The Blue Drink จาก ‘ไวน์สีฟ้า’ ถึง ‘เบียร์สีน้ำเงิน’/บทความพิเศษ จักรกฤษณ์ สิริริน

บทความพิเศษ

จักรกฤษณ์ สิริริน

 

The Blue Drink

จาก ‘ไวน์สีฟ้า’ ถึง ‘เบียร์สีน้ำเงิน’

 

หากพูดถึง “เหล้า” และ “เบียร์” แล้ว คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ที่มีโทนสีเหลืองมากกว่าสีอื่น

“เบียร์โทนเหลือง” เกิดจากสีของ Malt หากต้องการให้เป็น “เบียร์” มีสีทองแดง หรือสีเข้มจนดำ ก็ต้องใช้เวลาอบ Malt ให้นานขึ้นกว่าปกติ

ส่วนโทนเหลือง หรือสีอำพันของ “เหล้า” เกิดจากสีของเนื้อไม้โอ๊ก ที่ถูกดึงออกมาปนกับเหล้าในถังบ่ม ซึ่ง “เหล้า” บางยี่ห้ออาจแต่งสีคาราเมลเพิ่มเพื่อให้สีเข้มขึ้น และหอม

นอกจากโทนเหลืองของ “เหล้า” และ “เบียร์” แน่นอน สีของ “ไวน์แดง” มาจาก “องุ่นดำองุ่นแดง” และ “ไวน์ขาว” ก็มาจากสีของ “องุ่นขาวองุ่นเขียว”

มนุษยชาติรู้จัก “ไวน์” และ “การทำไวน์” มาตั้งแต่เมื่อ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล

ในปัจจุบัน “ไวน์” ที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับจากคนทั้งโลก เห็นจะเป็น “ไวน์” จาก “ทวีปยุโรป”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แถบ “ยุโรปใต้” อันมี “ฝรั่งเศส” “อิตาลี” “โปรตุเกส” และ “สเปน” เป็นชนชาติหลักๆ

ขณะเดียวกัน “ไวน์” จาก “ทวีปอเมริกา” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อเมริกาใต้” เช่น “ชิลี” ก็มีชื่อเสียงไม่น้อยหน้า “ไวน์ยุโรป”

แน่นอนว่า “ไวน์” ที่มนุษยชาติรู้จักกันมานานมี 2 สี หนึ่งก็คือ “ไวน์แดง” หรือ Red Wine

ซึ่งหากเรามองในแง่มุมทางวัฒนธรรมอาหารแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่า “ไวน์แดง” นิยมดื่มร่วมกับเมนูเนื้อ

ส่วนสีที่สองนั้น คือ “ไวน์ขาว” หรือ White Wine ที่ขึ้นชื่อลือชาในแง่การดื่มร่วมกับเมนูปลา

แม้ผู้คนในวงกว้างจะรู้จักไวน์ทั้ง 2 สี คือ “ไวน์ขาว” และ “ไวน์แดง” กันมานาน ทว่า โลกใบนี้ยังมี “ไวน์” อีก 2 ชนิด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักดื่ม

พูดอีกแบบก็คือ เป็นนวัตกรรมการผลิต “ไวน์” ไม่ให้มีสีที่ซ้ำซากจำเจ

เราจึงได้รู้จัก “ไวน์สีชมพู” ที่บางครั้งก็เรียกกันว่า “ไวน์สีกุหลาบ” หรือ Ros? Wine ซึ่งเป็น “ไวน์” ที่ได้จากการผสมผสาน ระหว่าง “ไวน์แดง” และ “ไวน์ขาว”

นอกจากนี้ ยังมี Sparkling Wine หรือ “ไวน์ซ่า” ซึ่งเป็นการ “เติมก๊าซ” ลงไปใน “ไวน์” ทั้ง “ไวน์แดง” “ไวน์ขาว” และ “ไวน์ชมพู” แต่โดยส่วนใหญ่ มักจะเป็น “ไวน์ขาว”

โดยที่อาจมีการเข้าใจผิดกันตลอดมา ว่า Sparkling Wine ทุกชนิด คือ Champagne หรือ “แชมเปญ”

แต่อันที่จริงแล้ว การจะเรียก Champagne ได้ ต้องเป็น Sparkling Wine ที่ผลิตในแคว้น Champagne ของฝรั่งเศสเท่านั้น

ผลิตที่อื่นไม่เรียก Champagne นะครับ

 

นอกจาก “ไวน์ 4 แบบ” ดังกล่าวแล้ว ทุกวันนี้ โลกของเราได้มีโอกาสทำความรู้จักกับ “ไวน์สีใหม่” หรือจะเรียกว่า “ไวน์แบบที่ 5” ก็ได้

นั่นก็คือ “ไวน์สีฟ้า” หรือ Blue Wine

“ไวน์สีฟ้า” เป็นการนำ “องุ่นดำองุ่นแดง” ที่ใช้ทำ “ไวน์แดง” และ “องุ่นขาวองุ่นเขียว” ที่ใช้ทำ “ไวน์ขาว” มาบ่มเข้าด้วยกัน

ส่วน “สีฟ้า” นั้น ได้มาจากสารสกัด Anthocyanin ที่อยู่ใน “เปลือกองุ่น” และเติม “สีคราม” ลงไปอีกเล็กน้อย จนได้ออกมาเป็น Blue Wine

ตัวอย่างสำคัญก็คือ Blue Wine หรือ “ไวน์สีฟ้า” ยี่ห้อ G?k และยี่ห้อ G?k Live

G?k และ G?k Live เป็นผลผลิตจากบริษัท Start-up น้องใหม่ไฟแรง “สัญชาติสเปน” ครับ

G?k และ G?k Live ถือเป็นนวัตกรรมที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง University of the Basque Country กับ Azti Tecnalia ซึ่งเป็นแผนกวิจัยด้านอาหารของแคว้น Basque “ประเทศสเปน”

โดยฐานการผลิต “ไวน์สีฟ้า” G?k และ G?k Live ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ไวน์สีฟ้า” ตัวแรกของโลก หรือ The World’s First Blue Wine นั้น อยู่ที่แคว้น Bierzo

G?k และ G?k Live ออกวางตลาดครั้งแรกใน “สเปน” บ้านเกิด เมื่อปีกลาย ด้วยกระแสตอบรับหลังจากเปิดตัวที่ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะวางจำหน่ายไม่นานก็ขายไปได้แล้วเหยียบ 100,000 ขวด

นอกจาก “สเปน” G?k และ G?k Live ยังมีวางขายใน “อังกฤษ” “ฝรั่งเศส” และ “เยอรมนี” สนนราคาขวดละ 8 ยูโร

หลังจากวางตลาดไม่นาน University of the Basque Country และ Azti Tecnalia ได้ร่วมกันจัดทำการสำรวจตลาด

ผลการสำรวจพบว่า คนที่ชื่นชอบ “ไวน์สีฟ้า” ยี่ห้อ G?k และยี่ห้อ G?k Live นั้น อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25-35 ปี

ซึ่งถือเป็น “คนวัยทำงาน” ที่ชอบลิ้มลองของใหม่ๆ นั่นเองครับ

 

จาก “ไวน์สีฟ้า” หรือ Blue Wine เราจะไปกันที่ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ระดับ Popular อีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ “เบียร์”

เพื่อให้เข้าชุด The Blue Drink จาก “ไวน์สีฟ้า” ถึง “เบียร์สีน้ำเงิน” ซึ่งต้องยอมรับว่า “ชาวยุโรป” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ยุโรปใต้” นั้น เป็น “เซียนเหยียบเมฆ” ทางด้านนี้จริงๆ

เพราะ “ไวน์สีฟ้า” ยี่ห้อ G?k และยี่ห้อ G?k Live นั้นเป็นของ “สเปน” ส่วน “เบียร์สีฟ้า” ต่อไปนี้ เป็นของ “ฝรั่งเศส”

นั่นก็คือ Hoppy Urban Brew

Hoppy Urban Brew เป็นบริษัทผลิต Craft Beer “สัญชาติฝรั่งเศส” ที่ได้สร้างนวัตกรรมสกัด “สีจากสาหร่าย” เพื่อทำออกมาเป็น “เบียร์สีน้ำเงิน”

โดย Hoppy Urban Brew โรงกลั่นเบียร์แห่ง “ประเทศฝรั่งเศส” ถือเป็นผู้ผลิต Craft Beer เจ้าแรก ที่ริเริ่มการนำเอาสาหร่ายที่มีสารสีน้ำเงินตามธรรมชาติ

มาใช้เพื่อแต่งแต้มสีสัน “เบียร์” ให้เกิดเป็น “สีน้ำเงิน”

โดย “เบียร์สีน้ำเงิน” ดังกล่าว ได้รับการออกแบบฉลากผลิตภัณฑ์ภายใต้ Brand ที่มีชื่อว่า Line

ซึ่งถือเป็นผลพวงจากความร่วมไม้ร่วมมือระหว่างบริษัทที่ต้องการสนับสนุนการใช้สาหร่ายเป็นอาหารเสริม กับผู้ผลิต Craft Beer ที่กำลังมองหาวิธีในการทำให้เครื่องดื่มของตน มี “อัตลักษณ์” ที่ไม่เหมือนใคร

 

Sebastien Verbeke แห่ง Hoppy Urban Brew เป็นบริษัทผลิต Craft Beer บอกว่า “เบียร์สีน้ำเงิน” ของพวกเรานี้ กำลังได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคม “ฝรั่งเศส” เป็นอย่างมาก

“สีน้ำเงินของเรา ได้มาจากสีของสาหร่าย Spirulina จากบริษัท Etika Spirulina ที่ได้ทำฟาร์มสาหร่ายเพาะปลูกอยู่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส” Sebastien Verbeke กระชุ่น

โดยสาหร่าย Spirulina จะมีองค์ประกอบสำคัญที่เรียกว่า Phycocyanin ที่ทำให้ “เบียร์” เปลี่ยนเป็น “สีฟ้า” ทันทีที่มีการนำสาหร่าย Spirulina ดังกล่าว ไปใช้ในกระบวนการผลิต “เบียร์” Sebastien Verbeke สรุป

ด้าน Mathilde Vanmansart ผู้เชี่ยวชาญด้าน “เบียร์” จากประเทศ “ฝรั่งเศส” ระบุว่า หลังจากได้ลองลิ้มชิม “เบียร์สีน้ำเงิน” แล้ว อยากบอกว่า “เป็นเบียร์เบาๆ”

“Hoppy Urban Brew มีรสชาติที่เกิดจาก Hop กลิ่นออกโทนผลไม้ สิ่งเดียวที่บ่งบอกว่ามีองค์ประกอบจากสาหร่าย Spirulina ก็คือ “สีน้ำเงิน” Mathilde Vanmansart ระบุ

Xavier Delannoy เจ้าของฟาร์มสาหร่าย Spirulina ชี้ว่า Hoppy Urban Brew ได้ค้นพบสูตรผสมสาหร่าย Spirulina กับรสชาติ Craft Beer ที่ลูกค้าชื่นชอบ

เพราะเพียงแค่ 3 เดือนที่นำออกวางจำหน่าย คือระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จนถึงเดือนปัจจุบัน Hoppy Urban Brew มียอดขาย “เบียร์สีน้ำเงิน” มากถึง 15,000 ขวด

โดย Hoppy Urban Brew กำลังเตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิต “เบียร์สีน้ำเงิน” ให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในอนาคตอันใกล้

แม้โลกของเราจะมีเครื่องดื่ม Cocktail หลายสูตรที่เป็น “สีฟ้า” มาก่อน “ไวน์” และ “เบียร์”

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ไวน์สีฟ้า” และ “เบียร์สีฟ้า” เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในมุมมองของ “แฟนพันธุ์แท้ไวน์” และ “เซียนเบียร์” ครับ!