะเป็นบรรดามิชชันนารี ที่เดินทางออกนอกประเทศไปก่อนที่จะปิดประเทศ ทำให้กลับประเทศบ้านเกิดไม่ได้ เมื่อจะเดินทางกลับ ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยมีการตรวจสอบผู้โดยสารทั้งหมด 3 ครั้งที่ฟิจิ และทุกคนจะต้องฉีดวัคซีนมาแล้ว แถมเมื่อเดินทางเข้าประเทศ ยังต้องกักตัวเพื่อดูอาการอีก

แต่ดูเหมือนมาตรการที่เข้มงวดนี้ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะกลายเป็นว่า กว่าครึ่งหนึ่งของผู้โดยสารตรวจพบเชื้อ และได้แพร่เชื้อไปยังชุมชนที่อยู่อาศัย จนรัฐบาลคิริบาสต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อจากเดิม 36 คนมาจากเครื่องบิน ก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเป็นกว่าร้อยคน

ขณะที่ฮ่องกงก็กำลังเผชิญกับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางการตรวจหาเชื้อประชากรทั้ง 7.5 ล้านคนมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งนับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นไปตามนโยบาย “ซีโร่-โควิด” ของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่

หรือแม้แต่ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ก็ยังมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่สูง และเฉียด 1 ล้านรายเข้าไปแล้ว

ติกกิ แพง ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ บอกว่า อัตราส่วนของผู้เสียชีวิตทั่วโลกยังคงสูงมากในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยบอกว่า นี่คือโรคสำหรับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน และให้ดูตัวอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในฮ่องกงตอนนี้ ที่ระบบสาธารณสุขกำลังจะรับมือกับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว เพราะผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

และที่สำคัญ ผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยหนักส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19

 

หากดูสถิติที่ผ่านมา 7 เดือนแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ตอนต้นปี ค.ศ.2020 ถึงจะมีผู้เสียชีวิตถึง 1 ล้านราย หลังจากนั้นอีก 4 เดือน จึงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ล้านราย และหลังจากนั้น ทุกๆ 3 เดือน ก็จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ล้านราย กระทั่งยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 5 ล้านราย เมื่อตอนสิ้นเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และตอนนี้ ตัวเลขก็พุ่งทะลุ 6 ล้านรายไปเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่า ตัวเลขการตายดังกล่าวน่าจะน้อยกว่าตัวเลขจริงอยู่มาก อันเนื่องมาจากการเก็บบันทึกข้อมูลที่ไม่ดีพอ หรือการที่อีกหลายคนไม่ได้รับการตรวจ ทำให้เชื่อว่า ยังมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อีกจำนวนมากกว่าที่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ก็ยังมีผู้ที่เสียชีวิตอันเกี่ยวเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทั้งที่ไม่ได้ติดเชื้อ อย่างกรณีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ แต่กลับไม่ได้เข้ารับการรักษา เนื่องจากเตียงในโรงพยาบาลไม่มีที่เพียงพอสำหรับคนเหล่านี้ เพราะมีแต่ผู้ป่วยโควิด-19 อยู่เต็มไปหมด

โดยเอดูอาร์ด แมธิว หัวหน้าฝ่ายข้อมูล ของเว็บ “อาวเวอร์ เวิลด์ อิน ดาต้า” บอกว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ทำให้เชื่อได้ว่า จริงๆ แล้วมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่าตัวเลขทางการที่ออกมาถึงเกือบ 4 เท่า

อันเนื่องมาจากการตรวจสอบผู้ติดเชื้อที่มีจำกัด และการหาต้นตอของการเสียชีวิต ทำให้ตัวเลขที่ออกมาน้อยกว่าความจริงอย่างมาก โดยทีมวิเคราะห์ของดิ อีโคโนมิสต์ ได้ประมาณว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ตอนนี้จริงๆ อยู่ที่ประมาณ 14.1-23.8 ล้านรายเลยทีเดียว

ซึ่งตัวเลขจากบรรดาประเทศที่มีอันจะกิน ก็มักจะเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงความจริง แต่ในประเทศอื่นๆ กลับต่ำกว่าความจริงอยู่มาก

แต่ไม่ว่า ตัวเลขตายจะมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้ สิ่งที่แน่นอนคือ โลกยังต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ต่อไป โดยที่ยังไม่มีทีท่าเลยว่าจะไปถึงจุดสิ้นสุดตรงไหน