ใครเป็นมิตรของปูติน ? | โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

 

มิตรของปูติน

 

ไม่มีใครเถียงว่า อำนาจ ของปูตินผู้นำสูงสุดของรัสเซียมากล้น

นอกจากมีกองทหารหลายแสนนาย อาวุธยุทโธปกรณ์ได้แก่ ปืน รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบทันสมัยมากมาย

ปูตินยังมีอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งบางคนบอกว่ามีมากกว่าสหรัฐอเมริกาเสียอีก

แล้วก็ไม่มีใครเถียงความมั่งคั่งของปูติน สื่อต่างประเทศจำนวนไม่น้อย ไม่อาจจะรายงานความมั่งคั่งของเขาว่ามีอยู่เท่าไร เนื่องจากมีรายงานว่าไปอยู่ที่มิตรข้างกายบ้าง ซุกซ่อนจนไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้าง1

ไม่มีใครรู้ว่า เงิน เพชร ทอง คฤหาสน์ซึ่งอยู่ในบางประเทศในยุโรปเป็นของเขาและมูลค่าเท่าไร

หมายความว่า พลังและอำนาจของปูตินล้นฟ้า แต่ใช่ว่าพลังและอำนาจจะมีเพียงเท่านี้

สำหรับผม ที่น่าสนใจคือ มิตรของปูติน มิตรของปูตินซึ่งจำนวนอาจจะไม่สำคัญเท่ากับสถานะและพลังของพวกเขานั้นคืออะไรและมีอยู่เท่าไร

ก่อนอื่นใด เราควรรู้ว่า มิตรของปูตินเป็นใคร? ตรงนี้สงครามครั้งนี้ช่วยบอกแก่พวกเราว่า พวกเขาเป็นใคร ผมจะนำข้อมูลจากสื่อบางแขนงมานำเสนอ

แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น มิตรของปูติน ช่วยบอกแก่พวกเราว่า พวกเขาเป็นที่มาแห่งโลกทัศน์ของปูติน อันนำมาสู่แนวคิดทางการเมืองของเขาต่อยูเครนและชาติตะวันตกครั้งนี้ด้วย

 

มิตรที่รายล้อม

มิตรของเขาเกือบทั้งหมดเป็นผู้ทรงอำนาจทั้งทางการเงินและการเมืองของรัสเซียและของโลก อีกทั้งระบบสังคมของรัสเซียได้หล่อหลอมใจพวกเขาเป็น คณาธิปไตย (oligarchy) อันเป็นระบอบอำนาจนิยมของคณะบุคคล แล้วยังเป็นผู้นำระดับสูง เป็นเพื่อนสนิท ในบางรายเป็นทั้งครอบครัวคือพ่อและลูก

ดังนั้น นอกจากพวกเขาเป็นฐานอำนาจให้กับปูตินแล้ว ยังเป็นกำแพงปิดกั้นความเห็นและข้อคิดอย่างอื่นๆ ที่แตกต่างและเปิดกว้างด้วย บุคคลเหล่านั้นประกอบด้วย

ไตรคณาธิปไตย ของรัสเซียคือ นาย Igor Rotenberg, Boris Rotenberg และ Gennady Timchenko อภิมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของกิจการลงทุนก๊าซธรรมชาติ ธนาคารรายใหญ่ ขนส่ง บริษัทวิศวกรรม ทั้ง 3 คนล้วนเป็นสหายใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูติน และเคยถูกแซงก์ชั่นเพราะให้ความช่วยเหลือรัสเซียบุกไครเมีย ปี 2014 มาแล้ว

นอกจากนั้น ทั้ง 3 คนยังเป็นประธานสโมสรฮอกกี้ ช่างเป็นเศรษฐีใจบุญเหลือเกิน

ทั้ง 3 คนถูกห้ามทำธุรกรรมในสหราชอาณาจักร ห้ามเข้าประเทศ แช่แข็งเงินและทรัพย์สินในสหราชอาณาจักรอีกด้วย2

ข้อมูลจากการแซงก์ชั่นรัสเซีย เราจึงได้รู้เพิ่มว่า มิตรของปูตินยังมีอีกดังนี้

1. Sergei Borisovich Ivanov ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีรัสเซียด้านปกป้องสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมและการขนส่ง

2. ลูกของเขาคือ Seigei S. Ivanov ซีอีโอบริษัท Alrosa บริษัทที่หนุนโดยรัฐบาลรัสเซียทำเหมืองเพชร บริษัท Alrosa เป็นเจ้าของและผลิตเพชรราว 28% ของโลก มียอดขายเพชรปีที่แล้ว 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

3. Nikolai Platonovich Patrushev เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เขาเป็นเพื่อนใกล้ชิดยาวนานกับปูติน และเป็นผู้สืบทอดหน่วยงาน KGB ของรัสเซียด้วย

4. ลูกชายของเขา Andrew Patrushev ซีอีโอบริษัท Gazprom Neft บริษัทน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 3 ของรัสเซีย

5. Igor Ivanovich Sechin ซีอีโอของบริษัท Rosneft หนึ่งในบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก เขาเป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจอันดับ 2 ในรัสเซียรองจากปูติน

6. ลูกชายของเขา Ivan Igorevich Sechin รองประธานบริษัท Rosneft

7. Alexxander Alexsandrovich Vedyakhin รองประธานคนที่ 1 ของธนาคาร Sberbank สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ธนาคารนี้มีทรัพย์สินอันดับ 3 ของธนาคารในรัสเซีย

8. Andrey Sergeyevick Puchkov ผู้บริหารระดับสูงของ VTB Bank และยังมีอีก 2 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรัสเซีย

9. Yuri Solovyeo รองประธานคนที่ 1 ของธนาคาร VTB Bank

10. Galina Olegovna Ulyutina อดีตภรรยาของ Yuri Solovyeo เธอเป็นเจ้าของโครงการ Golden passport ที่ให้ผู้นำรัสเซียอนุญาตให้พลเมืองของตนไปลงทุนในต่างประเทศได้

จะเห็นได้ว่า นอกจากมิตรของปูตินจะทรงอำนาจทางการเมืองและการเงินแล้ว ยังเป็นเจ้าของและผู้บริหารบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ ธนาคารใหญ่ ทำธุรกิจเพชร หลายคนเป็นพ่อและลูกกัน การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากปูติน คงสำคัญและมากพอต่อผลประโยชน์ที่พวกเขามีให้กับปูติน จึงคุ้มค่า อาจเป็นความภักดี ความมั่งคั่ง ซึ่งมากจนคนเหล่านี้น่าจะคิดเห็นทางเดียวกับปูติน เหล่าผู้มั่งคั่ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและทหาร และ Yes Men จะคิดต่างจากปูตินหรือ

แต่ในทางกลับกันก็เท่ากับปิดกั้นข้อเสนอใหม่ๆ และเปิดกว้าง การปราศจากความเห็นต่าง ย่อมนำมาซึ่งความคับแคบทางความคิดก็ได้

ดังนั้น จึงแทบไม่มีผู้นำรัสเซียคนไหนโต้แย้งการทำสงครามกับยูเครน ถึงแม้จะเป็นแนวคิดที่หลงยุคก็ตาม

แล้วปูตินยังมีมิตรจากต่างแดนด้วย

 

มิตรจากต่างแดน

จากข้อมูลที่รัสเซียเผยออกมาเองว่า ประเทศที่สนับสนุนรัสเซียในการต่อสู้กับยูเครน ได้แก่ กลุ่มประเทศในยุโรปคือ เบลารุส เซอร์เบีย อาร์เมเนีย และเติร์กเมนิสถาน

กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ ปาเลสไตน์ ลิเบีย เลบานอน ซีเรีย แอลจีเรีย ทาจิกิสถาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน

ยังมีประเทศในอเมริกาใต้ได้แก่ เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา คิวบา

ส่วนประเทศในเอเชียคือ จีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน ปากีสถาน อัฟกานิสถาน เมียนมา ลาว และเวียดนาม

มิตรจากต่างแดน คล้ายคลึงกับมิตรใกล้ชิดในรัสเซียคือ เกือบทั้งหมดมีระบบการปกครองแบบอำนาจนิยม มีการผูกขาดอำนาจจากชนชั้นนำทางการเมืองและเศรษฐกิจ บางประเทศมีระบบพรรคการเมืองพรรคเดียว

บางประเทศมีผู้นำตลอดกาล ทำการปกครองประเทศ ซึ่งเป็นระบบการปกครองแบบเดียวกับรัสเซีย

 

มิตรและผลต่อรัสเซีย

ผมติดใจข้อมูลประวัติปูติน ของผู้นำปัญญาของไทยรายหนึ่ง ท่านชี้ว่า ปูตินสมัยเป็น KGB เขาอยู่ในเมืองฝั่งเยอรมนีตะวันออกในขณะที่เห็นกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย

ช่วงปลายทศวรรษ 1980 หมายความว่า ปูตินเห็นการล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซีย การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ แล้วเขาฝังใจเรื่องนี้มาก

ดังนั้น คงไม่ผิดอะไรที่ทำให้ปูตินรื้อฟื้นจักรวรรดิรัสเซีย แล้วเวลาอันเหมาะสมในความฝันของเขาก็มาถึงคือ การบุกและทำสงครามกับยูเครน อันเท่ากับการต่อกรกับนาโต การย้อนกลับไปสู่สงครามเย็น แม้คอมมิวนิสต์ล่มสลายแล้ว รัสเซียคือปูตินก็ต้องการสถาปนาและปกป้องจักรวรรดินิยมด้วยต้นทุนที่แพงแค่ไหนก็ได้

แล้วมิตรชาวรัสเซียจะขัดขวางได้อย่างไรภายใต้ระบบคณาธิปไตย แล้วมิตรในต่างแดนจะไม่สนับสนุนได้อย่างไรเพราะพวกเขาก็ปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยม

แต่ปูตินและมิตรสหายลืมไปว่า นี่คือยุคศตวรรษที่ 21 ยุคที่โลกาภิวัตน์และดิจิตอลไลเซชั่นพัฒนาไปมากแล้ว ดังนั้น จึงมีผู้คนตัวเล็กตัวน้อยออกมาประท้วงปูตินทั่วโลก รวมทั้งที่รัสเซียอีกด้วย

1Paul Sonne, “Putin’s Monte Carlo mystery, secret money and swansky real estate”, Washington Post 26 February 2022.

2″วิโรจน์ เลิศจิตต์ธรรม เปิดแผนคว่ำบาตรลงโทษรัสเซีย” The Standard 23 กุมภาพันธ์ 2565