อาจินต์รำลึก : แปดปีที่แก่งเสี้ยน (17)/บทความพิเศษ แน่งน้อย ปัญจพรรค์

อาจนต์บนเวที 90 ปีอำนวยศิลป์

บทความพิเศษ

แน่งน้อย ปัญจพรรค์

 

อาจินต์รำลึก

: แปดปีที่แก่งเสี้ยน (17)

 

2559

ลืม หลง แปรปรวน

ความเปลี่ยนแปลงในกายใจ เมื่อมาแล้วมันอยู่เลย ไม่ไปไหน มีแต่จะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

บ่าย 12 มกราคม 2559 อาจินต์ตื่นจากงีบหลับพักผ่อนบนตั่งนอนเล่นหน้าห้องนอน ลุกขึ้นได้ก็บอกน้อย

“เอาเงินมาร้อยสองร้อย จะพาเด็ก 8 คนนี้ขึ้นตุ๊กตุ๊กไปขายขยะ”

“เด็กที่ไหน”

“ก็นี่ไง เดินตามฉันมา 8 คน ไม่เห็นเหรอ”

“แล้วขยะล่ะ”

“ก็บ้านเมืองมันสกปรก ฉันอยากให้เด็กมันรู้จักทำงาน ให้มันเก็บขยะ แล้วให้มันมีเงินใช้ บ้านเมืองก็จะสะอาด”

“แล้วจะไปขายที่ไหน”

“ก็บางขุนพรหมไง”

ฉันนึกถึงป้าฉันคนหนึ่ง ตอนแกอายุกว่า 90 หลง จะต้องมีกระเป๋าสตางค์เล็กๆ ติดตัวไว้เสมอ ว่างๆ ก็เอาออกมานับสักทีว่ามีเงินอยู่เท่าไร เงินในนั้นเป็นกระดาษ ลูกหลานแกตัดเป็นแบงก์พับใส่ไว้ให้ อาจินต์จะยังรู้ไหมหนอว่า กระดาษเปล่ากับแบงก์ต่างกันอย่างไร

ฉันก็เลยลองเอากระดาษตัดใส่กระเป๋าสตางค์ใบหนึ่งแล้วส่งให้ อาจินต์รับไปเปิดดู หยิบออกมาพลิกไปพลิกมา

“ว้า นี่มันเศษกระดาษ”

ตัดเล็บมืออาจินต์

ไม่เรื่องหลงลืม ก็เรื่องแข้งขาอ่อนลง

20 มกราคม 2559 พาอาจินต์นั่งที่ระเบียงตามปกติ แต่วันนี้เดินตัวงอ โค้งลงๆ ขาซ้ายไม่ก้าว ต้องลากเก้าอี้ขาวมารองก้น นั่งอยู่ได้นาน จนใกล้เที่ยงก็ลุกจับ walker เดินเข้าบ้านได้ ไปกินข้าวได้เอง

วันที่ 26 ต่อเนื่องไปจนถึง 7 กุมภาพันธ์ 2559 อาการแปลกๆ ทุกวัน วันนี้ตื่นตีห้า ส่งเสียงเรียกดังลั่น ต่อมา ตีห้าอีกสามสี่วันถัดมา ลุกขึ้นนั่งถอดเสื้อกางเกงเหลือแต่แพมเพิร์ส นั่งเกาอยู่บนเตียง คัน ดูแล้วไม่มีแผลอะไร ทาครีมให้ก็หายคัน นอนต่อ คืนต่อมาและต่อมาก็เหมือนเดิม พูดดังๆ ฟังไม่รู้เรื่องทั้งคืน คนอื่นๆ นอนไม่หลับ บ้านจะหมุนกันแล้ว อีกคืนเลยให้ยานอนหลับ สบายอยู่คืนหนึ่ง

คืนต่อมาก็เอาอีกแล้ว ตื่นตี 3 ลุกขึ้นนั่งพูดๆๆ อยู่ครึ่งค่อนชั่วโมง ไม่รู้เรื่อง ตี 5 ร้องเรียกหาคนมาติดซิปเสื้อให้ ติดไม่ได้

ทำบุญวันเกิดวัดศิริกาญจนาราม เสร้จแล้ว หลวงพ่อเดินมาตบไหล่ สบายดีหรือ เพิ่งได้เห็นตัวจริง

14 กุมภาพันธ์ 2559 พบหมอวรพรรณ หัวหน้าคลินิกความจำ ดูแลอาจินต์แทนหมอชัชวาลซึ่งได้รับทุนไปทำวิจัยที่อเมริกา 2 ปี อาจารย์หมอวรพรรณบอกว่า คุณแม่อาจารย์ดีใจมากที่อาจารย์ได้รักษาคุณอาจินต์ คุณแม่เป็นแฟนอาจินต์เหนียวแน่นค่ะ วันนี้ อาจารย์สรุปอาการอาจินต์ว่า ทรุดลงจากขั้นที่ 1 ไปขั้นที่ 2 เพิ่มยาอีก 2 ตัว กลับบ้าน กินยา นอน พูดไม่รู้เรื่องทั้งคืน แล้วก็ไม่มีแรงจะลุกเดิน คืนรุ่งขึ้นเลยหยุดยา ดีขึ้น ไม่กวน แต่เบื่ออาหาร ซึม ไม่ค่อยมีฉี่ แต่กบบอกว่า น้ำในถุงหน้าท้องมากผิดปกติ ถุงป่องแทบแตก มันเป็นผลของยา

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 เกือบปกติ

1 มีนาคม 2559 นั่งรอหมออยู่หน้าห้อง มีคนไข้อื่นใช้รถเข็นเรียงกันอยู่ 3-4 คน และหมอออกมาตรวจคนไข้รถเข็นที่นั่งอยู่ ไม่ต้องเข้าไปตรวจในห้อง อาจินต์ถามว่า สองคนนั้นมาบ้านเราทำไม พระอีกองค์ที่นั่งอยู่นั่นด้วย แล้วหมอคนนี้ด้วย มาบ้านเราทำไม

9 มีนาคม ตี 2-3 ไอ เรียกน้อย ตื่นๆ ดังมาก ไม่มีอะไร ตี 5 ไอแรง ลุกขึ้นดูก็เห็นนั่งนิ่งๆ เงียบๆ

“พี่อยากลุกหรือ?”

พยักหน้า ก็พาลุก เอายาอมเทพจิตรให้ 1 เม็ด เอาลงนอน

“พี่หลับนะ”

พยักหน้า ลงนอนอย่างว่าง่าย

รุ่งเช้าอีเมลปรึกษาหมอนิธิพัฒน์เรื่องยา หมอโทร.กลับ แนะนำการปรับยา แล้วก็ดีขึ้นต่อมานานพอสมควร

ครอบครัวราช เลอสรวง(นิวัติ ธาราพรรค์) ไม่เคยขาดการมาเยี่ยมอาจินต์มาตั้งแต่ร่วมงานในฟ้าเมื่อไทย เมื่อปี 2512

จนเดือนพฤษภาคม 2559 ก็มีแรงเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกัน ฉันมีธุระเรื่องทำสัญญาทำ E-Book งานของอาจินต์ ส่วนอาจินต์มีงานคนดีศรีอำนวยศิลป์ โรงเรียนนี้ 90 ปี จัดงานหนเดียว มอบรางวัลคนดีศรีอำนวยศิลป์แก่ศิษย์เก่า 90 คน เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2559

น้องๆ รุ่นหลานเหลนเรียกพี่ บอกว่าโรงเรียนเรามีคนสองรุ่น รุ่นพี่กับรุ่นน้อง ถึงตอนร้องเพลงประจำโรงเรียนร่วมกัน อาจินต์ร้องเพลงอำนวยศิลป์เสียงแจ๋ว ชัดเจน น้องๆ ทึ่ง พี่คนนี้ยังจำเพลงได้ถูกต้อง ลุกขึ้นมาขอถ่ายรูปกันใหญ่ เวลาขึ้นเวทีรับรางวัล เขาก็ช่วยกันยกขึ้นไปทั้งรถเข็น คุณอานันท์ ปันยารชุน ผู้ทำหน้าที่มอบรางวัลแบบนี้ ได้มอบให้อาจินต์มาสองสามงานแล้ว

ซึ่งคุณอานันท์พูดว่า คนแบบนี้แหละที่ผมยินดีอยากมอบรางวัล

ตุ่น-ประวีร์ ศรีนอก ภรรยาคำสิงหื ศรีนอก เกาะขาอาจินต์

กลับแก่งเสี้ยน ฝนนี้เก็บหน่อไม้ได้เยอะพอสมควร ต้มใส่ถุงได้กว่า 60 ถุง หน่อไม้รวกที่เราเห็นเขาใส่ถุงแขวนขายกันข้างทางและตามตลาดนั้น เขาใช้วิธีบรรจุใส่ถุงแล้วเอาลงต้มหรือนึ่งไม่รู้ โดยใส่ลงไปทั้งถุงพลาสติกที่บรรจุอย่างนั้น จนสุกแล้วเอาขึ้นมาแขวนขาย

เขาว่าทำแบบนี้มันอยู่ได้นานมาก เพราะมันสุกแล้วไม่มีอากาศเข้า

แต่ฉันคิดแล้วสยอง นึ่งหรือต้มก็ตามทั้งถุงพลาสติก แม้จะเป็นถุงร้อน แต่มันไม่ใช่แค่ใส่ของร้อนลงถุง ซึ่งมันก็เย็นลงเรื่อยๆ แต่นี่มันใส่ลงไปในความร้อนน้ำหรือไอน้ำเดือดๆ นานจนกว่าจะสุก ความร้อนมันแค่ไหน สารเคมีจากพลาสติกมันอยู่นิ่งๆ ไม่แผลงฤทธิ์ออกมาใส่หน่อไม้เลยหรือ น่าขนลุก ฉันเล่าให้ใครๆ ฟัง อย่าซื้อกินส่งเดช

สำหรับฉัน เมื่อมีเวลาสัมผัสสภาพแวดล้อมต่างๆ รอบบ้านมากขึ้น ก็มีไฟ เริ่มเขียนกลอนบรรยายอะไรต่ออะไรรอบๆ ตัวได้แล้ว 20 กว่าชิ้นในเดือนกันยายน

 

เดือนตุลาคม 2559 เดือนเกิดอาจินต์ อยากให้ได้ทำบุญบ้าง ปีนี้เลยให้ฉลองเลือกวัดดีพระดี นัดให้อาจินต์ได้เลี้ยงพระวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ก่อนวันเกิดจริงหนึ่งอาทิตย์พอดี

เลี้ยงพระและเณร 41 รูปทั้งวัด นำสมุดเครื่องเขียนมามอบให้พระเณรที่โรงเรียนนักธรรมของที่นี่ เสร็จการเลี้ยง หลวงพ่อเจ้าอาวาสลุกขึ้นมาแตะบ่าอาจินต์… “สบายดีหรือ” อาจินต์งงๆ พบคนที่รู้จักและเคยอ่านงานอาจินต์อีกแล้ว ท่านก็เป็นพระด้วย

กลับจากวัด พักผ่อนกันเล็กน้อย ตกเย็นฉันกับจักรก็ลุกขึ้นปลูกต้นไม้กันอีก คราวนี้เป็นต้นไม้เล็กๆ และไม้ดัดขนาดกลาง ปลูกตรงสวนหย่อมมุมระเบียงบ้านโรงสี จักรกำลังเขี่ยดินฝังกลบ ใช้เท้าเหยียบแรงๆ บดดินให้แน่นโดยไม่ใส่รองเท้ากลางสายฝนที่ตกลงมาไม่แรงนัก นายคนนี้ชอบทำงานกลางฝน แต่ฝนนี้…

“เปรี้ยง” ฟ้าผ่าดังลั่น ฉันเห็นจักรกระโดดขึ้นๆ ลงๆ

“อาจารย์ขึ้นบ้าน รีบขึ้นไป” เขายังร้องสั่งฉันอีก แต่ฉันไม่เป็นไร ฉันใส่รองเท้า

ฟ้าผ่าหนนี้ ไม่มีใครเป็นอะไร แต่วันต่อๆ มาจึงรู้ว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายไปหลายอย่าง เช่น ตู้คุมไฟ เครื่องดึงไฟ หลอดไฟหลายหลอด relay ดูดน้ำ!!!

นายจักรนอกจากถูกไฟดูดแล้ว ยังต้องตามเปลี่ยน ซ่อม เครื่องใช้ไฟฟ้า อีกหลายวันต่อมา

ปีนี้ หลังฟ้าผ่า เราก็ส่งท้ายปีกันด้วยหมามุ่ย คันกันไปหมด อยู่มาตั้งหลายปีไม่เห็นคัน ปีนี้คัน จักรบอกมันมีมากบนเขา พอฝักแก่แตกลมก็พามา ตากเสื้อผ้าไว้ใส่ก็คัน มันคันกันข้ามปี จนไฟป่าเผาต้นไม้บนเขา เถาหมามุ่ยไหม้ตายไป

เราก็เลิกคัน