ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 มีนาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | หลังเลนส์ในดงลึก |
ผู้เขียน | ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ |
เผยแพร่ |
หลังเลนส์ในดงลึก
ปริญญากร วรวรรณ
‘โลกที่แคบ’
ชื่อสถานที่ต่างๆ ในผืนป่าที่ผมทำงานอยู่นานๆ นั้น ส่วนใหญ่มักเรียกตามลักษณะของพื้นที่ ไม่ซับซ้อนอะไร
มีบางแห่งที่ผมมักนึกถึงเสมอ
อย่างเช่น สถานที่หนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า ตลิ่งสูง นอกจากในบริเวณไม่ไกลจากนี่ ผมจะใช้เวลานานนับเดือนเฝ้ารอควายป่า และพวกมันแสดงให้ผมเห็นว่า “ตำนาน” ที่เล่าต่อๆ กันมาว่า “พวกควายไม่กลัวเสือ” เป็นความจริง
เสือโคร่งตัวหนึ่งจำต้องเดินเลี่ยงๆ ไปเมื่อควายฝูงนั้นยืนเข้าแถวประกบลูกเล็กๆ ไว้ตรงกลาง เตรียมพร้อมรับมือหากเสือจะเข้าโจมตี และผมบันทึกภาพไว้ได้
มีเรื่องราวไม่มากหรอกที่จะติดอยู่ในความทรงจำสำหรับผม
เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องหนึ่ง
หากดูในแผนที่ จุดนี้มีชื่อว่าตลิ่งสูง แต่คนทำงานในป่าหลายคนเรียกจุดนี้ว่า “บ้านหลังเดียว” และมีอีกหลายคนเรียกว่า “ห้วยมดแดง”
ว่าตามจริง ชื่อต่างๆ ที่เรียกๆ กันนั้น จะว่าถูกทั้งหมดก็ไม่ผิด อีกทั้งไม่ว่าจะเรียกชื่อไหน ทุกคนจะเข้าใจดีว่าหมายถึงบริเวณไหน
ชื่อตลิ่งสูง เป็นความจริง เพราะจุดนี้อยู่สูงจากลำห้วยร่วม 200 เมตร
เรียกว่า บ้านหลังเดียว ก็ถูกอีกแหละ คนทำงานในป่ารุ่นแรกๆ บอกว่า บริเวณนี้ในยุคที่ยังมีคนอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ เคยมีบ้านตั้งอยู่หนึ่งหลัง และมีศาลาเล็กไว้พักสำหรับชุดลาดตระเวน ต่อมากลายเป็นหน่วยพิทักษ์ป่า
จะเรียกว่า ห้วยมดแดง ก็ไม่ผิด เพราะจากที่นี่ไปทางใต้สัก 300 เมตรมีลำห้วยสายย่อยที่ในฤดูแล้งจะแห้งผาก เหลือเพียงกรวดระเกะระกะ ลำห้วยนี้ในแผนที่ชื่อว่า ห้วยมดแดง
จะชื่ออะไรก็เถอะ แต่ในช่วงที่ผมร่วมทีมกับผู้ช่วยนักวิจัยในงานศึกษาเรื่องเสือโคร่ง เราเรียกที่นี่ว่าบ้านหลังเดียว เป็นสถานที่ซึ่งผมใช้เวลาอยู่นาน เป็นที่ซึ่งทำให้ผมเข้าใจความหมายของคำว่า “อนุญาต”
รวมทั้งเข้าใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นว่า ทำงานกับสัตว์ป่า เราไม่ได้เป็นผู้กำหนดเวลา
ความมุ่งมั่นพยายามใช้ทักษะ เรียนรู้จากประสบการณ์ ช่วยให้งานสำเร็จ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
สิ่งสำคัญสุดคือ สัตว์ป่า ยอมให้พบเจอ
เมื่อเริ่มเฝ้ารอ เรารู้เฉพาะกำหนดวันมา
แต่วันกลับนั้น คำตอบอยู่ที่เสือ
ครั้งหนึ่ง ทีมมีภารกิจกับเสือตัวเมียที่เป็นเป้าหมาย จากการสำรวจ นักวิจัยมีข้อมูลว่า เสือตัวนี้มีพื้นที่ติดอยู่กับเสือตัวเมียที่กำลังติดตาม นักวิจัยอยากเพิ่มข้อมูลที่ได้ว่า เสือโคร่งตัวเมียในบริเวณนี้ใช้พื้นที่แค่ 30 ตารางกิโลเมตร เสือโคร่งตัวเมียในพื้นที่อื่นๆ ที่พวกเขาศึกษา ปกติใช้พื้นที่ราว 70 ตารางกิโลเมตร
“เป็นไปได้ว่า แถวนี้มีประชากรเหยื่อมาก เสือจึงใช้พื้นที่น้อย” ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็น
“จะให้รู้แน่ต้องติดตามเสือตัวเมียอีกตัว”
เราเข้ามาปักหลักที่นี่ “ขอให้สนุกกับการอยู่ในป่านะครับ” ผู้เชี่ยวชาญบอกยิ้มๆ
เขารู้ดีว่า เราต้องใช้เวลานานในป่า
ป่าที่เหล่าสัตว์ป่าเป็นเจ้าของ
ผมไม่มีข้อมูลว่า ใครเป็นคนตั้งชื่อที่นี่ว่า ตลิ่งสูง แต่เป็นการตั้งชื่อที่เหมาะสมมาก เมื่อจะใช้น้ำหรืออาบน้ำ ต้องเดินลงไปตามทางชันๆ และพอถึงที่ราบริมห้วยก็ต้องเดินผ่านหาดทรายไปอีกร่วม 50 เมตร จึงจะถึงน้ำ
“อาบน้ำเสร็จ เดินขึ้นมาเหงื่อชุ่มอีก” ทุกคนบ่นๆ
ข้อดีของการอยู่ที่นี่คือ เราอยู่ในตำแหน่งที่สูงมองเห็นลำห้วยกว้างไกลทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ตอนเช้ามืดบางวันหมอกปกคลุมหนาทึบ เสียงน้ำกระฉอกเพราะมีสัตว์เดินข้ามน้ำ
ตอนบ่ายๆ อากาศอบอ้าว กวางแม่ลูกลงมาเล่นน้ำ และเพลิดเพลินอยู่กับหญ้าเขียวๆ ริมห้วย แม้จะอยู่ในช่วงเดือนเมษายนเป็นฤดูแล้ง แต่ฝนยังตกต่อเนื่อง ป่าคงสภาพเขียวชอุ่ม อาหารอุดมสมบูรณ์ เหยื่อของสัตว์ผู้ล่ามีทั่วไป
การทำงานกับสัตว์ป่า มีคำอันเหมาะสมอยู่ นั่นคือ รอ
ในคืนข้างขึ้น อย่างเช่น ขึ้น 15 ค่ำ หรือแรมหนึ่งค่ำ การอยู่ที่บ้านหลังเดียว ผมอยู่กับสภาพแวดล้อมงดงาม แสงจันทร์สว่างนวล ลำห้วยมีฉากหลังเป็นทิวเขาทอดยาวซับซ้อน สายน้ำไหลเอื่อยๆ เห็นชัดเจนภายใต้แสงจันทร์
อยู่ในป่า ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ผมนึกเสมอๆ ว่า หากเทียบที่นี่กับสภาพความเป็นไปของเมือง
ที่นี่ดูคล้ายจะเป็นอีกโลกหนึ่ง โลกซึ่งเหล่าสัตว์ป่าเป็นเจ้าของ
แต่เป็นโลกที่เล็กและแคบลงทุกวัน…